ทำอย่างไรดี งานหนัก มีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ไม่มีความสุขเลย
ทำอย่างไรดี...ที่ออฟฟิศงานหนัก แถมยังมีแต่เรื่องหงุดหงิดหัวใจกับเพื่อนร่วมงาน ไม่อยากไปทำงาน ไม่มีความสุขเลย
ถ้าทำงานไป...ตกนรกไป ก็กลับบ้านไปนอนต่อไม่ต้องมาทำงานหรอกค่ะ ถ้าเป็นที่เสถียรธรรมสถาน เราจะไม่ทำงานกับคนเช่นนี้เพราะคนเช่นนี้นอกจากงานจะไม่ได้แล้วใจก็ยังจะไม่รอดด้วย
เสถียรธรรมสถานสร้างเมื่อ พ.ศ. 2530 หลังจากข้าพเจ้าบวช 7 ปี คือปี พ.ศ. 2523
สมาชิกของชุมชนคนแรกมาพร้อมกับการบวชของข้าพเจ้า เขาเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่มีต้นทุนชีวิต เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็จบบทบาทการเป็นนักเรียน เริ่มต้นทำงานช่วยเหลือครอบครัว อายุ 13 รอนแรมเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหางานทำ เป็นเด็กกดลิฟต์ของโรงแรมแห่งหนึ่งได้ไม่นาน ก็มาเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนของเรา
ไม่นานเราก็เริ่มมีสมาชิกเพิ่มขึ้น
เพราะเป็นการบุกเบิก งานจึงหนักอย่างที่เรียกได้ว่าหนักหนาสาหัส แต่พวกเขาไม่เคยทะเลาะกันเพราะงานที่หนักหนานั้นเลย
เมื่อ 25 ปีผ่าน เขาคนเดิมได้รับมอบหมายให้คุมการก่อสร้างอาคารสาวิกาสิกขาลัย เขาทำงานหนักทุกวันด้วยคาถาเดียวที่ข้าพเจ้าให้ไว้...คือไปประสานประโยชน์ด้วยจิตที่ไม่ขุ่นมัว ด้วยงานที่หนัก ทุกวันจึงเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่เขาไม่เคยขุ่นมัว
3 เดือนให้หลัง อาคารแล้วเสร็จ เสร็จอย่าง ‘งานก็ได้’ และ ‘ใจคนทำก็รอด’ เหงื่อทุกหยดเป็นดังน้ำทิพย์ราดรดใจ
ในกรณีของคุณ...
แทนที่จะถามว่า ทำอย่างไรดี...ไม่อยากไปทำงาน เพราะไม่มีความสุขเลย
ทำไมไม่ถามว่า ทำอย่างไรดี...จึงจะไม่ขุ่นมัวกับสิ่งที่เจอ...เสียมากกว่า
จัดการใจตัวเองได้...คำพูดหรือการกระทำของใคร ๆ ก็ไม่มีความสำคัญทั้งนั้น
อย่ามัวแต่คิดจะเดินออกไปจัดใจคนอื่นเลย
ลองเดินเข้ามาดูใจและจัดใจของตัวเองดีกว่าไหม
จะได้ไม่ต้องอดทนจนต้องเม้มปาก...ให้แก่ก่อนวัย!