ข้อมูลน่ารู้ ว่าด้วยเครื่องดื่มของเด็ก

ข้อมูลน่ารู้ ว่าด้วยเครื่องดื่มของเด็ก

ข้อมูลน่ารู้ ว่าด้วยเครื่องดื่มของเด็ก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผศ. นพ.นิโคลัส สเตทเลอร์ กุมารแพทย์ด้านระบาดวิทยา จากโรงพยาบาลเด็กในฟิลาเดลเฟียและสมาชิก ในคณะกรรมการโภชนาการของสมาคมกุมารแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า "ทุกวันนี้การพัฒนาเครื่องดื่มต่างๆ ให้มีรสชาติกำลังเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจับตา เพราะเด็กที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวานมาก จะทำให้เด็กยิ่งชอบหรือติดเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากขึ้นเรื่อยๆ" สมาคมฯ จึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่เด็กควรดื่มหรือควรหลีกเลี่ยง และความถี่ในการดื่มให้พ่อแม่ได้เลือกให้ลูกอย่างเหมาะสม

 

 

 

ดื่มได้ตลอด


• นม เด็กอายุ 1-2 ขวบควรดื่มนมครบส่วน (ถ้าในครอบครัวมีประวัติโรคอ้วนหรือโรคหัวใจ ก็อาจเลือกเป็นนมพร่องมันเนยได้ โดยปรึกษาแพทย์ก่อน) ส่วนหลัง 2 ขวบไปแล้ว ก็ให้ดื่มนมประเภทไม่มีไขมันได้แล้ว เพราะอย่างไรเสียเด็กๆ ก็ยังจำเป็นต้องได้รับวิตามินดีและแคลเซียม


• น้ำเปล่า ดื่มได้ทุกเวลาตามต้องการ และตามแต่ลักษณะกิจกรรมที่เด็กๆ เสียเหงื่อไป หรือตามสภาพอากาศ และน้ำหนักตัวของเด็ก แต่ใครกันจะช๊อบชอบแต่น้ำเปล่า คุณอาจเพิ่มรสชาติน้ำเปล่าด้วยการหั่นผลไม้ชิ้นเล็กๆ เติมลงไป หรือนำผลไม้ที่หั่นนั้นไปแช่ในที่ทำน้ำแข็ง ก็ได้น้ำแข็งที่มีผลไม้อยู่ข้างในตอนดื่มน้ำก็แปลกไปอีกแบบ

 

เป็นครั้งคราว


• น้ำผลไม้ ควรเลือกเป็นน้ำผลไม้ 100 เปอร์เซนต์และไม่ผสมน้ำตาล สำหรับเด็กอายุ 1-6 ขวบสามารถดื่มได้วันละ 4-6 ออนซ์หรือ 120-180 มิลลิลิตร หากดื่มมากเกินกว่านั้นก็เพิ่มปริมาณแคลเลอรี่และที่สำคัญไฟเบอร์ในน้ำผลไม้ก็ยังน้อยกว่าผลไม้สดๆ ที่เด็กๆ ได้เคี้ยวกันเพลินอยู่ดี

 

นานๆ ดื่มที


• วิตามิน เจ้าเครื่องดื่มวิตามินนี่มันก็แค่น้ำธรรมดาที่เจือจางกับวิตามิน (ซึ่งเด็กๆ ก็ได้รับจากอาหารมื้ออื่นๆ อยู่แล้ว ) และหากจะเลือกให้ลูกกินก็ขอเป็นแบบที่ไม่มีน้ำตาลก็แล้วกันเนอะ

 

ไม่ดีกว่า


• ชา โซดา กาแฟ หรือแม้แต่เครื่องดื่มชูกำลัง โซดาเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำหวานหลายชนิด ซึ่งไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ส่วนคาเฟอีนก็จะไปกระตุ้นระบบการทำงานของร่างกายแถมยังทำให้ติดซะด้วย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook