พ่อแม่ควรระวัง 6 อาการผิดปกติของเด็กที่ไม่ควรมองข้าม

เด็กๆ เมื่อป่วยไข้หรือไม่สบายบางครั้งเขาอาจไม่รู้ว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไง  ซึ่งบางทีกว่าเราจะรู้ว่าลูกป่วยหนักก็อาจจะไม่ทันเวลา ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่เด็กๆเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย การสังเกตอาการของลูกจะทำให้คุณได้เห็นความผิดปกติอย่างทันท่วงทีและหาทางแก้ไขได้ทันเวลา ในบทความนี้จะบอกถึง อาการของเด็ก 6 อาการที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้าม เมื่อลูกมีอาการเหล่านี้ควรรีบหาทางแก้ไข

1.เด็กดูไม่ร่าเริง ซึม เครียด

เด็กบางคนบอกเรื่องความไม่สบายตัวออกมาไม่เป็นโดยเฉพาะเด็กเล็กๆ แต่พวกเขามักจะแสดงอาการแปลกไปจากเดิม เช่น มีอาการซึม เครียด ไม่ร่าเริง หรือเด็กทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา อาการเหล่านี้ไม่ควรนิ่งเฉยควรรีบพาไปพบแพทย์เพราะบางทีอาจมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเด็กได้

2.มีไข้สูงหรือไข้นานติดต่อกัน 3 วันขึ้นไป

หากเด็กมีไข้สูงเกินกว่าอุณหภูมิปกติ หรือมีไข้ติดต่อกันนานเกิน 3 วัน ควรรีบพาเด็กไปหาหมอเพราะอาจเป็นอาการของโรคบางอย่าง อย่าปล่อยปละละเลยคิดว่าเด็กเป็นไข้เดี๋ยวก็หายเอง การคอยสังเกตอาการจะทำให้เราเห็นความผิดปกติชัดขั้น

3.มีอาการอื่นๆร่วมกับการมีไข้

หากเด็กมีอาการอื่นแทรกซ้อนในตอนที่มีไข้ เช่น ปวดหัว เจ็บคอ มีผื่นขึ้นตามตัวมีอาการบวมแดง หายใจไม่ออกหรือมีตุ่มขึ้นตามตัว ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการและทำการรักษา

 

4.มีอาการปวดท้องแบบกะทันหัน

อาการปวดท้องกะทันหันอาจเกิดจากหลายสาเหตุ หากมีอาเจียนร่วมด้วยอาจเกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ ไม่ว่าจะปวดแบบไหนควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว

5.มีอาการปากแห้ง อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลียมาก

อาการเหล่านี้อาจเกิดจากอาการขาดน้ำ หรือโรคร้ายแรงบางอย่าง  เมื่อพบอาการแบบนี้อย่ามองข้ามควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์ในทันที

ริมฝีปากซีด หน้าซีด เขียว หายใจติดขัด เกิดอาการบวมตามตัว ใบหน้า มีอาการคัน หรืออาเจียน

อาการเหล่านี้เป็นอาการแพ้อะไรบางอย่าง อาจจะเป็นอาหารที่กินเข้าไปหรือสารเคมี การแพ้อาหารไม่ใช่เรื่องเล่นๆ บางคนแพ้หนักถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็มี ดังนั้นหากลูกมีอาการผิดปกติ หลังจากกินอาหารหรือยาบางอย่าง ให้นำอาหารหรือยานั้นไปพบแพทย์พร้อมเด็กด้วย หรือบางทีอาการเหล่านี้อาจเกิดโรคที่เกี่ยวกับปอดหรือระบบทางเดินหายใจ

เด็กๆนั้นเนื่องจากประสบการณ์ชีวิตของเขายังน้อยมากสิ่งรอบตัวต่างๆจึงดูอันตราย พ่อกับแม่หรือผู้ปกครอง ควรให้ความใส่ใจ ดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด คอยสังเกตอาการผิดปกติต่างๆ ซึ่งหากเราอยู่กับเด็กตลอด เมื่อเด็กมีอาการผิดปกติเราจะรับรู้ได้ในทันที และสามารถช่วยเด็กได้ทันเวลา ดังนั้นอย่ามองข้ามอาการแปลกๆดังกล่าวมานี้ เพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อยที่รักของคุณ