7 ปัจจัยที่ทำให้ คนรัก กันมานาน หมด Passion กันทีหลังง่ายๆ
ยิ่งนานวัน ความจืดจางและเหินห่างก็ยิ่งมี มันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรกับความรักของแต่ละคู่ เพราะโดยธรรมชาติ คนเรามีชีวิตจิตใจ เคลื่อนไหวได้ ไม่ใช่สิ่งของ การเปลี่ยนแปลงในแต่ละวินาทีจึงจะเกิดอะไรก็ได้ ไม่เหมือนสิ่งของที่ตั้งไว้อย่างไร มันก็ยังคงเดิมอย่างนั้นแล้วอะไรล่ะที่ทำให้คนเราเกิดความรู้สึกเบื่อ หมดใจ หมดศรัทธาในอีกฝ่ายได้ง่าย? เรามาเรียนรู้กันค่ะ เพื่อเตือนสติให้ระวังเอาไว้
1 ตลอดเวลาที่คบกัน ไม่เคยปรับปรุงนิสัยด้านแย่ของตัวเอง
ไม่มีใครเป็นเจ้าหญิง/เจ้าชาย เหมือนตอนแรกรักตลอดไป คนเราต้องมีด้านแย่ของตัวเองบ้าง หรือนิสัยที่ตอนโสดไม่เป็นอะไร แต่พอมีแฟนปุ๊บ มันกลายเป็นสิ่งที่แฟนอยากให้ปรับปรุงตัวด่วน เพราะเขาไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ ในจุดนี้ ถ้าพยายามแล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ แล้วไปเพิ่มทุกข์ให้กับอีกฝ่ายมากขึ้นๆ สะสมกันไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็ระเบิดออกมา จบเวลารักกันได้สิ่งใดก็ตามที่อีกฝ่ายไม่ชอบ
ต่อให้เป็นเรื่องที่มองว่าเล็กน้อยมาก ควรปรับปรุง ลด ละ เลิก เพื่อถนอมความสัมพันธ์ไปนานๆ การมองว่าอีกฝ่ายต่างหากที่งี่เง่ากับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในมุมหนึ่งก็สะท้อนว่าบางทีแล้ว ตัวเราเหมาะกับการอยู่คนเดียว หรือไม่ก็เหมาะกับคนอื่นมากกว่า อย่าให้ใครต้องทนทรมานกับนิสัยแย่ของเราที่เปลี่ยนไม่ได้เลยนะ
2 เห็นแก่ตัวเกินไป
ถ้าจะคบกันจริงจัง ยิ่งนานวัน ยิ่งต้องแสดงศักยภาพให้เห็นได้ว่า เราพร้อมแค่ไหนที่จะดูแลเขา ในภาระที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ... ลองนึกภาพดูสิว่า ตอนนี้มีกันสองคน ก็ไม่มีอะไรมากมาย แต่ถ้าจะแต่งงานกัน เดี๋ยวก็ต้องมีผู้ใหญ่ของเขาและผู้ใหญ่ของเรามาเกี่ยวข้อง และถ้าวันหนึ่งมีลูก ก็ต้องช่วยกันดูแลลูกอีก จะรับภาระไหวไหม?การคบกันแบบอยู่ใน comfort zone ไม่พัฒนาตนเองให้อีกฝ่ายอุ่นใจ รักสบายเกินไป เจอวิกฤตอะไรนอกจากช่วยไม่ได้ ยังพยายามหาทางให้ตัวเองรอดไว้ก่อน แบบนี้เหมาะที่จะอยู่คนเดียวมากกว่าจะดูแลใคร ไม่มีใครหรอกที่อยากฝากชีวิตไว้กับคนเลื่อนลอย แถมยังเอาตัวรอดเก่งโดยไม่สนคนอื่นเลย
3 ข้ออ้างร้อยแปดพันเก้า
การอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ต้องมีการคาดหวังกันบ้างว่าอยากได้อะไรจากอีกฝ่าย อยากมีเซอร์ไพรส์ดีๆ อะไรบ้างในชีวิต นอกจากจะไม่ทำ หนำซ้ำยังหาข้ออ้างร้อยแปดพันเก้า ผัดวันประกันพรุ่งให้ความคาดหมายเราเลื่อนลอยไปเรื่อยๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกผิดหวังที่สะสมเรื่อยๆ จนกลายเป็นความชินชาไปแล้ว วันหนึ่งที่รู้สึกว่าไม่ไหว จึงไม่ยากอะไรที่จะขออยู่คนเดียวดีกว่า
4 ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว ทำคนเดียว บ่อยเกินไป
อยู่ไกลกันแต่ยังมีเวลาคุยกัน ปรึกษากันในเรื่องต่างๆ ดีกว่าอยู่ใกล้กันแต่แทบพึ่งพาอะไรไม่ได้!... หากมีชีวิตคู่แล้วรู้สึกว่า มันบ่อยเกินไปแล้วที่ต้องคิดอะไร ทำอะไรคนเดียวตลอด แบบนี้ก็คงยากที่จะอยู่กันเป็นคู่แท้ไปนานๆ เพราะในขณะที่ฝ่ายหนึ่งแบกภาระอยู่ อีกฝ่ายก็ลอยตัวเหนือภาระตลอด พึ่งพาอะไรไม่ได้เลย
5 ไม่ซื่อสัตย์
ความไว้เนื้อเชื่อใจกันเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดสิ่งหนึ่งของชีวิตคู่ ไม่มีใครหรอกที่จะให้อภัยคนรักได้บ่อยๆ "การโกหก ก็เหมือนกับยางลบ ค่อยๆ สึกและหมด ทุกครั้งที่เราลบ" คนเรามีความอดทนจำกัดและไม่ได้แปลว่าให้อภัยได้ทุกเรื่องนะจ๊ะ พลาดครั้งหนึ่งสะเทือนต่อการจับตามองครั้งต่อๆ ไปเลยแหละ
6 ยิ่งคบกัน ยิ่งมีปัญหากับคนใกล้ตัวเยอะเรื่อยๆ
จริงอยู่ว่าความรักขึ้นกับคนสองคน ถ้ายังรักกันดี คนอื่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ต้องใส่ใจมาก แต่ถ้าถึงขั้นคบไป ระแวงไป หึงไป ให้เลิกคบเพื่อนไปทีละคน ให้ติดต่อกับครอบครัวและญาติพี่น้องน้อยลง แฟนเข้าไปมีปัญหากับเจ้านาย/เพื่อนที่ทำงาน แบบนี้อาจส่งผลกระทบต่ออนาคตได้ ลองนึกภาพดูสิว่า หากมีปัญหาอะไรก็ตาม เราจะพึ่งใครได้ แฟนเราก็ใช่ว่าจะช่วยได้ทุกเรื่อง อยู่กันแค่สองคน ทำอะไรก็ทำกันแค่สองคน คนอื่นไม่มีส่วนร่วมเลย สักวันชีวิตก็ต้องรู้สึกเบื่อ ไม่มีแรงบันดาลใจ
7 ความไม่รู้จักพอ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มนุษย์เราอยากได้นั่นอยากได้นี่ แต่ถ้าความอยากได้อยากมีของฝ่ายหนึ่งสูงมากไป จนอีกฝ่ายไม่สามารถถมได้เต็มหรือตามได้ทัน ก็ควรทบทวนกันได้แล้วว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะหยุดยั้งหรือลดความต้องการนั้นให้ลงมาในระดับที่พอรับได้ ถ้าไม่ได้จริง ๆ จะยอมอดทนจนน้อยใจกัน ทะเลาะกันไปเรื่อย ๆ แบบนี้หรือ? เพราะถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดขัดใจกัน
ถ้าคบกันแล้วทำให้อึดอัดใจไปเรื่อยๆ การถอยออกมารักตัวเองให้มากก็เป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ อย่ารักคนอื่นโดยที่ทำร้ายตัวเองไปนานๆ แล้วหลอกตัวเองว่ามีความสุขดี ไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกค่ะที่ชอบทรมานตัวเอง "ถ้ารักคนอื่นแล้วเป็นทุกข์ หาความสุขด้วยการรักตัวเองดีกว่า"
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ