เทคนิคดูแลผิวหน้าสำหรับคุณผู้ชาย
Face Focus ผิวหน้าของผมเป็นแบบไหนกันแน่ : ผิวหน้านั้นแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้สามแบบด้วยกัน คือ
1. ผิวมัน
2. ผิวผสม
3. ผิวแห้ง
แต่ประเภทของผิวก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าผิวหน้าแบบไหนจะหล่อสุด หรือผิวหน้าแบบไหนจะเห่ยสุด เพราะถ้าคุณไม่รู้จักหน้าตัวเองดีพอแล้ว การดูแลที่ผิดๆ ก็อาจทำให้หน้าทุกแบบเยินได้พอๆ กัน
รู้ไหม?
ชายไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 80 จะมีผิวมัน ร้อยละ 15 จะเป็นผิวผสม ส่วนร้อยละ 5 เท่านั้นที่จะมีผิวแห้ง เพราะฉะนั้นผู้ชายไทยจึงควรจะต้องดูแลรักษาหน้าให้ดีเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นผู้ชายไทยจึงควรจะต้องดูแลรักษาหน้าให้ดีเป็นพิเศษ เพราะผิวหน้ามันนี่ละ ตัวการบั่นทอนความหล่อที่อันตรายที่สุด
DIY : Do It Yourself ทดสอบผิวหน้าด้วยตาเปล่า
- ทีโซน คือ ผิวบริเวณหน้าผากและจมูก ไล่ลงมาจนถึงคาง ถ้าลองลากเส้นบริเวณนี้ทั้งหมดดูจะเป็นรูปตัว T บนใบหน้า ซึ่งเป็นที่มาของคำว่าทีโซนนั่นเอง ผิวบริเวณนี้คือจุดที่มีปริมาณต่อมไขมันรวมตัวกันเยอะที่สุด
- ต่อมไขมัน คือ ต่อมที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำมันเพื่อคงความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า คนเราจะมีผิวหน้ามันหรือแห้งก็ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำมันที่ผลิตออกมาจากต่อมนี้นี่เอง
ล้างหน้าให้สะอาดแล้วก็...เริ่มได้!!!
- หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ถ้าบริเวณทีโซนของใครเริ่มมันวาว แสดงว่าคุณไม่ใช่คนผิวแห้งแน่นอน แต่ถ้าหน้าใครยังใสไร้ความมันอยู่ก็แสดงว่าคุณเป็นคนผิวแห้งนั่นเอง
- สองชั่วโมงผ่านไป ถ้าผิวหน้าบริเวณทีโซนยังมันอยู่ แต่บริเวณแก้มมีความมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือแทบจะไม่มันเลยแสดงว่าคุณเป็นคนผิวผสม
- สองชั่วโมงผ่านไป ( เหมือนกัน ) แต่ถ้าหน้าคุณมันเยิ้มไปทั้งหน้า ( จนใช้ทอดไข่เจียวได้ ) ก็แสดงว่าคุณเป็นคนผิวมันอย่างแน่นอน
3 หนุ่ม 3 มุม
หนุ่มผิวแห้ง
เกิดมาเป็นคนผิวหน้าแห้งดูจะโชคดีกว่าเพื่อน เพราะใบหน้ามีต่อมไขมันค่อนข้างน้อย หน้าจึงไม่มันนัก แล้วยังมีรูขุมขนที่ไม่กว้าง ทำให้ดูผิวดี เป็นหนุ่มหล่อหน้าใสใบหน้าเรียบเนียน
ข้อสังเกต
- ผู้ชายผิวแห้งส่วนใหญ่มักมีผิวขาว เรียบเนียน ไม่ค่อยเป็นหลุมเป็นบ่อ
ข้อดี
- หน้าหล่อใส ไม่มัน และไม่เป็นสิวง่ายๆ
ข้อเสีย
- หน้าลอกเป็นขุยได้ง่าย
- เกิดริ้วรอยง่ายก่อนวัยอันควร แถมยังเห็นชัดเจนกว่าผิวประเภทอื่นๆ ถ้าเป็นสิวหรือแผล จะหายช้าและยากมาก
- แพ้สิ่งต่างๆ ได้ง่ายกว่าทุกผิว
ข้อควรทำ
- อย่าล้างหน้าบ่อยนัก
- บำรุงผิวหน้าให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- บำรุงพิเศษตรงรอบดวงตาและตามรอยตีนกา
อายุความหล่อ : หล่อใสเต็มที่ได้ถึงวัยประมาณ 25 หลังจากนั้นถ้าดูแลไม่ดี ก็จะเริ่มมีริ้วรอย แลดูแก่ง่าย
หนุ่มผิวผสม
หนุ่มผิวผสมจะมีปัญหาผิวหน้าน้อยที่สุดเพราะคุณสมบัติของผิวหน้านั้นจะอยู่ตรงกลางระหว่างสองลักษณะผิว มีน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวในปริมาณที่กำลังดี และมีรูขุมขนค่อนข้างกว้าง แต่ก็ไม่กว้างเท่าคนผิวมัน อย่างไรก็ตาม ควรจะดูแลความมันบริเวณทีโซนเป็นพิเศษ เพราะหากชะล่าใจไม่เหลียวแลผิว อาจจะมีสิวมาผสมอยู่เต็มหน้าก็เป็นได้
ข้อสังเกต
- เป็นคนที่เหมือนจะผิวมัน แต่กลับไม่ค่อยมีสิวเท่าไร
- บางครั้งจะเห็นรูขุมขนบนใบหน้าชัดเจน
ข้อดี
- หน้าไม่มันเยิ้มจนเกินไป
- หน้าหล่อใสแต่ไม่เรียบเนียนเท่าผิวแห้ง
- ไม่ค่อยเป็นสิวง่ายๆ
ข้อเสีย
- แทบจะไม่มี เพราะไม่แพ้อะไรง่ายๆ เหมือนผิวแห้ง และไม่มันเยิ้มเกินไปเหมือนผิวมัน ริ้วรอย
ต่างๆ เกิดได้ยากกว่าผิวแห้ง แต่ก็เห็นชัดเจนและมาไวกว่าผิวมัน
ข้อควรทำ
- รักษาความสะอาดของผิวหน้าให้ดีเป็นพอ แต่ไม่ต้องล้างหน้าบ่อยจนเกินไป
- บำรุงพิเศษตรงจุดเดียวกับคนผิวแห้ง
อายุความหล่อ : ผิวดีเต็มที่ได้ถึงวัยประมาณ 30 หลังจากนั้นจะเริ่มมีริ้วรอยบ้าง แต่ก็จะไม่ชัดเจนจนน่าเกลียด
หนุ่มผิวมัน
ชายคนนี้ดูจะมีปัญหาน่าหนักใจกับผิวหน้ามากที่สุด เพราะนอกจากต่อมไขมันจะกระจายตัวทั่วใบหน้าอย่างหนาแน่นแล้ว รูขุมขนของคนผิวมันก็จะใหญ่เป็นพิเศษ ทำให้ผลิตน้ำมันออกมามาก เสี่ยงต่อการอุดตันของรูขุมขนอันเนื่องมาจากสิ่งสกปรก แล้วยิ่งมาเจอกับสภาพอากาศร้อนๆ อย่างบ้านเราที่ทำให้รูขุมขนขยายตัว และสารพัดมลพิษ กับอีกนับล้านสิ่งสกปรกเข้าไป ก็จะยิ่งมีปัญหาสิวกันอย่างไม่หยุดหย่อน
ข้อสังเกต
- ผิวหน้าไม่เรียบและมันมากๆ
- เป็นสิวเขรอะ มีตุ่มเกิดขึ้นแทบจะทุกหย่อมบนใบหน้า
- หน้าเป็นหลุมเป็นบ่อจนเห็นแล้วนึกว่ากำลังส่องกล้องดูดวงจันทร์
ข้อดี
- หน้ามีความชุ่มชื้น
- เป็นสิวแต่ก็หายง่าย โดยเฉพาะสิวอักเสบจะหายไวกว่า และไม่ทิ้งรอยแผลไว้เหมือนคนผิวแห้ง
- เกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ยากและช้ากว่าผิวหน้าประเภทอื่นๆ
ข้อเสีย
- หน้ามันตลอดเวลา
- เป็นสิวง่ายมากๆ
ข้อควรทำ
- พกกระดาษซับมันเพื่อลดอาการหน้ามันเยิ้มที่ทำให้ดูโทรม
- ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 3 ครั้งขึ้นไป
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม
อายุความหล่อ : หล่อเต็มที่ถึงวัยประมาณ 35 ถ้าดูแลผิวดีๆ ริ้วรอยอาจจะไม่เกิดเลย หรือเกิดเพียงเล็กน้อยตามวัย