งามแบบมีตัวช่วย

งามแบบมีตัวช่วย

งามแบบมีตัวช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวคนไหนหายใจเข้าออกเป็นคำว่า ‘สวย' หัวข้อนี้เหมาะกับคุณมากถึงมากที่สุด โดย ‘ไลฟ์เซ็นเตอร์' ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจาก Pleroma Clinic มาแนะวิธีดูแลความสวยทุกกระเบียดนิ้ว เพราะไม่เพียงแค่ใบหน้า ผิวพรรณ และรูปร่าง ที่ต้องใส่ใจ แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องดูแลให้เนี้ยบนิ้งด้วยเช่นกัน


ฟัน: ปกติฟันของเราจะมีสีขาวเป็นมันวาว แต่ที่ฟันกลายเป็น สีเหลืองแลดูไม่สวยงาม (อาจเป็นเพียงบางซี่หรือทุกๆ ซี่) นั่นเพราะ รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีสีเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ รวมถึงการสูบบุหรี่ จัดฟัน และแปรงฟันไม่สะอาด (ทำให้มีคราบอาหาร แบคทีเรีย และหินปูน มาเกาะติดสะสมทีละน้อย จนเห็นเป็นสีเหลือง น้ำตาล หรือดำ ติดตามซอกฟัน) และอาจมาจากการรับประทานยา เตตราไซคลิน ซึ่งมีผลต่อสีของฟันด้วย

วิธีแก้ไข: ลอง ใช้เจลฟอกฟันขาวนำเข้าจากต่างประเทศที่มีขาย ในท้องตลาด ในเมืองไทยมีจำหน่าย 2 ยี่ห้อ คือ บีแดซเซิลของออสเตรเลีย และสปาร์คเคิลจากอเมริกา การใช้ Carbamide Peroxide ฟอกสีฟันแบบนี้ คือการปล่อยออกซิเจนให้ซึมเข้าสู่รูพรุนของฟันตามธรรมชาติ และขจัดคราบต่างๆ จากภายในโดยไม่ทำลายเนื้อฟัน ให้สีฟันขาวสดใสจากภายใน ขาวนาน และปลอดภัยต่อเคลือบฟัน สามารถทำซ้ำได้ แต่ข้อควรระวังก็คือ ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีแผลในช่องปากและผู้ที่ใส่ อุปกรณ์จัดฟัน

 

ร่องแก้ม: สาเหตุ ของร่องแก้มลึก นอกจากผิวสูญเสียคอลลาเจนตามธรรมชาติ อายุที่เพิ่มขึ้น หรือแสงแดดอันร้อนแรงแล้ว ความเครียดเรื้อรัง การสูบบุหรี่ รวมไปถึงการอดนอน ก็มีส่วนทำให้ผู้หญิงเราดูแก่ก่อนวัยและมีร่องแก้มลึกได้

วิธีรักษา: ที่ ได้ผลดีคือการฉีดสารเติมเนื้อผิว หรือที่มักเรียกว่า ‘ฉีดคอลลาเจน' หลายคนอาจกลัวเรื่องการฉีดสารต่างๆ เข้าผิวหน้า เพราะเคยเห็นคนที่ฉีดแล้วหน้าเบี้ยวย้อยหรือดูไม่เป็นธรรมชาติจากการใช้ยา ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ซิลิโคนเหลว ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับขององค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา หากนำมาฉีดเพื่อความงามทุกประเภท เพราะอาจไหลเปลี่ยนที่ เกิดก้อนแข็งและสีผิวเปลี่ยนได้ อย่างไรก็ตาม Skin Filler หรือสารที่แพทย์นิยมใช้ฉีดเพื่อเติมผิวให้เต็มมากที่สุดก็ คือ กรดไฮยาลูโรนิก - Hyaluronic acid (HA) โดยใช้รักษาผิวที่เป็นร่องลึกหรือเป็นหลุม เช่น ร่องแก้ม ร่องหน้าผาก ร่องใต้ตา หลุมแผลเป็นชนิดนุ่มต่างๆ สารดังกล่าวเป็นสารสังเคราะห์เลียนแบบโปรตีน ธรรมชาติที่มีอยู่ในผิว จึงไม่เป็นอันตรายใดๆ โอกาสแพ้มีน้อยมากจนไม่จำเป็นต้องทดสอบอาการแพ้ก่อน หลังจากฉีด HA จะค่อยๆ สลายตัวภายในระยะเวลา 6-12 เดือน จึงหมดกังวลเรื่องการสะสม อีกทั้งจะไม่ไหลย้อยหรือเคลื่อนที่ไปจากบริเวณที่ฉีด เนื่องจากขนาดโมเลกุลไม่ใหญ่และหนักเหมือนซิลิโคนเหลว แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาแก้มห้อยมากจนร่องแก้มชัด แนะนำให้กำจัดไขมันที่ หย่อนคล้อยออกไป ปัจจุบันสามารถทำได้โดยการฉีดสลายไขมัน (Fat Dissolve) เข้าใต้ผิวเพื่อสลายไขมันโดยตรง ซึ่งจะช่วยยกกระชับผิวบริเวณนั้นได้อีกด้วย

 

รูขุมขนกว้าง: มักพบในผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม เนื่องจากจะมีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติปริมาณมาก โดยเฉพาะบริเวณทีโซนของใบหน้า ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง โดยทางออกของน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวที่สร้างขึ้นมานี้ก็คือรูขุมขน ดังนั้นเมื่อสร้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมามาก รูขุมขนก็จะขยายกว้างเพื่อให้ระบายออกได้ง่าย นอกจากนี้ อีกหนึ่งสาเหตุคือการมีผิวหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ เพราะเมื่อผิวหยาบกร้าน รูขุมขนจะขยายกว้างขึ้นได้

วิธีแก้ไข: ใช้โทนเนอร์ช่วยลดความมันและกระชับรูขุมขน หรือทำ ทรีตเมนต์กระชับผิว เช่น กระชับผิวด้วยคลื่นเสียงหรือเครื่องกระตุ้นกล้ามเนื้อผิวหน้า

 

ผมเสีย: ผม สุขภาพดีควรมีความชุ่มชื้นอยู่ที่ 10% หากน้อยกว่าระดับนี้ จะทำให้ความสามารถในการรักษาระดับความชุ่มชื้นของผมลดลง ทำให้ผมขาดน้ำหนัก แข็งกระด้าง ส่วนสาเหตุของผมแห้งเสียนั้น มีมากมายหลายประการ อาทิ สระผมบ่อยเกินไป หรือใช้แชมพูแรงๆ ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติของผมที่ช่วยให้ผมเงางามมลายหายไปหมด ใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมเป็นประจำ ทำให้เกล็ดผมที่เคลือบผมชั้นนอกสุดหลุดออก เกิดจากสารเคมีของน้ำยาย้อมผม ยืดผม และดัดผม เกิดจากสภาพแวดล้อมคือ แสงแดด อากาศร้อน และอากาศแห้งที่มีความชื้นในอากาศต่ำ ได้รับคุณค่าทางอาหารที่ดีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะโอเมก้า 3 ที่พบได้ในน้ำมันปลาและปลาทะเลน้ำลึกอย่างแซลมอน) รวมไปถึงจากกรรมพันธุ์ โดยเฉพาะคนผิวแห้งที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันให้ความชุ่มชื้นมีน้อยเกินไป

วิธีแก้ไข: หลังสระผม ให้บำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมทุกครั้ง หากหนังศีรษะมันง่ายหรือมีผมมัน หลีกเลี่ยงการใช้ครีมนวดผมทั่วศีรษะ แต่ให้ใช้เฉพาะส่วนปลายผม หรือห่างจากหนังศีรษะประมาณ 3-4 นิ้ว นอกจากนี้ ไม่ควรสระผมบ่อยเกินไป หากผมแห้งควรสระผมเพียง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ บำรุงผมด้วยทรีตเมนต์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยเติมช่องว่างของเกล็ดผมที่หลุดออกไป ทำให้ผมสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ดื่มน้ำสะอาด รับ-ประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูง เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน กุ้ง เต้าหู้ขาว และนมถั่วเหลือง สวมหมวกเมื่ออยู่ท่ามกลางแดดแรง นอกจากนี้ แนะนำให้ใช้เซรั่มบำรุงผมหลังสระชนิดไม่ต้องล้างออก ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook