จริงหรือไม่ที่ลุคของคุณสะท้อน ว่าคุณรู้สึกกับตัวเองอย่างไร
เปิดร่างกาย กระตุ้นพลังในใจคุณด้วยการนั่งตัวตรง หายใจเข้า หายใจออกลึก ๆ ช้า ๆ ผายอกและดึงไหล่ไปด้านหลัง จะช่วยให้รู้สึกว่าคุณมีพลังในการควบคุมสถารณ์ ไม่ว่าในความเป็นจริงแล้วคุณจะมีตำแหน่งหรือบทบาทหน้าที่อะไร
ถ้าคุณได้ลองทำอย่างที่บอกไว้จะช่วยให้คุณรู้สึกว่ามีพลังแม้ว่าคุณจะเป็นแค่พนักงานตำแหน่งเล็กๆก็ตาม ความมั่นใจของคุณจะพุ่งสูงขึ้นในทันที นั่นเป็นเพราะปอดของคุณขยายออกทำให้ได้รับออกซิเจนมากขึ้นจากการหายใจเข้าและหายใจออกลึก ๆ ช่วยให้สมองได้รับออกซิเจนมากขึ้น ขณะเดียวกันการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกดี แม้ว่าคุณจะกำลังรู้สึกแย่มากก็ตาม
การพยายามทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้ามีลักษณะเหมือนเวลาที่คุณแสดงอารมณ์ทางสีหน้าโดยธรรมชาติ ก็สามารถช่วยเปลี่ยนอารมณ์ของคุณได้เช่นกัน ถ้ายังไม่เชื่อ อยากให้คุณลองทำหน้าเศร้าดู แล้วจะรู้ว่าการจะทำหน้าเศร้าได้ คุณจะต้องสร้างความรู้สึกเศร้าภายในใจเสียก่อน การเปลี่ยนจังหวะในการหายใจก็ช่วยปรับอารมณ์ได้เช่นกัน การหายใจถี่ขึ้นจะทำให้หัวใจเต้นแรง เกิดความตึงเครียด ขณะที่การหายใจอย่างช้า ๆ จะค่อย ๆ ทำให้อารมณ์เย็นลง ดังนั้น เพื่อให้เกิดความรู้สึกสดชื่น ลองฝึกหายใจเข้าออกทางจมูกอย่างเป็นจังหวะและไหลลื่น ผ่อนคลายหน้าท้อง ลำคอ และใบหน้า
การกำหมัด ซึ่งเป็นการแสดงท่าทางที่ช่วยสร้างพลังอำนาจมาแต่ไหนแต่ไร สามารถช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเองสำหรับผู้ชาย แค่กำหมัดเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปต่อยหน้าใครก็จะรู้สึกถึงพลังอำนาจ ทีนี้ลองกำหมัดดให้แน่นๆดูสิคะ
ท่าทางที่ช่วยสร้างพลังส่งผลให้เห็นได้ในทันทีที่เราอาจจะเคยเห็นกันบ่อย ๆ ในหนัง เวลาก่อนที่จะเดินเข้าห้องประชุมครั้งสำคัญ ตัวละครจะหายใจเข้าลึก ๆ ผายอก และเงยหน้าขึ้น ท่าทางที่ช่วยสร้างพลังและกำลังใจก่อนการสัมภาษณ์งาน ก่อนการประชุม หรือก่อนเดินเข้างานสังคมนั้นเป็นเหมือนยาวิเศษที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้คุณได้ในทันที เพราะความมั่นใจจะเพิ่มขึ้นทันที
สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุผลให้เราต้องใส่ใจกับภาษากาย พฤติกรรมการแสดงท่าทาง การแสดงออกทางสีหน้า ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และการหายใจ ซึ่งช่วยส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีในเชิงบวก อย่าปล่อยให้ภาษากายหรือการแสดงออกทางสีหน้าของคุณบ่งบอกถึงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกไปทั้งหมด เพราะภาพลักษณ์ที่ดีนั้นไม่ใช่แค่เสื้อผ้า หน้า ผมเท่านั้น แต่มาจากความฉลาดในการใช้อารมณ์ (Emotional Intelligence) ภาษากาย (Body Language) และสีหน้า (Facial Expressions) ให้ถูกต้องและเป็นประโยชน์ด้วยค่ะ ลองคิดดูสิคะว่าจะมีใครอยากพูดคุยหรือสุงสิงกับคุณไม๊ถ้าคุณเป็นคนที่ม่สีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา ไม่เคยยิ้มให้ใคร และไม่เคยสบตาใคร
บทความโดย : อลิสา โลหิตนาวี
ผู้ก่อตั้งและริเริ่มธุรกิจที่ปรึกษาทางด้านการสร้างภาพลักษณ์ : Image Matters
ขอบคุณรูปภาพจาก : beuniquelysavvy.com