ถ้าทำนิสัยแบบนี้ตอนใช้ ห้องน้ำ อาจทำให้สุขภาพย่ำแย่แบบไม่รู้ตัว

ถ้าทำนิสัยแบบนี้ตอนใช้ ห้องน้ำ อาจทำให้สุขภาพย่ำแย่แบบไม่รู้ตัว

ถ้าทำนิสัยแบบนี้ตอนใช้ ห้องน้ำ อาจทำให้สุขภาพย่ำแย่แบบไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นิสัยแย่ๆ ในการใช้ ห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการแขวนผ้าเช็ดตัวเปียกๆ เอาไว้ หรือการเก็บแปรงสีฟันไว้ในห้องน้ำ อาจเป็นต้นเหตุที่ทำให้สุขภาพของเราย่ำแย่ลงได้ ซึ่งนี่คือรายละเอียด

นำมือถือเข้าไปในห้องน้ำ

ผู้คนในยุคนี้มักจะติดนิสัยในการนำมือถือเข้าไปใช้ในขณะที่นั่งอยู่บนโถชักโครก ซึ่งคุณควรรู้เอาไว้นะว่าในบริเวณนั้นเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ อย่างเช่น อีโคไล โนโรไวรัส ซาลโมเนลลา ชิเกลลา หรือสเตรปโทคอคคัส ที่อาจก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหารได้ หน้าจอมือถือของคุณจึงมีความเสี่ยงที่จะเป็นแหล่งพำนักของเชื้อแบคทีเรียพวกนี้ และทำให้คุณติดโรคขึ้นมาได้

ไม่ทำความสะอาดแปรงสีฟัน

ถ้าคุณมีอาการเจ็บป่วยไม่หยุดหย่อน นั่นก็อาจมีสาเหตุมาจากแปรงสีฟันของคุณก็ได้นะ เนื่องจากแปรงสีฟันคือแหล่งรวมของเชื้อโรคมากมาย ฉะนั้นถ้าคุณไม่ยอมทำความสะอาดให้ดี เชื้อโรคที่แพร่พันธุ์อยู่ในแปรงสีฟันก็อาจก่อให้เกิดโรคภัยกับคุณได้

ไม่ทำความสะอาดห้องน้ำ

การปล่อยให้ห้องน้ำสกปรกนั้นเป็นนิสัยที่ไม่ดีอย่างยิ่ง เพราะอาจก่อให้เกิดคราบสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรคภัยกับเราได้ ฉะนั้น จึงนับเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ที่เราต้องทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำหลังใช้เสร็จแล้ว หรืออย่างน้อยๆ ซักสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี

ไม่เคยเปลี่ยนใยบวบหรือใยขัดตัว

ใยบวบหรือใยขัดตัวเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้อย่างยอดเยี่ยมมาก แต่ถ้าคุณใช้แต่อันเดิมๆ ไม่เคยเปลี่ยนเป็นเวลานานๆ เซล์ผิวหนังที่ตายแล้วรวมทั้งเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ ก็อาจเข้าไปจับตัวสะสมอยู่ในนั้นได้ ฉะนั้นก็ควรเปลี่ยนใยบวบทุกๆ สามถึงสี่สัปดาห์ ส่วนใยขัดตัวแบบที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์นั้น ก็อาจจะเปลี่ยนทุกๆ สองเดือนได้

เปิดฝาชักโครกในขณะกดชักโครก

นี่เป็นนิสัยที่ดูเหมือนจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายอะไร แต่คุณควรรู้เอาไว้ด้วยนะว่า การเปิดฝาในขณะกดชักโครกนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้ห้องน้ำเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเท่านั้นนะ แต่ยังทำให้ห้องน้ำของคุณเต็มไปด้วยเชื้อโรคต่างๆ นาๆ ด้วย ซึ่งผลการศึกษาวิจัยพบว่า การกดชักโครกโดยเปิดฝาทิ้งไว้นั้น จะทำให้น้ำในโถชักโครกเกิดกระเซ็นเป็นละอองขึ้นมาได้ไกลถึง 6 ฟุต ซึ่งก็หมายความว่าแค่กดชักโครกครั้งเดียว เชื้อโรคก็กระจายตัวไปทุกซอกทุกมุมของห้องน้ำได้แล้ว ฉะนั้นก่อนกดชักโครกก็ควรปิดฝาซะก่อนนะ

ล้างมือไม่ถูกวิธี

การล้างมือที่ถูกต้องไปใช่แค่แหย่มือเข้าไปใต้ก๊อกน้ำให้เปียกเท่านั้นนะ แต่คุณควรจะต้องฟอกสบู่และขัดถูเป็นอย่างดีด้วย เพื่อให้แน่ใจว่ามือสะอาดจริงๆ ก่อนจะล้างน้ำเพื่อชำระฟองสบู่ออกไป เสร็จแล้วก็ใช้ผ้าขนหนู หรือกระดาษทิชชูซับมือให้แห้งก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ

แขวนผ้าเช็ดตัวเปียกๆ เอาไว้ในนั้น

ผ้าเช็ดตัวอาจกลายเป็นแหล่งแพร่พันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียก็ได้นะ ฉะนั้น การห้อยผ้าเช็ดตัวเอาไว้ในห้องน้ำก็อาจกลายเป็นการกระทำที่แย่มากๆ เนื่องจากความชื้นและเศษฟองสบู่อาจจับตัวอยู่ตามขนฟูๆ ของผ้าขนหนูได้ ซึ่งนั่นจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี วิธีที่ดีที่สุดในการตากผ้าเช็ดตัวให้แห้งก็คือ คลี่ผ้าเช็ดตัวตากไว้กับราวแขวนโดยไม่ให้เกิดรอยพับ นอกจากนี้ก็ควรซักผ้าเช็ดตัวบ่อยๆ โดยควรซักหลังจากการใช้สามครั้ง หรือสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี

เก็บแปรงสีฟันไว้ในนั้น

การเก็บแปรงสีฟันไว้บนเคาน์เตอร์ในห้องน้ำ อาจทำให้มีความเสี่ยงที่เชื้อแบคทีเรียในอากาศจะเข้ามาจับตัวอยู่บนแปรงสีฟันได้ นอกจากนี้การเก็บแปรงสีฟันไว้ในตู้เก็บของในห้องน้ำ ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นด้วย เนื่องจากขนแปรงจะไม่ยอมแห้งเมื่อเก็บไว้ในนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็วางแปรงให้ตั้งขึ้นไว้ในแก้ว และควรตั้งให้อยู่ห่างจากโถชักโครกด้วย (นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องปิดฝาก่อนกดปุ่มชักโครก)

วางเครื่องสำอางไว้ในนั้น

ถึงแม้ห้องน้ำจะเป็นสถานที่ที่สะดวกสุดในการแต่งหน้า แต่ความชื้นห้องน้ำคือตัวการที่ทำให้ห้องน้ำไม่เหมาะจะเก็บเครื่องสำอางเอาไว้ในนั้น คุณคงไม่อยากให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปแพร่พันธ์ุอยู่ในตลับเครื่องสำอางของคุณหรอกนะ ฉะนั้นถ้าจะให้ดีก็ควรเก็บเครื่องสำอางไว้ในตู้เก็บหรือลิ้นชักในห้องน้ำ นอกจากนี้ก็ควรเก็บอุปกรณ์ในการแต่งหน้า อย่างเช่น แปรง พู่กัน หรือฟองน้ำ ไว้ในตู้เก็บของหรือลิ้นชักด้วย และควรทำความสะอาดด้วยน้ำกับสบู่เป็นประจำด้วย

 

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook