คอลเลกชั่นใหม่จาก Mulberry สะท้อนความสนุกสนานแบบผู้ดีอังกฤษ ในยุคสวิงกิงซิกตี้
Mulberry แบรนด์เครื่องหนังที่มีประวัติอันยาวนานจากประเทศอังกฤษ แบรนด์ที่ถูกหล่อหลอมและสร้างสรรค์ขึ้นจากมรดกทางวัฒนธรรมของอังกฤษ ซึ่งได้หยิบเอาขนบธรรมเนียมดั้งเดิมขึ้นมารังสรรค์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ล่าสุด ในซีซั่นนี้ Johnny Coca ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Mulberry ได้หยิบเอาแรงบันดาลใจจากสุนทรียะและห้วงอารมณ์ต่างๆ ในยุค 60s ช่วงเวลาที่อังกฤษจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับทั่วโลกพร้อมทั้งสร้างความรุ่งเรืองให้กับวัฒนธรรมของตน นับเป็นช่วงเวลาแห่งอิสรภาพ การเลิกทาส และการปฏิวัติ มาสร้างสรรค์คอลเลกชั่น Spring/Summer 2019 สะท้อนทัศนคติเชิงบวก และจิตวิญญาณอันเปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งกลายมาเป็นความคลาสสิกที่มากไปด้วยลูกเล่นและการดัดแปลง
"สำหรับคอลเลกชั่นใหม่นี้ ผมมองหาช่วงเวลาอันโดดเด่นของวัฒนธรรมอังกฤษ ก่อนจะลงเอยที่ ยุคสวิงกิงซิกตี้ (Swinging Sixty) ที่เต็มไปด้วยความสุขสำราญ และภาพที่เป็นที่จดจำ ผมปรารถนาให้คอลเลกชั่นนี้แสดงออกถึง ความสนุกสนาน มีพลัง ดูสดใส เป็นธรรมชาติ มีการตกแต่งด้วยลายกราฟิกและป๊อปสไตล์ เป็นเสมือนคอลเลกชั่นที่จะพาคนย้อนกลับไปสัมผัสบรรยากาศของยุค 60s หากแต่แฝงทัศนคติของปัจจุบันเอาไว้คู่กัน” Johnny Coca กล่าว
ดีไซน์เสื้อผ้าในคอลเลกชั่นล่าสุดจาก Mulberry เต็มไปด้วยกลิ่นอายของถนน Carnaby Street และ King’s Road มาผสมผสานเข้ากับความโดดเด่นของนางแบบชื่อก้องอย่าง Lesley ‘Twiggy’ Hornby และ Jean ‘The Shrimp’ Shrimpton ทำให้เราเห็นดีเทลต่างๆ ที่มีทั้งลายปริ้นท์ที่มาพร้อมกับพลังของป๊อปสไตล์ในแบบใหม่, กระโปรงสั้นขนาดพอดีตัว, สวิงโค้ท, พีแจ็คเก็ต, เทรนช์โค้ท หรือเดรสถักจากเส้นใยสีเมทัลลิคพิเศษ ฯลฯ
สำหรับเฉดสีที่ดีไซเนอร์เลือกใช้ในคอลเลกชั่นนี้ เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง ตั้งแต่สีแดง, เขียว, น้ำเงิน, กรมท่า และเทา อีกทั้งยังเพิ่มเติมความสนุกด้วยสีพาสเทลผสมเข้ากับสีขาว รวมไปถึงดีเทลลายปริ้นท์เรขาคณิตสลับกับลายจุดแบบลวงตา ประดับด้วยลวดลายของดอกเดซี่สี่กลีบและลายตารางที่ปริ้นท์ลงบนผืนผ้าฝ้าย พร้อมทั้งยังจัดวางลายดอกไม้ตามสไตล์ psychedelia ลงบนผ้าไหมเนื้อหยาบ เพื่อให้ดูเสมือนการสะท้อนภาพใต้ผืนน้ำ
มาถึงส่วนของไอเทมที่สาวกแบรนด์เนมทั่วโลกตั้งตาคอย สำหรับ กระเป๋า Mulberry Spring/Summer 2019 นั้น ได้หยิบส่วนประกอบของดีไซน์ที่แฝงไว้ในเสื้อผ้ามาใช้ โดยนำลายจุดและดอกเดซี่สี่กลีบมาทำเป็นลูกปัด ปักเป็นแพทเทิร์นเพื่อประดับบนกระเป๋า Mini Seaton, Micro Seaton และ Small Amberley Satchels ในขณะที่ลายตารางหมากรุกถูกนำเสนอผ่านหนังแบบสานบนกระเป๋า Leighton และ Hampstead
กระเป๋าดีไซน์ใหม่ทรง bucket ที่มาพร้อมกับหูหิ้วด้านบนและสายสะพายแบบ cross-body กระเป๋า Hampstead ยังมีสายหนังสำหรับรูดปิดและเปิดกระเป๋า มาพร้อมกับ Twist Ring Lock ฮาร์ดแวร์ซิกเนเจอร์แบบใหม่ อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mulberry
นอกจากนี้ Mulberry ยังนำเสนอกระเป๋า Brockwell ที่มาในรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวแบบใหม่ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานการใช้ Twist Ring Lock ในแบบที่ต่างออกไป รูปทรงเรขาคณิตนับเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ Mulberry รังสรรค์กระเป๋าคลัทช์ รุ่น Roundabout และ Square ซึ่งถูกตั้งชื่อตามคำต่อท้ายชื่อถนนในประเทศอังกฤษ ออกแบบโดยประดับแผ่นโลหะลงบนแผ่นหนัง อีกทั้งยังนับเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบกระเป๋า The Vale กระเป๋าโทตทรงแบนที่ตัดเย็บอย่างประณีต และเพื่อเพิ่มความสดใสให้กับคอลเลกชั่น Mulberry ยังได้หยิบเอาสีหลักของเสื้อผ้ามาใช้กับกระเป๋าในแบบต่างๆ อีกด้วย
รวมไปถึงเครื่องประดับในคอลเลกชั่นนี้ ยังคงเน้นการดีไซน์แบบสนุกสนาน ในรูปแบบเครื่องประดับโอเวอร์ไซส์ ใช้รูปทรงและวัสดุที่ดูขัดแย้งหากแต่ว่าลงตัว กระจกและความโปรงใสนับเป็นหัวใจหลักในการออกแบบ ซึ่งได้ถูกนำมารวมเข้ากับรูปทรงเรขาคณิตที่ทำขึ้นด้วยวัสดุแบบมันวาวหรือคริสตัลสีพาสเทลนั่นเอง
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคอลเลกชั่นที่เต็มไปด้วยความสนุกและความเหนือระดับตามแบบฉบับสาว Mulberry จริงๆ
อัลบั้มภาพ 46 ภาพ