Animal Therapy จั๊กจั่น อคัมย์สิริ

จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข

วันนั้นเรานัดพบจั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข พร้อมน้องแมวสองตัว (จิ๋วจิ้วและจูเนียร์) แน่นอนค่ะ เธอขออุ้มเจ้าสี่ขาขนฟูขึ้นปกนิตยสารชีวจิตด้วย

จิ๋วจิ้ว-แมวผู้พี่ตื่นกล้องมาก พานจะตะกุยจั๊กจั่นตลอดเวลา จนพลาดภาพสวยๆไปหลายช็อต สุดท้ายปกของเราจึงเหลือแต่จูเนียร์-แมวผู้น้อง ซึ่งทำตัวเรียบร้อยเหมือนตุ๊กตา ไม่ว่าเจ้าของจะยก หิ้ว อุ้ม หรือกอด มันก็ทำตาแป๋วน่ารักสู้กล้องเสมอ

ชีวจิตไม่มีนางแบบขึ้นปกพร้อมสัตว์เลี้ยงบ่อยนัก ฉะนั้นเมื่อมีบ้างสักครั้ง จึงต้องถามถึงความรักความผูกพันของสาวสวยกับเจ้าเหมียวน้อยให้ได้เรื่อง

สัตว์เลี้ยงบำบัด
"แมวของ(จั๊ก)จั่นมีสามตัวค่ะ" ดาราสาวเล่า "ตัวแรกชื่อ พี่เจ๋ง มีสีขาว จั่นได้มาจากวัดทุ่งครุ ตามโครงการหาบ้านให้แมวผ่านเว็ปพันธุ์ทิพย์ ตอนนั้นเห็นรูปพี่เจ๋งในเว็ปแล้วถูกชะตามาก ทั้งที่เขาติดโรคเยอะมาก ตาเกือบบอด แต่ก็รักษาจนหาย

"อีกตัวชื่อจิ๋วจิ้ว เรื่องมีอยู่ว่าลูกชายพี่ที่ทำงานในกองละครเรื่องหนึ่งได้ยินเสียงลูกแมวร้องในหมู่บ้าน เลยเก็บมา แต่ด้วยความที่บ้านเขาเลี้ยงสุนัข จั่นเลยรับมาเลี้ยง

"ตอนแรกคิดว่าเป็นแมวไทย แต่โตขึ้น เลยรู้ว่ามีพันธุ์เมนคูนผสมด้วย ขนตรงหางและคอเป็นพวง ตอนนี้อายุ 9 เดือนแล้ว จิ๋วจิ้วเป็นโรคไตพิการตั้งแต่กำเนิด

"ส่วนน้องเล็กตัวล่าสุดชื่อจูเนียร์ เป็นพันธุ์สก็อตติสโฟลด์หูพับ จั่นได้เป็นของขวัญวันเกิดจากพี่ที่เป็นเจ้าของฟาร์มแมวที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย เขาเห็นว่าเราเลี้ยงแมวกำพร้าได้ดี เลยอยากให้มีแมวดีๆเลี้ยงบ้าง"

ก่อนเริ่มเลี้ยงเจ้าเหมียว จั๊กจั่นชอบสุนัขมากกว่า แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องสถานที่ที่เป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งเกรงเรื่องเสียงเห่ารบกวนเพื่อนบ้าน และความสะอาด ประกอบกับเห็นกริยาท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของแมว เธอเลยตัดสินใจเลี้ยงพี่เจ๋ง

"เพราะจั่นทำงานเหนื่อย เลยอยากเลี้ยงสัตว์ พอเริ่มเลี้ยงแมว ก็หลงรัก มันมีเสน่ห์แบบที่เราไม่เคยเห็น แต่ว่าต้องค่อยๆ เรียนรู้นิสัย ซึ่งแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน

"แมวของจั่นทุกตัวรักสะอาด เข้าห้องน้ำเป็นที่เป็นทาง ไม่เรี่ยราด ฝึกง่าย ไม่เหมือนสุนัข ซึ่งต้องฝึกเรื่องขับถ่ายอย่างหนัก"

จากการศึกษาวิจัยเรื่องสัตว์เลี้ยงช่วยบำบัดมนุษย์อย่างไรหลายต่อหลายครั้ง ยืนยันว่าการสร้างความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงช่วยให้สุขภาพจิตของคนดีขึ้นได้

โดยเฉพาะในการทดลองกับกรณีของผู้ที่ป่วยทางจิต คนพิการ หรือเด็กออทิสติก พบว่าการสัมผัส เลี้ยงดู กอดและลูบไล้สัตว์ช่วยเยียวยาจิตใจ และทำให้คนๆนั้นสามารถสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นสังคมได้ดี (คอลัมน์รู้เรารู้โรค นิตยสารชีวจิตฉบับ 68 วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ.2544)

นายแพทย์พันธุ์ศักดิ์ สิริรัตน์เลขา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น กล่าวว่า สัตว์ช่วยเสริมสร้างสมาธิ และเพิ่มแรงจูงใจในการทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

จั๊กจั่นก็ได้รับผลเช่นนั้นจากเจ้าเหมียวทั้งสามเหมือนกัน

"แมวจั่นจะเหมือนสุนัข ฉลาดมาก บางทีเวลาเราหงุดหงิด ร้องไห้ เสียใจ หรือโกรธ มันจะรับรู้ความรู้สึกนั้นได้ อาจจะไม่ได้มาเลียเหมือนสุนัข แต่มันมาเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ๆ

"ปกติแมวจะไม่เป็นแบบนี้ อยากมาหาเจ้าของก็มา ไม่อยากมาก็ไม่มา แต่แมวของจั่นจะมาอยู่ด้วยตลอด เรียกว่าเราอยู่ตรงไหน แมวอยู่ตรงนั้น

"เวลาจั่นรู้สึกไม่ดี แมวเลยช่วยผ่อนคลายมาก"

ความที่จั๊กจั่นไม่ได้ปล่อยให้เจ้าเหมียวอยู่แต่ในบ้านเพียงอย่างเดียว ตรงกันข้ามเธอพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ไม่ว่าจะทำงานในกองถ่าย สถานีโทรทัศน์ หรือเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้า แมวทุกตัวจึงไม่กลัวคน โดยเฉพาะเจ้าจูเนียร์-นายแบบปกฉบับนี้

เราใช้เวลาไม่นาน ช่างภาพและสไตลิสต์ก็ได้ภาพสวยดังใจ (ทั้งนางแบบและแมว) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ้าเหมียวแสนรัก(ของจักจั่น)แสนเชื่องนั่นเอง

เชิญตะวันไม่ใช่ผู้หญิงรักสัตว์หรือเด็กค่ะ (แต่รักดอกไม้..ฮิฮิ) แต่หลังจากเห็นความว่าง่ายของเจ้าเหมียวจูเนียร์ ก็เริ่มเปลี่ยนใจ

บางทีเรื่องราวของดาราสาวสวยกับสัตว์เลี้ยงครั้งนี้ อาจกลายเป็นทางเลือกหนึ่งของวิธีเยียวยาจิตใจของใครอีกหลายคน เพื่อสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

วิธีดูแลสุขภาพของจั๊กจั่น
• ศึกษาธรรมะด้วยการเข้าวัดปฏิบัติธรรมบ้าง เนื่องจากในชีวิตการทำงานที่ต้องเจอคนมากมาย วุ่นวาย เมื่อมีโอกาสอยู่ในวัดซึ่งเงียบสงบ จึงได้ทบทวนสิ่งที่ผ่านมา

• เชื่อว่าทุกอย่างไม่แน่นอน อย่ายึดติดหรือคาดหวังกับใครหรืออะไรมากเหินไป ความสุขหรือความทุกข์นั้นขึ้นอยู่กับจิตใจเรา จึงไม่ควรคิดมากหรือฟุ้งซ่าน

• เชื่อว่าทำดีได้ดี เหมือนตัวละครเรื่องรักดี ซึ่งเธอแสดงนำ (ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7) เพราะกรรมเป็นผลของการกระทำ หากไม่เคยคิดร้ายกับใคร เราจะได้รับสิ่งดีตอบแทน

• พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (แม้ตอนนี้จะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง) เพื่อเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อมสำหรับการทำงานหนัก อย่าลุกขึ้นมาออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา เพราะบทบาทของตัวละครที่ได้รับ

• กินอาหารสุขภาพทั่วไปอย่างเอร็ดอร่อยให้เป็นนิสัย (ยิ่งถ้ามีคนในครอบครัวทำอยู่แล้วก็ยิ่งดี ในรายของจั๊กจั่น แม่ของเธอเป็นชีวจิตมานานกว่าสิบปี จึงได้กินอาหารสุขภาพมาตั้งแต่เด็ก) เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ผักและผลไม้ โดยเลี่ยงเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว

• กินอาหารเสริมบ้าง เช่น งาดำผสมในนม (นมถั่วเหลืองจะยิ่งดี) วิตามินซี