แจกทริคแต่งหน้ายังไง ให้ดูเหมือนไม่แต่ง
อยากได้ผิวสวยเหมือนไม่แต่ง ทำตามขั้นตอนนี้เลยค่ะ
1. ทาเซรั่มบำรุงให้ผิวชุ่มชื่นเป็นอันดับแรก : ขั้นตอนแรกก่อนการแต่งหน้าหรือจะออกจากบ้าน เราก็ควรบำรุงผิวสักหน่อย เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดและบำรุงให้ผิวชุ่มชื่น โดยเฉพาะสาวผิวแห้งที่จะต้องพิถีพิถันในขั้นตอนนี้ เพราะถ้าไม่บำรุงผิวก่อนอาจจะทำให้ผิวลอกเป็นขุย และแต่งหน้าไม่ติดได้อีกด้วย (เตรียมผิวด้วย : เซรั่มหรือครีมบำรุงผิว และครีมกันแดดสูตรบางเบา)
2. ใช้บีบีหรือซีซีแทนการลงรองพื้น : เนื่องจากรองพื้นจะมีเนื้อครีมที่หนากว่าบีบีและซีซี จึงควรเลือกใช้เป็นสองตัวนี้แทน ซึ่งจะช่วยทำให้การแต่งหน้าดูไม่หนักจนเกินไป และยังได้เผยผิวที่ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย แต่ในขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้ตัวฟองน้ำ เข้ามาช่วยในการเกลี่ยให้เนื้อครีมเรียบเนียนและดูสม่ำเสมอ เพราะสำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดแต่งหน้า แล้วใช้นิ้วเกลี่ยอาจจะทำให้เนื้อครีมตกร่องหรือเป็นคราบได้
3. ปกปิดรอยดำรอยแดงด้วยคอนซีลเลอร์ : การนำคอนซีลเลอร์มาใช้เพื่อปกปิดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้การแต่งหน้านั้น ดูไร้ที่ติแต่ยังเป็นธรรมชาติ เพราะเจ้าคอนซีลเลอร์สามารถใช้ทาได้เฉพาะจุด และที่สำคัญยังใช้ช่วยลดความหมองคล้ำบริเวณใต้ตาได้เป็นอย่างดี หากสาวคนไหนที่ตาดำเป็นหมีแพนด้า ก็แนะนำว่าใช้คอนซีลเลอร์เข้าช่วยได้เลย
4. ขั้นตอนการลงแป้ง ใช้แปรงแทนพัฟ : มาถึงขั้นตอนลงแป้งกันบ้าง หลายคนอาจจะชินกับการใช้พัฟ แต่ถ้าจะแต่งหน้าให้ดูเหมือนไม่แต่งล่ะก็ ต้องอาศัยแปรงแบบพุ่มเข้ามาช่วย เพราะจะทำให้แป้งกระจายตัวไปดีกว่า และไม่ตกร่องหรือเป็นคราบนั่นเอง
5. ไม่ต้องเขียนคิ้วให้เข้มมาก เน้นเป็นธรรมชาติ : การเขียนคิ้วก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าเขียนหนักจนเกินไป จะทำให้คนอื่นมองออกได้ว่าเราแต่งหน้าจัดเต็ม ซึ่งในสาวๆ บางคนที่มีขนคิ้วไม่เยอะก็อาจจะเลือกวิธีสักคิ้ว เพื่อเพิ่มความมั่นใจหรือประหยัดเวลาในการแต่งหน้าลงไป แต่ถ้าสำหรับใครที่ยังชอบวิธีการเขียนคิ้วอยู่ ก็ขอแนะนำว่าให้เลือกใช้สีที่ไม่เข้มมาก อย่างเช่น สีน้ำตาล เป็นต้น
6. ใช้อายแชโดว์ที่มีกริตเตอร์ แต่สีต้องไม่เข้ม : ส่วนในการทาอายแชโดว์นั้น ก็ให้เลือกใช้อายแชโดว์ที่มีกริตเตอร์ผสมอยู่ เพราะว่าจะช่วยทำให้หน้าดูเด็กลงได้ ที่สำคัญอายแชโดว์ที่เลือกมาใช้จะต้องไม่ใช่สีที่เข้ม สีที่แนะนำได้แก่ สีชมพู สีพีช สีส้ม สีตุ่น
7. เขียนอายไลน์เนอร์ ให้เส้นเล็กชิดขอบตามากที่สุด : ขั้นตอนก็ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของแต่ละคน เพราะจะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ หรือบางคนอาจจะเขียนเป็นอินไลน์เนอร์แทน แต่ขอแนะนำว่าให้เลือกใช้สีที่ไม่เข้มอย่างสีน้ำตาลจะเวิร์คมากกว่า ส่วนการเขียนอายไลเนอร์ ก็ต้องเขียนให้เส้นบางและชิดขอบตามากที่สุด และอย่าให้หางเฉียวจนเกินไป (ควรเลือกอายไลเนอร์แบบหัวเล็ก)
8. ดัดขนตาปัดมาสคาร่า แต่ไม่ต้องติดขนตา : พอแต่งตาเสร็จก็มาดัดขนปัดมาสคาร่าได้ปกติ แต่อย่าปัดจนขนตาดูงอนยาวเกินไป ที่สำคัญขั้นตอนนี้ไม่ต้องติดขนตานะจ๊ะ เพราะไม่งั้นถูกจับโป๊ะแน่นอน และสำหรับสาวคนไหนที่มีขนตาสั้นจนไม่มั่นใจตัวเอง ก็อาจจะไปต่อขนตาหรือไม่ก็ใช้ตัวช่วยอื่นอย่างวาสลีนหรือลิปบาล์มก็ได้ แต่ต้องระวังอย่าให้เข้าตาเชียวนะ
9. ปัดบลัชออนเบาๆ เลือกใช้สีที่ไม่เข้ม : การเลือกบรัชออนมาปัดแก้มก็สำคัญเช่นกัน เพราะถ้าเลือกสีเข้มมากแล้วมือหนักไป รับรองว่าได้แก้มแดงเป็นลิงแน่นอน การปัดบลัชออนจะต้องกะน้ำหนักมือให้ถูก และเลือกใช้สีที่ดูสดใสแต่ไม่เข้ม เช่น สีชมพู สีพีช สีส้ม
10. ทาลิปแค่ครึ่งปากด้านใน แล้วใช้นิ้วเบรน : ส่วนการทาลิปก็ถือว่าเกือบเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้าแล้ว ทริคที่อยากแนะนำก็คือให้ทาลิปแค่ครึ่งปากด้านใน แล้วใช้นิ้วเบรนสีนั่นเอง เพื่อให้ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจทา