6 วิธีกินเจอย่างฉลาด ทั้งอิ่มบุญและสุขภาพดี
เวียนมาอีกครั้งกับ “เทศกาลกินเจ” หรือบางแห่งที่เรียกกันว่า “เทศกาลถือศีลกินผัก” ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันดีที่หลายคนจะงดการรับประทานเนื้อสัตว์ตลอดระยะเวลา 9 วัน โดยในปี 2018 นี้เทศกาลกินเจจะมีตั้งแต่วันที่ 9-17 ตุลาคม สำหรับจุดประสงค์ในการกินเจของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ กินเพื่อเว้นกรรม กินด้วยจิตเมตตา และกินเพื่อสุขภาพ ทั้งนี้ Tonkit360 ก็มี 6 วิธีกินเจอย่างฉลาด ที่จะทำให้ได้ทั้งบุญและสุขภาพที่ดีมาฝาก จะมีวิธีไหนบ้างนั้นไปดูกันเลย
1. กินให้ครบ 5 หมู่
การที่จะทานอาหารเจให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ก็จะต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งการรับประทานอาหารเจในช่วงเทศกาลถือศีลกินผัก หากรับประทานอาหารเจไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ก็อาจส่งผลต่อการมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น หรือบางคนก็อาจเกิดภาวะการขาดสารอาหารได้เช่นกัน ดังนั้นผู้รับประทานอาหารเจ ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลายชนิด กินให้ครบ 5 หมู่ โดยเลือกทานอาหารจำพวกถั่ว เต้าหู้ และโปรตีนเกษตร เป็นโปรตีนแทนการรับประทานเนื้อสัตว์ สลับกับการรับประทานผลไม้
2. ใส่ใจความสะอาด
ส่วนมากผู้ทานเจในปัจจุบัน มักจะนิยมไปซื้ออาหารเจตามร้านค้า ไม่ค่อยทำอาหารเอง ซึ่งก็เสี่ยงต่อเรื่องของความสะอาด ดังนั้นผู้ปรุงอาหารเจขาย ควรคำนึงเรื่องของความสะอาดให้มาก โดยเฉพาะการทำความสะอาดผักผลไม้ที่นำมาประกอบอาหาร สำหรับวิธีล้างผักผลไม้ให้สะอาดมีหลายวิธี ทั้งล้างด้วยน้ำไหล แช่ในน้ำเปล่า 15 นาที แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู หรือใช้เบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนโต๊ะผสมน้ำ แช่ทิ้งไว้ 15 นาที แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดจะช่วยลดสารเคมีตกค้างได้ และการเลือกดูเครื่องปรุงรส ไม่ว่าจะเป็นซอส ซีอิ๊ว ต้องได้มาตรฐานผ่านการรับรองจาก อย.
3. ไม่ทานรสจัด
ไม่รับประทานอาหารที่ปรุงรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก เพราะอาหารเจมักจะปรุงด้วยวิธีการผัด-ทอดในน้ำมัน หากเป็นไปได้ควรหันมาบริโภคอาหารประเภทต้ม ย่าง อบ ยำ แทนจะดีกว่า ส่วนรสเค็มจัดนั้นต้องอย่าลืมว่า การปรุงอาหารก็จะใช้ซอส ซีอิ๊ว เกลือแทนน้ำปลา ซึ่งเครื่องปรุงเหล่านี้มีปริมาณของโซเดียมสูง ซึ่งจะส่งผลให้ไตทำงานหนัก ฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องปรุงรสเพิ่ม รวมถึงหลีกเลี่ยงการรับประทานผักและผลไม้ดองด้วย
4. อ่านฉลากก่อนซื้อ
สำหรับผู้ที่รับประทานเจและต้องการทำอาหารเอง หรือผู้ที่จะซื้อเนื้อเทียมมาประกอบอาหารเจเพื่อขาย จะต้องอ่านฉลากให้ดีก่อนซื้อ เพราะเนื้อเทียมที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ อดีตทำจากโปรตีนเกษตรสกัดจากถั่ว แต่บางบริษัททำจากแป้งล้วนๆ ซึ่งมีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น แป้งสาลี และหลายประเภทก็ใส่กลิ่น ใส่สี ใส่สารชูรส เพื่อให้เหมือนกับเนื้อสัตว์ให้มากที่สุด จึงค่อนข้างอันตรายสำหรับผู้รักสุขภาพ ฉะนั้นจึงต้องอ่านรายละเอียดให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อมาปรุงอาหาร
5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หลายคนที่สงสัยว่าในเทศกาลกินเจเป็นเทศกาลถือศีลกินผัก แล้วทำไมถึงห้ามไม่ให้ดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ก็เพราะว่าในเทศกาลกินเจนี้นอกจากจะต้องงดรับประทานเนื้อสัตว์แล้ว คุณยังต้องรักษาศีล 5 อีกด้วย ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดไปด้วย ซึ่งทางที่ดีให้ดื่มเป็นน้ำเปล่านั้นดีที่สุดแล้ว เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำแล้ว น้ำเปล่ายังช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื่นเปล่งปลั่งอีกด้วย
6. หลีกเลี่ยงแป้งหรือไขมัน เน้นกินผักผลไม้
อาหารเจส่วนใหญ่จะมาในรูปแป้งและเป็นอาหารทอด ซึ่งแป้งและไขมันไม่ทำให้ได้สุขภาพที่ดีแน่ๆ ดังนั้นการกินเจก็ต้องรู้จักเลือกทานด้วยโดยควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทแป้งและไขมัน ให้เน้นทานเป็นผักหรือผลไม้แทนจะดีกว่า เพราะประโยชน์ของผักและผลไม้นั้นมีอยู่มากมาย เพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และยังมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหาร ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมัน และยังช่วยทำให้ระบบการย่อย ระบบการขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติอีกด้วย