ได้เวลาอัปเดทแฟชั่น เรียบ แต่โก้ สไตล์ Polo Ralph Lauren กันแล้ว กับ คอลเลคชั่น Fall Winter 2018 ที่มีการผสมผสานอย่างลงตัว มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาตามติดกัน

Nautical

แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานดีไซน์ในคอลเลคชั่นนี้ เกิดจากการนำสไตล์การแต่งตัวของนาวิกโยธิน มาผสมผสานกับความเป็นอเมริกันเดนิมแท้ๆ และ หยิบเอาผ้ากำมะหยี่ เนื้อผ้าที่เป็นที่ชื่นชอบตลอดกาล มาเข้าคู่กันกับลายสก๊อต และ ลายดอกไม้แบบวินเทจ ให้ลุคหญิงสาวยุค90สุดชิค

ผ้าคราม(Indigo) ถูกจับมาอัพลุคกับชุดทำงานสไตล์ French ในโทนสีฟ้า สวมคู่กับเสื้อสเวตเตอร์ลายทาง แบบกะลาสี ซึ่งเป็นธีมหลักของแฟชั่นเดนิมในคอลเลคชั่นนี้

เสื้อสเวตเตอร์ไหมผสม(Novelty) ถูกหยิบมาใช้ในแพทเทินที่หลากหลาย มีทั้งลายถักนูน (Arans) ผ้าครามเย็บแบบตัดแปะ(rags) เสื้อคาร์ดิแกนถักสไตล์ผ้าคลุมไหล่ และ เสื้อคอเต่าที่สามารถพับคอได้ ทั้งหมดเอามามิกซ์แอนด์แมทช์ให้คุณได้ลุคใหม่ๆ

นอกจากนั้นในคอลเลคชั่นนี้ ยังมีอีกไอเท็มที่เป็นไฮไลท์ นั่นก็คือ เสื้อผ้าในลายสก๊อตไล่เฉดสีฟ้าทำให้ลุคคลาสสิคของนาวิกดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น และ ชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มที่ออกแบบได้สัมผัสความเป็นผู้หญิงเมื่อพบเห็น

Naval

คอลเลคชั่นนี้เป็นหัวใจของ ราล์ฟ ลอเรน ฤดูใบไม้ร่วงเลยก็ว่าได้ ธีมสีที่นำมาใช้เป็นหลักในคอลเลคชั่นนี้ คือ สีน้ำตาลและสีเทาถอดแบบจากสีของต้นอูน (Elderberry) สีเขียวเข้มและสีฟ้าเหมือนท้องทุ้งหญ้า สีเหล่านี้ทำให้คอลเลคชั่นนี้เต็มไปด้วยสีสันสะดุดตาน่ามอง

แนวทางการออกแบบในคอลเลคชั่นนี้มีเค้าโครงมาจาก แฟชั่นเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของโปโล ที่มาในผ้าสักหลาดชนิดหนานุ่ม (tweeds) และผ้ากำมะหยี่(flannels) ผสมผสานอย่างลงตัวกับเทคนิค การเล่นกับสัดส่วน (proportions) ให้สื่อถึงคาแรคเตอร์แบบ “tomboy” เปิดให้เห็นข้อเท้าเพียงเล็กน้อย ให้ลุคสุดคูลเมื่อสวมใส่ เทคนิคในการออกแบบดังกล่าว จะถูกนำมาใช้ในการทำเสื้อสุภาพสตรีสุดโรแมนติก เสื้อสเวตเตอร์ และชุดเดรสที่อยู่ในคอลเลคชั่น และนอกจากลุคที่สตรองนั้น ผลงานดีไซน์ในคอลเลคชั่นนี้ได้รับการออกแบบให้คำนึงถึงประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานให้สามารถสวมใส่ได้ทั้งวันทำงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมอดี้ Annie Hall ในแบบโมเดิร์นมากขึ้น

ไอเท็ม”Must Have”ของคอลเลคชั่นนี้ คือ เสื้อแจ๊คเกตหนังแกะ หมวกหนังวินเทจสไตล์นิวส์บอย(Newsboy) เสื้อสเวตเตอร์มีสัญลักษณ์ม้าอินทาเซียที่เข้าคู่กันอย่างลงตัวกับงานถักแฮนด์เมด และ เสื้อคอเต่าโอเวอร์ไซส์ขนแคชเมียร์

คาแรคเตอร์ของความเป็นผู้หญิงแฝงอยู่ในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วของคอลเลคชั่น เห็นได้จากเสื้อสเวตเตอร์ผ้าไหมพรมถักลายดาว และ ลายดอกไม้ที่ทำจากผ้าสัมผัสนุ่มละมุนของเสื้อและชุดเดรส เท่านั้นยังไม่พอ ลวดลายของเสื้อผ้า และ เนื้อผ้าที่บางเบาในสีหวานๆให้ความรู้สึกของความเป็นหญิงสาวซึ่งเป็นคาแรคเตอร์ที่ตรงกันข้ามกับแฟชั่นสุภาพบุรุษสุดคลาสสิคโดยสิ้นเชิง

Legacy RL Style

คอนเซปหลักของคอลเลคชั่นนี้คือการนำสไตล์สุดคลาสสิคของราล์ฟ ลอเรนมาสานต่อไปเพื่อบ่งบอกเอกลักษณ์ของแต่ละคน โทนสีดำ สีครีม และสีแดงถูกนำมาใช้กับชุดทักซิโด้ ให้ลุคคูลและเย้ายวน เพอร์เฟคที่สุดเมื่อสวมใส่คู่กับเสื้อ ชุดเดรส และ กระโปรง ให้คุณพร้อมไปปาร์ตี้ได้อย่างมั่นใจ เท่านั้นยังไม่พอยังมีชุดหนังที่ทำขึ้นอย่างลงตัวเพื่อใส่คู่กับชุดเดรสลุคหวาน เสื้อเชิ้ต และ เสื้อสเวตเตอร์ ดีไซน์และทำขึ้นอย่างประณีต มิกซ์แอนด์แมทช์ให้ได้ลุคสวยแบบที่เป็นคุณ

สไตล์การแต่งตัวในคอลเลคชั่นนี้เกิดจากการเติมไอเท็มต่างๆเข้าไปให้ได้ลุคที่สะดุดน่าสนใจ ผ้าทอลายแบบทแยง(Calvary Twill) ที่มากับกระดุมสีทอง การติดสัญลักษณ์สีทองลงบนเสื่อสเวตเตอร์ เสื้อเชิ้ต เสื้อแจ๊กเกต รวมไปถึงเสื้อชั้นนอกรวมถึงหมวก และ การตกแต่งด้วยพู่ที่ให้ลุคแบบร๊อคแอนด์โรล ด้วยแนวคิดที่ว่า มันจะต้องไม่ใช่แค่ แจ๊คเกตNavajoทั่วไป แต่ต้องเข้ากันอย่างลงตัวกับเสื้อแจ๊คเกตสีดำ เสื้อไหม เชิ้ตลายสก๊อต และ เสื้อสเวตเตอร์ ทั้งหมดเป็นไอเท็มสำคัญของแฟชั่นสุดชิคในฤดูใบไม้ร่วงนี้

ไอเท็ม”Must Have”ของคอลเลคชั่นนี้ คือ เสื้อแจ็คเกตหนังแกะประดับด้วยพู่ เสื้อโค้ทบีคอนแบบแฟชั่นเปรู เสื้อแจ๊คเกตแบบไบค์เกอร์แต่งกระดุมโลหะ(Studded) เสื้อแจ๊คเกตขนม้าพันธุ์เล็ก และเสื้อสเวตเตอร์ตกต่างผ้าตัดต่อและถักด้วยมือ

Wear to Work

แนวคิดของเสื้อผ้าที่สวมใส่ไปทำงานได้ เป็นแนวคิดหลักที่ปรับใช้กับทุกๆผลิตภัณฑ์ โดยการดีไซน์ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มคนทำงานอายุระหว่าง 18-34ปี(Millennial customer) และ สามารถตอบโจทย์ลูกค้าเดิมรวมไปถึงลูกค้ากลุ่ม Black Label อีกด้วย

แฟชั่นสุภาพบุรุษสไตล์คลาสสิคและการผลิตที่ค่อนข้างปราณีถูกนำมาผสมผสานในการออกแบบเสื้อและชุดเดรสของสุภาพสตรีเพื่อให้ได้การผสมผสานอย่างลงตัวที่ยังคงความเป็นแบรนด์โปโลเอาไว้

ผ้ากำมะหยี่สีเทาเข้ม น้ำหนักเบา ถูกนำใช้ทำทั้งเสื้อเบลเซอร์ กางเกง กระโปรง และ ชุดเดรส รูปแบบต่างๆที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เพื่อให้คาแรคเตอร์คนที่จริงจังกับงาน นอกจากนั้นแล้วผ้าลายตารางสีเทา และ ลายชิโนริ ถูกนำมารวมอยู่ในคอลเลคชั่นนี้ด้วย

ในคอลเลคชั่นนี้ นอกเหนือจากผ้าขนแกะเนื้อหนาสีดำ และ ผ้าจับจีบขนแกะ แล้วนั้น กางเกง กระโปรง และ ชุดเดรส ลายชิโนริสีขาว ถูกนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ กับ สูทสีดำและเสื้อผ้าไหม ที่ทำให้แฟชั่นในคอลลคชั่นนี้โดดเด่นและน่าจับตามอง

Accessory

โทนสีที่ถูกนำมาใช้ในซีซั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจหลักจากสีเอิร์ธโทน ในเฉดสีของอานม้า สีทราย และ สีมะกอก คอลเลคชั่นของซีซั่นนี้เป็นช่วงต่อกับซีซั่นฤดูใบไม้ร่วง เฉดสีที่นำมาใช้คือสีที่เปล่งประกายของอัญมณีอย่างโกเมนและทับทิม บวกกับศิลปะผ้าทอและลายดอกไม้งานฝีมือ

ในซีซั่นนี้มีสองไอเท็มที่เรียกว่าเป็น Signatiure ของซีซั่นเลยนั้นก็คือMontana Steer head และ Brooke Lock.

Montana Steer head คือ เครื่องประดับแสดงยศที่มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความสามารถ ที่มีการใช้กว่าร้อยปีที่แล้ว มาในสีทองอร่ามลักษณะคล้ายกับทองเหลืองซึ่งสัญลักษณ์นี้ถูกนำมาประดับอยู่บนเครื่องประดับและไอเท็มชิ้นต่างๆของคอลเลคชั่น Montana Schooly.

Brook Lock ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากล็อคกุญแจแบบวินเทจ ของคอลเลคชั่นเฟอร์นิเจอร์ของราล์ฟ ลอเรน ความโค้งมนให้ความรู้สึกของความเป็นผู้หญิงและความมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ความมีมิติถูกนำมาใช้กับทุกการออกแบบในคอลเลคชั่นนี้ ทั้งยังมีการผสมผสานวัสดุต่างๆเพื่อให้การออกแบบมีมิติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดการเลือกใช้หนัง อย่าง หนังกลับชนิดนิ่ม หรือ หนังผิววัว Top Grain อัดลาย รวมไปถึงการออกแบบที่ใช้เทคนิคการวัดจำนวนห่วง(stich gauge) (แบบ Lennox heavy) รวมไปถึงศิลปะการปัก และ การฝังวัสดุลงบนชิ้นงาน ถูกนำมาใช้ในคอลเลคชั่นนี้ด้วย (Lennox Floral Embroidery, Lennox Western Stitch)

อัลบั้มภาพ เท่ๆ คูลๆ Polo Ralph Lauren คอลเลคชั่น Fall Winter 2018 ภาพที่ 18 / 19

เท่ๆ คูลๆ Polo Ralph Lauren คอลเลคชั่น Fall Winter 2018

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

Polo Ralph Lauren เผยโฉมคอลเลคชั่น Transition หรูหรา ในดีไซน์ที่เรียบง่าย