คู่มือเที่ยวปีใหม่ 2019 ฉบับลับเฉพาะของผู้หญิง อะไรบ้างที่ต้องพกติดตัวตอนไปเที่ยว

กลายเป็นธรรมเนียมความสนุกของผู้หญิงทุกคนไปเป็นที่เรียบร้อยกับการตะลุยเที่ยวปีใหม่แบบยาวๆ พร้อมความตั้งใจจะเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่มั่นใจกว่าเดิมในแบบ New Year, New You บ้างก็วางแผนจะทำตัวเป็นแบ็คแพ็คเกอร์แบกกระเป๋าเที่ยวคนเดียว บางคนก็ตั้งใจจะพาครอบครัวขับรถเที่ยว บางส่วนก็เริ่มจับกลุ่มกับเดอะแก๊งหาเช็คลิสต์ที่เที่ยวที่อยากจะไปสักครั้งในชีวิต และในขณะที่คนมีคู่ก็เริ่มคุยหนุงหนิงกับแฟนหาที่ไปเคาท์ดาวน์กันแบบหวานๆ

ดังนั้นมาว่ากันที่เรื่องไอเท็มสำคัญ ของชิ้นไหนที่ผู้หญิงยุคนี้ต้องพกติดตัวตอนไปเที่ยว!

ไล่เรียงมาตั้งแต่ ยาต่างๆ ที่นับได้ว่าห้ามขาด จะเป็นยาแก้ปวดหัว แก้ปวดท้อง แก้เมาเรือ คลายกล้ามเนื้อ หรือกระทั่งยาช่วยย่อย เอาไปเถอะ เพราะในเวลาฉุกเฉิน มันดีต่อใจมากจริงๆ ถัดมาคือ ดรายแชมพู ที่จะช่วยให้ผมหายมัน ไร้กลิ่น และช่วยเพิ่มวอลลุ่มได้แบบทันใจ ต่อด้วย เข็มกลัด ที่ช่วยชีวิตได้แบบมหัศจรรย์จะกระโปรงขาด กระดุมหลุด กระเป๋าปิดไม่ได้ มีเข็มกลัดไว้ จบได้ทุกอย่างในพริบตา ส่วนในยุค 4G ที่โทรศัพท์เป็นมากกว่าแค่เครื่องมือสื่อสาร แต่ยังเป็นทั้งกล้องถ่ายรูป แผนที่ และเครื่องแปลภาษา พาวเวอร์แบงค์ คือของที่ห้ามขาด เพราะแบตโทรศัพท์หมดก็เหมือนขาดใจไปต่อไม่เป็นกันเลยทีเดียว และ ของสำคัญอีกอย่างสำหรับผู้หญิงยุคนี้ที่ห้ามขาด เพราะถ้าพลาดจะทำให้เที่ยวไม่สนุกโดยทันทีก็คือ แผ่นเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า ห้องน้ำข้างหน้าจะเป็นแบบไหน สะอาดหรือเปล่า ดังนั้นพกติดตัวไป มีชัยไปกว่าครึ่งจะได้ไม่ต้องกังวลให้วุ่นวาย

แผ่นเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ!
ตอบได้ทันทีว่าสำคัญมาก ไม่ว่าจะทริปใกล้ๆ ในประเทศ หรือต้องเดินทางไกลแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าห้องน้ำที่เข้าจะเป็นแบบไหน สะอาดหรือเปล่า และมีสายฉีดชำระไหม การมีแผ่นเช็ดทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นติดตัวไว้จะทำให้วางใจเรื่องตรงนี้ได้เลย เพราะมั่นใจได้ว่าสะอาดแน่แบบไม่ทิ้งอะไรตกค้างให้เป็นปัญหาต่อจุดซ่อนเร้น ซึ่งที่เราชอบและใช้เป็นประจำคือ Lactacyd Feminine Wipes ที่มีส่วนผสมของกรดแลคติคและแลคโตเซรั่มจากน้ำนมธรรมชาติ จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยคงความสมดุลของจุดซ่อนเร้นไว้ได้โดยไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง* โดยทั้งหมดนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผิวหนังประกอบด้วยว่าสามารถใช้ได้ทุกวัน ดังนั้นพกติดตัวไว้ มีดีมากกว่าเสียแน่นอน

อีกชิ้นที่เราพกติดตัวไปด้วยเป็นประจำเสมอคือ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น สูตร White Intimate จาก Lactacyd ที่ให้สาวๆได้มากกว่า เพราะนอกจากจะทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์  เพราะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ต่างจากสบู่ทั่วไป ที่มีค่า PH เป็นด่าง ทำให้สามารถทำความสะอาดและคงความชุ่มชื้นไว้ได้ เพราะมีส่วนผสมจากอัลโกไวท์ และแอคติโพน บี จากพืช ให้มากกว่าความสะอาด

แล้วจำเป็นถึงขนาดที่ต้องพกติดตัวไปด้วยระหว่างเดินทาง?
คำถามหลักที่เรามักเจอเป็นประจำ ถ้าให้ตอบคงต้องบอกว่าแล้วแต่สะดวก แต่ถ้าให้แนะนำก็อยากจะให้เอาไปด้วยทุกที่ เพราะยิ่งเดินทางไกล จุดซ่อนเร้นยิ่งเกิดความสกปรกได้ง่าย หรือว่ากันตามจริง หลายทริปที่เดินทางข้ามทวีปคุณต้องหมักหมมข้ามคืน หรือเจอสิ่งสกปรก อย่างแบคทีเรียในห้องน้ำโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการมีสบู่สำหรับทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นไว้ก็นับว่าดีที่สุด เพื่อคงสุขภาพของจุดซ่อนเร้นให้เป็นปกติ เพราะเราเชื่อว่าผู้หญิงด้วยกัน ไม่มีใครสนุกหรือเที่ยวต่อได้แบบร่าเริง ถ้าจุดซ่อนเร้นเกิดการระคายเคือง มีอาการคัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ เนื่องจากมันจะทำให้คุณไม่สบายตัวไปตลอดทั้งวัน

สบู่ทั่วไปใช้แทน Lactacyd ได้หรือเปล่า?
ถ้าให้ตอบก็คงได้ แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับจุดซ่อนเร้นโดยแท้จริงและผ่านการทดสอบการระคายเคืองอย่างแลคตาซิด แบรนด์ Feminine Wash อันดับหนึ่งของโลก** อีกทั้งสบู่ทั่วไปจะตรงเข้าทำลายแบคทีเรียชนิดดีๆ ที่อยู่บริเวณจุดซ่อนเร้นให้หมดไป เนื่องจากสุขภาพของจุดซ่อนเร้นที่ดีควรมีปริมาณแบคทีเรียชนิดดีอย่างเพียงพอ ซึ่งจะช่วยควบคุมค่าความเป็นกรดและด่างให้สมดุล เพราะทันทีที่ค่า pH นี้เอนเอียงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ความผิดปกติก็อาจเกิดได้ เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ อาการคันและระคายเคือง

ดังนั้นนอกจากข้าวของจิปาถะมากมายที่ต้องพกติดตัวไปด้วยทุกครั้งเวลาเดินทาง อย่าลืมเผื่อที่เล็กๆ น้อยๆ ให้กับของที่จำเป็นเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจาก Lactacyd และแผ่นทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น Lactacyd Feminine Wipes เพราะสองชิ้นนี้เป็นเหมือนปราการด่านใหญ่ที่จะช่วยป้องกัน  ลดการสะสมของ แบคทีเรียที่จะมาขัดขวางความสนุกระหว่างทริปของผู้หญิงทุกคน เพื่อให้ตลอดเวลาที่กำลังเที่ยวมีแต่ความสบายตัวและสบายใจ #LactacydEverydayConfidence

*ผ่านการทดสอบการระคายเคือง Hypoallergenicity Test จากกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงเอเชีย 35 คน โดยสถาบัน Clinical Trial Management and Testing Associates Facility เมื่อวันที่ 25 เม.ย. – 30 พ.ค. 2554 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ **ข้อมูลจาก Nicholas Hall's global OTC database 2017, DB6 sales in €mn at manufacturer's sale price (MSP)

(Advertorial)