คุณเป็นผู้ให้โอกาสหรือพลาดให้คนอื่นทำผิด?

คุณเป็นผู้ให้โอกาสหรือพลาดให้คนอื่นทำผิด?

คุณเป็นผู้ให้โอกาสหรือพลาดให้คนอื่นทำผิด?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับคำถามในหัวข้อนี้ หลายคนอาจตอบว่า เฉย ๆ ไม่มีโอกาสได้ให้โอกาสใคร หรือไปยุยงให้ใครทำผิดหรอก (อ้อ! เคยนะ เคยให้โอกาสแฟนเลว ๆ แค่ 2 ครั้ง ครั้งแล้วกับครั้งเล่า) โอเค ถ้าไม่นับการให้โอกาสอย่างนั้น ก็ไม่เคยยุ่งกับใครมากมายหรอกค่ะ เดี๋ยวนะคะ จูนอยากให้เราลองทบทวนชีวิตดี ๆ ก่อน บางทีเราอาจเจอสถานการณ์ที่เราอาจผลักให้ใครบางคนต้องทำผิดซ้ำ ๆ ซาก ๆ หรืออาจเป็นคนให้โอกาสเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาลก็เป็นได้!!!!

อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวที่น่ารักของจูน น้องฟิล์ม ณัฐรดา ตอนเธอเล่าให้ฟัง จูนตื่นเต้นมาก แต่ตอนจบหักมุม และให้ข้อคิดจนอดไม่ได้ที่จะต้องนำมาแชร์! เรื่องนี้มีอยู่ว่า

วันหนึ่งน้องฟิล์มเดินมาหาจูน บอกว่ามีเรื่องอยากเล่าให้ฟัง มาค่ะ จัดไปอย่าให้เสีย จูนก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ น้องฟิล์มเริ่มเล่าว่า

"มีอยู่วันหนึ่ง ฟิล์มจะกลับบ้าน จองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว แต่ดันตกเครื่อง! แล้วคือต้องกลับให้ได้ไง ่ก็โทร.ไปปรึกษาที่บ้านว่าเอายังไงดี แม่ก็บอกให้กลับรถไฟ แต่รถไฟคนก็แน่นเวอร์วังอลังการ สุดท้ายเหลือ 1 ที่นั่ง พอฟิล์มไปถึงที่นั่งตรงนั้น โหพี่จูน พอเห็นปุ๊บเอาจริง ๆ ป่ะ นั่งแล้วไม่กล้าลุกไปฉี่อ่ะ!!!"

 

จูนไม่อาจคาดเดาได้ว่า สิ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าลุกไปฉี่คืออะไร กับ 1 ที่นั่งที่เธอจำต้องสิงสถิตไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง เลยให้เธอเล่าต่อไปด้วยความอยากรู้

"พี่จูน คนที่นั่งข้าง ๆ ฟิล์มเว้ย สักทั้งตัว โดยเฉพาะหน้าอ่ะ แล้วคือการแต่งตัว รองเท้า ใครดูก็รู้ว่า เขาเพิ่งออกจากคุก หรือแหกคุกมาหรือเปล่า คือฟิล์มเคยไปทำงานในคุก ก็เลยดูออกว่าลักษณะแบบนี้ คือเขาต้องเคยอยู่ในคุกมาก่อน ฟิล์มสะพรึงมากบอกเลยที่ต้องนั่งติดกับเขา เรานั่งเบาะเดียวกัน ขนาดกางเกงฟิล์มยังต้องดึงให้ปิดตาตุ่ม คือกลัวไปหมด กลัวแม้กระทั่งเขาเห็นตาตุ่มแล้วจะเกิดอารมณ์หรือเปล่า เสื้อก็ดึงมิดติดคอ กลัวมากจริง ๆ"

หญิงสาวผิวขาวราวกับหยวกเล่า พร้อมกับทำท่าดึงกางเกงประกอบ แล้วเธอก็เล่าต่อว่า

"ฟิล์มพยายามมองหาคนช่วย เผื่อเกิดอะไรขึ้น เพราะที่ที่ฟิล์มนั่งมันเป็นมุมอับไง ก็มองไปเจอคนตรวจตั๋ว ฟิล์มเดินไปบอกเขาเลย ว่าฟิล์มกลัวมาก ช่วยมองฟิล์มไว้ด้วย เขาก็บอกว่า เขาดูอยู่ไม่ต้องกลัว แล้วฟิล์มก็ Line คุยกับพ่อตลอด ว่าฟิล์มกำลังเจอกับอะไร พ่อก็ Line คุยกับฟิล์มตลอดเวลาเพราะเป็นห่วมาก และจะไปรอรับที่สถานีตั้งแต่ก่อนเวลาจริงที่รถไฟจะเทียบชานชาลาด้วย! จากนั้นฟิล์มก็กลับมานั่งที่เดิม พอผู้ชายที่เรานั่งกระทบไหล่กันมาตลอดมองมา ฟิล์มสบตาเขา เราเห็นดวงตาสีเหลืองมองจ้องมา ฟิล์มไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยตัดสินใจ "ยิ้มสู้" และเมื่อฟิล์มนั่งลง คำพูดของเขาทำเอาฟิล์มเริ่มหน้าชาและจุกจนบรรยายความรู้สึกออกมาไม่ถูก"

"ขอบคุณนะครับที่ไม่กลัวผม"  น้องฟิล์มอึ้งไป แต่ยังยิ้มอยู่ ชายหนุ่มผู้นั้นพูดต่อไปว่า

 "ถ้าเป็นคนอื่นคงทำท่าทางกลัวผมไปแล้ว ขอบคุณนะครับ" 

น้องฟิล์มตั้งสติ รู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย แต่ความกลัวก็กลับมาอีก เมื่อชายผู้นี้ควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า เธอคิดไปต่าง ๆ นานาว่า เขาจะหยิบอะไร ปืนเหรอ มีด หรืออะไร ไม่นะ ไม่ ๆๆๆๆ และก่อนที่ความคิดของเธอจะเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านั้น เขาก็หยิบเจ้าสิ่งนี้ขึ้นมา...

"นี่เป็นรูปลูกเมียผม เขาทิ้งผมไปตั้งแต่ผมติดคุก ผมพยายามตามหาพวกเขาก็หาไม่เจอ พอไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ใครเห็นผมก็ทำท่ารังเกียจ ผมถึงดีใจที่คุณไม่แสดงท่าทางรังเกียจผม"

น้องฟิล์มเลยเริ่มคุยกับเขามากขึ้น เธอเริ่มบทสนทนาว่า

"พี่ต้องสู้นะ สักวันพี่จะได้รับโอกาสดี ๆ ขอแค่อย่าท้อ แต่หนูถามได้ไหมว่าทำไมพี่ถึงติดคุก"

ชายผู้นั้นยิ้มขมขื่น แต่ก็ยอมเล่าสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความราวกับต้องการเตือนสาวน้อยที่ชื่อฟิล์มไปในตัว

"ผมโดนคดีฆ่าคนตาย ทั้งที่จริงผมทำเพราะผมต้องการช่วยคนอื่น แต่สุดท้ายคนที่ผมช่วย ไม่มีใครดูดำดูดีผมสักคน โลกเราก็แบบนี้แหละ ผมแค่อยากบอกคุณว่า คิดถึงตัวเองให้มาก ๆ อย่าคิดถึงคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อน เพราะสุดท้ายคนที่ต้องทุกข์ทรมาน มันคือตัวคุณ"

น้องฟิล์มพูดให้กำลังใจเขาอีกนิดหน่อย ทั้งคู่นั่งอยู่ท่ามกลางความเงียบ ไม่นานหลังจากนั้น ชายผู้นี้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งในระหว่างที่ชายผู้นี้ไปเข้าห้องน้ำ น้องฟิล์มแอบเขียนจดหมายน้อยหย่อนไว้ในกระเป๋าของเขา เป็นข้อความไม่กี่ข้อข้อความที่บอกให้ชายผู้นี้สู้ และสร้างความดี เพื่อโอกาสดี ๆ ของชีวิต และเธอเชื่อว่าเขาจะต้องผ่านเหตุการณ์เลวร้ายไปได้ด้วยดี เมื่อเขากลับมานั่ง เธอไม่ได้พูดถึงจดหมายน้อยนี้ จนกระทั่งถึงสถานีที่เธอต้องลง ชายผู้นี้ก็ลงพร้อมเธอ เมื่อเท้าแตะพื้น เธอมองไปเห็นพ่อและครอบครัวของเธอมายืนรออยู่แล้ว เธอจึงหันไปบอกชายผู้นี้ก่อนจะแยกกันว่า

"หนูเขียนจดหมายไว้ให้พี่นะ อย่าลืมเปิดดู เป็นกำลังใจให้พี่สู้ต่อไปนะคะ"

 

สาวน้อยคนนี้เล่าให้ฟังว่า นาทีที่เธอคิดเขียนจดหมายน้อยนั้น เธอคิดแค่ว่า ถ้าวันนี้เราทำท่ารังเกียจเขา แล้วเขาเจอแบบนี้มาตลอด เขาอาจจะถอดใจ จนไม่รู้ว่าจะเป็นคนดีไปทำไม ไปทำอะไรร้าย ๆ ให้สมกับที่คนมองเลยดีกว่าไหม แต่วันนี้เธอรู้สึกดีที่แม้ตอนแรกเธอจะกลัว แต่ไม่ได้แสดงออกมาขนาดนั้นว่าแท้จริงกลัวเขามากขนาดไหน แต่เลือกที่จะส่งรอยยิ้มไปแทน และเมื่อเขาเปิดบทสนทนา เธอก็ให้กำลังใจเขา ทำให้เขารู้สึกว่า ยังมีคนที่ยินดีรับฟังเขา อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่า ในเวลานั้นเธอเลือกได้ 2 ทาง ก็คือทั้งมีโอกาสได้ส่งเสริมให้เขาทำดี กับส่งเสริมให้เขากลับไปทำอะไรผิด ๆ ไปเลย และเธอคิดว่า วันนั้นเธอได้ให้โอกาส แม้เพียง 1 โอกาสเล็ก ๆ เธอก็เชื่อว่ามันจะเป็นกำลังใจให้เขาได้อย่างมหาศาล

 

แล้วคุณล่ะคะ เป็นผู้ให้โอกาส หรือพลาดเผลอเป็นส่วนหนึ่งให้คนทำผิด ?   

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook