Paula Taylor

ห่างหายไปจากวงการนานพอสมควร สำหรับนางเอกยิ้มสวย "พอลล่า เทเลอร์" ที่แม้จะกลายเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว แต่เธอก็ยังคงความน่ารัก สดใส ในแบบฉบับสาวอารมณ์ดีเช่นเคย ล่าสุดก่อนที่เธอจะสละโสดกับหนุ่มตาน้ำข้าว สาวพอลล่าได้ฝากผลงานไว้ให้แฟนๆ ติดตามกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซิทคอม เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร ภาพยนตร์เรื่อง " บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน (พ่อสอนไว้) ไป จนถึงงานพรีเซ็นเตอร์โฆษณา และถ่ายแฟชั่นปกนิตยสาร ซึ่งการกลับมาคราวนี้ แม้เธอจะยังรับงานไม่มากนัก แต่ Slimming ก็ไม่พลาดที่จะคว้าตัวเธอมาขึ้นปก พร้อมพูดคุยแบบเป็นกันเองอีกครั้ง ว่าแล้วเราไปอัพเดทเรื่องราวชีวิตหลังแต่งงาน และการเป็นคุณแม่มือใหม่ป้ายแดงของเธอกันเลยค่ะ

อยากกลับมาเล่นละครอีกครั้ง
"ตอน นี้ไปๆ มาๆ ระหว่างสิงคโปร์กับไทยอยู่ ก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับมา เพราะคิดถึงเมืองไทยมาก อยากกลับมาทำงานเหมือนเดิม ถ้ามีอะไรใหม่ๆ เข้ามาก็อยากลองทำไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้วางแผนว่าจะทำอะไร ช่วงนี้มีถ่ายแฟชั่นลงนิตยสาร โชว์ตัวตามงานอีเว้นท์บ้าง ส่วนงานละครก็ยังอยากเล่นเหมือนเดิม รู้สึกคิดถึงบรรยากาศการทำงานมาก ได้เจอคนมากมาย ยิ่งเป็นคนที่สนิท และทีมงานที่คุ้นเคยด้วยแล้ว ยิ่งเป็นอะไรที่สนุกสนานมาก อย่างเมื่อก่อนที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงซิทคอมเรื่อง เนื้อคู่ประตูถัดไป กับ เนื้อคู่อยากรู้ว่าใคร ก็ทำให้มีเพื่อนเพิ่มขึ้น เป็นทีมงานที่น่ารัก เฮฮามาก ทุกคนในกองฯ สนิทกันหมดเลย เวลาเจอแต่ละครั้งจะมีเรื่องคุยกันตลอด คิดแล้วก็อยากกลับมาเล่นด้วยกันอีก แต่ตอนนี้อาจจะยังรับงานได้ไม่เยอะ เพราะต้องดูแลลูกด้วยค่ะ"

ความรู้สึกแรกของคุณแม่มือใหม่
"ตอน นี้น้อง 5 เดือนแล้ว ความรู้สึกแรกที่รู้ว่าตัวเองจะเป็นแม่ รู้สึกตื่นเต้น กลัวๆ อยู่เหมือนกันว่าเราจะทำได้มั้ย หรือชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะรึเปล่า แต่พอมีขึ้นมาจริงๆ เราก็สามารถทำได้ ถึงแม้การใช้ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง เพราะเราต้องดูแลเค้าตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ว่าวันนี้เราเหนื่อย พรุ่งนี้ไม่เอา ไม่มีแล้วดีกว่า มันไม่ใช่แบบนั้น ถ้าเราคิดจะมีเค้าแล้ว เราก็ต้องดูแลเค้าให้ดี ตอนแรกๆ เราให้นมลูกเองด้วย แต่หลังๆ ก็กินนมขวดแล้ว จริงๆ เค้าเป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายนะ ไม่ค่อยงอแงเท่าไหร่ นอกจากจะหิวนม หรือไม่สบายตัว เค้าเป็นเด็กอารมณ์ดีอยู่แล้วล่ะ เหมือนแม่เค้าไงคะ (หัวเราะ)"

น้องไลลา ชื่อนี้มีความหมาย
"จริงๆ เราอยากได้ลูกผู้หญิงอยู่แล้ว พอรู้ว่าเป็นผู้หญิง ก็ดีใจมาก ส่วนคุณพ่อเค้าอะไรก็ได้ ไม่มีปัญหา คิดว่าหลังจากลูกคนนี้ เราก็อยากมีอีก แต่ต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าเราเลี้ยงไหวมั้ย สำหรับชื่อของน้องมาจากชื่อตัวละครตัวหนึ่งที่อยู่ในหนังสือที่เราชอบอ่าน ตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนี้ในหนังสือต่างๆ หรือที่ไหนก็ตาม เค้าจะอธิบายไว้ตลอดว่าเป็นผู้หญิงที่สวย สง่า เราก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อลูก ส่วนวิธีการเลี้ยงดู เราก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเลี้ยงแบบไหน แต่จะเลี้ยงแบบเรา ซึ่งไม่รู้ว่าฝรั่งหรือไทย บางทีคนไทยอาจจะมองว่าเลี้ยงแบบฝรั่งก็ได้ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่เราก็พยายามเลี้ยงให้เค้าโตมาเป็นคนดีก็พอแล้ว พอโตขึ้น เราก็คงไม่ไปกะเกณฑ์อะไรเค้ามาก ให้เค้าคิดเอง ทำเอง อยากเป็นอะไรก็แล้วแต่เค้าเลย ให้อิสระเต็มที่ค่ะ"

อย่าหยุดเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
"พอ ลล่ามองว่าการทำงานที่ตัวเองรัก และถนัด เราจะทำงานนั้นๆ ให้ออกมาได้ดีมาก อย่างงานถ่ายแบบ ถ่ายแฟชั่นถือเป็นงานที่พอลล่าถนัดที่สุด เพราะไม่ต้องพูดเยอะ (หัวเราะ) แค่มาแต่งตัว แล้วโพสท่าสวยๆ ให้ช่างภาพถ่ายภาพ ก็โอเคแล้ว ยิ่งถ้าได้ทำงานร่วมกับสไตล์ลิส หรือช่างภาพที่เก่งๆ การทำอารมณ์ในการถ่ายแต่ละครั้งไม่ยากเลย เพราะเขาสามารถทำให้เราอินไปกับงานได้ เราก็จะทำงานออกมาดี ส่วนนางแบบนี่ถือเป็นอาชีพเริ่มแรกของพอลล่าเลยนะ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง แค่เรามาถึงขั้นนี้ได้ ก็ถือว่าโอเค พอใจแล้ว แต่เราก็ต้องหาจุดพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเราหยุดอยู่แค่นี้ เราก็คงไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น หรือท้าทายอีกต่อไป จริงๆ ทุกอาชีพ เราก็ต้องพบเจอ หรือผ่านอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ขอแค่เราอย่าหยุดที่จะเรียนรู้กับมันเท่านั้นเอง"

โอกาสดีๆ แล้วค่อยธุรกิจส่วนตัว
"ตั้งแต่ วันแรกที่เข้ามาทำงานในวงการ จนถึงวันนี้ เราก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเทียบกับคนทั่วไป เราอาจโตกว่า เพราะต้องรับผิดชอบเยอะมาก แต่เราก็ไม่ได้วางแผนอนาคตไว้หรอกว่าจะอยู่ในวงการนานแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโอกาสมากกว่า ตอนนี้ทุกคนในครอบครัวก็ยังช่วยกันทำงานไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเราอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร รู้สึกว่าอยากทำทุกอย่างเลย แต่ก็ได้แค่คิด เพราะตอนนี้ยังไม่มีเวลาลงมือทำสักอย่าง ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสทำ เราก็คงใช้หลักในการทำงานแบบเดียวกับการทำงานในวงการ คือ ตั้งใจทำงานทุกงานที่ได้รับมาให้ดีที่สุด และพยายามทำในสิ่งที่เรารัก เพราะเราจะสามารถทำออกมาได้ดี"

ให้ความทุกข์เป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต
"ทุก วันนี้เราใช้ชีวิตในแบบของเรา บางครั้งเราไปเห็น หรือเจออะไรมาดีๆ ไปอ่านหนังสือมา ก็เอามาทำตาม มาปรับใช้กับชีวิตของเราบ้าง เราไม่จำเป็นต้องไปยึดติด หรือใช้ชีวิตตามแบบใครคนใดคนหนึ่ง เพราะเราสามารถใช้ชีวิตให้ดีได้ด้วยตัวเอง อย่างชีวิตของพอลล่า บางทีดูเหมือนแฮปปี้ เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มเก่ง ไม่ค่อยมีเรื่องซีเรียส ทั้งที่จริงๆ แล้วเรื่องเครียดๆ ก็มีบ้างเหมือนกัน แต่เราให้ความเครียด และความทุกข์ที่เข้ามาเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิต แล้วคิดหาวิธีที่จะต่อสู้กับมัน พยายามไม่เก็บเอามาคิด หรือจมอยู่กับความทุกข์มาก แค่นี้เราก็สามารถมีความสุข และอารมณ์ดีกับทุกๆ เรื่องในชีวิตมากขึ้นแล้วล่ะ (ยิ้ม)"

เปลี่ยนการแต่งตัวไปตามบทบาท
"สไตล์ การแต่งตัวของพอลล่า เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะบทบาทที่เปลี่ยนไป เราต้องเป็นแม่ที่ดูแลลูก จะมาใส่ดอกไม้ เครื่องประดับ หรือแต่งตัวที่มีของมาประดิดประดอยมากไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะขีดข่วนหน้าน้อง หรือน้องดึงขาดได้ ตอนนี้เลยลดๆ ของพวกนี้ลง แต่เราก็ยังชื่นชอบแฟชั่นอยู่เหมือนเดิม แค่เปลี่ยนมาแต่งอะไรที่ทะมัดทะแมงมากขึ้น เพราะต้องทำโน่นทำนี่กับลูกตลอดเวลา พยายามแต่งตัวเร็วๆ ใส่เสื้อผ้าที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย ส่วนของใช้ต่างๆ ที่เป็นของเรา ก็ใส่ในกระเป๋าเดียวกับของน้องเลย จะไม่แบ่งแยกกัน เพื่อความสะดวกในการพกพา รู้สึกว่าหลังจากมีลูก เราต้องทำอะไรให้มันเร็วขึ้น"

ชีวิตคู่ที่ลงตัวของพอลล่า
"ตอน นี้ความรักก็แฮปปี้เหมือนเดิม ยังสนุกกับชีวิตคู่ เพราะเราเพิ่งย้ายไปอยู่ที่โน่น ได้พาไลลาไปดูอะไรใหม่ๆ เราก็ตื่นเต้นไปกับลูกด้วย จริงๆ ชีวิตก่อนแต่งงาน กับหลังแต่งงานก็ไม่ได้ต่างอะไรมาก ความรักของเราสองคนยังเหมือนเดิม มุมมองก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ความรักยังเป็นทุกอย่าง เป็นกำลังใจ ทำให้เรามีแรงทำอะไรต่างๆ ได้ อย่างเดทแรกที่เราเจอเค้า (เอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่) ก็ประทับใจทันที รู้เลยว่าคนนี้นี่แหละใช่เลย ทุกอย่างอาจจะไม่เพอร์เฟ็กต์ แต่เราก็ชอบที่เค้าเป็นคนดี ดูแลเราได้ ตอนนี้ถ้ามีพรที่อยากจะขอ...พอลล่าอยากขอให้เรามีความสุข และให้มีสุขภาพดีทั้งครอบครัวเลยค่ะ (ยิ้ม)"

อยากมีรูปร่างดี ต้องมีสุขภาพดีด้วย
"เวลา เรามีลูก ทำให้เวลานอนน้อยลง ตอนนี้ก็พยายามดูแลตัวเองด้วยการหาเวลานอนให้เยอะที่สุด ส่วนในเรื่องรูปร่าง จริงๆ ไม่ค่อยดูแลอะไรมาก แค่ดูแลเจ้าตัวเล็กอย่างเดียว ต้องวิ่งตาม ทำโน่นทำนี่ทั้งวัน ก็ทำให้ผอมลงแล้ว ถือเป็นผลพลอยได้อย่างหนึ่ง ส่วนเรื่องอาหารการกิน ก็กินน้อยลง เพราะไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ แต่ถ้ามีเวลา ก็จะกินให้เยอะที่สุด และพยายามเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่างเมนูช่วงไดเอตของพอลล่าง่ายๆ เลยคือ ผลไม้ และกินอาหารที่ทำมาจากการนึ่ง พยายามลดของมันๆ ทอดๆ ลงบ้าง พอลล่าว่าถ้าเราอยากมีรูปร่างที่ดี ต้องมีสุขภาพที่ดีด้วย หลักสำคัญเลย ก็คือ อย่าอดอาหาร เพราะถ้าเราอดไปมื้อหนึ่ง มื้อหน้าเราจะกินเยอะกว่าเดิม ยิ่งทำให้อ้วนขึ้น ทุกวันนี้พอลล่าก็กินทุกอย่างปกติ แต่จะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย พอลล่าไม่ชอบชั่งน้ำหนัก ซึ่งผู้หญิงหลายๆ คน ชอบเป็น เวลาชั่งน้ำหนักแล้วกลับมาเครียด ฉะนั้นเราจะใช้วิธีการสังเกต และวัดจากความรู้สึกของตัวเองแทน ถ้าวันหนึ่งใส่กางเกงยีนส์ หรือเสื้อผ้าแล้วรู้สึกแน่นขึ้น ก็แสดงว่าเราอ้วนขึ้น พอลล่ามองว่าคนเราจะอ้วน จะผอม ก็สามารถมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็นได้ อย่าไปยึดติดตามค่านิยมที่ผิดๆ ว่าเราต้องผอมอย่างเดียวถึงจะสวย มันขึ้นอยู่ที่ความพอใจของเรามากกว่าค่ะ (ยิ้ม)"

......................................................................................................................................................

Profile's Paula

ส่วนสูง 168 ซม.
น้ำหนักปัจจุบัน 51 กก.
น้ำหนักมากสุด 55 กก.
น้ำหนักน้อยสุด 47 กก.

Menu To Slim
เช้า ขนมปัง / ผลไม้
เที่ยง ข้าว+ไข่เจียวหมูสับ
เย็น ปลานึ่ง

อัลบั้มภาพ สวย หุ่นดีแบบ คุณแม่ลูกอ่อน พอลล่า เทเลอร์ ภาพที่ 8 / 12

สวย หุ่นดีแบบ คุณแม่ลูกอ่อน พอลล่า เทเลอร์

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

"พอลล่า เทเลอร์" คุณแม่หน้าเด็ก กับลูกๆ ที่หน้าตาดียกบ้าน

รวม 13 แม่ลูกที่สุดของวงการ ขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ!

ฟังชัดๆ เคล็ดลับความสวยและสดใสตลอดกาลของ “พอลล่า เทเลอร์”

ส่องดาราสาวคู่จิ้น คู่กันแล้วจะน่ารักน่าจิ้นกันขนาดไหน