เปิดเคล็ดลับของ "จูน สาวิตรี โรจนพฤกษ์" สาวสวยสุดสตรองแห่งปี 2018

เปิดเคล็ดลับของ "จูน สาวิตรี โรจนพฤกษ์" สาวสวยสุดสตรองแห่งปี 2018

เปิดเคล็ดลับของ "จูน สาวิตรี โรจนพฤกษ์" สาวสวยสุดสตรองแห่งปี 2018
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เห็นชัดเลยว่าตลอดปี 2018 ที่ผ่านมาเซเลบริตี้สายสวยอย่าง "คุณจูน สาวิตรี โรจนพฤกษ์" เรียกได้ว่าคิวทองมากๆ ไม่ว่าจะเป็นงานพิธีกร งานโชว์ตัว หรืองานรีวิวร้านอาหารที่เจ้าตัวชื่นชอบเป็นการส่วนตัวผ่านอินสตาแกรม ฮอตขนาดนี้ HELLO! เลยไม่พลาดแวะมาพูดคุยกับเจ้าตัวกันสักหน่อย ว่าชีวิตส่วนตั๊วส่วนตัวของคุณจูนสาวสวยของเราเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปทำความรู้จักกับ "โลกของคุณจูน" กันเลยค่าาา

เพราะระยะทางอันห่างไกลจากบ้านไปยังสถานที่ทำงานในใจกลางเมืองย่านปทุมวันและราชประสงค์ ทำให้คุณจูน-สาวิตรี โรจนพฤกษ์ พิธีกรสาวคนเก่ง ซึ่งมักจะมีงานพิธีกรตามสถานที่ต่างๆ ดังที่กล่าวมา ตัดสินใจว่าจะหาที่พำนักในเมืองเสียที

“ปกติงานพิธีกรที่จูนทำมักจะจัดที่สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมในย่านราชประสงค์อยู่แล้ว แต่บ้านคุณแม่อยู่บริเวณเลียบทางด่วนเกษตรนวมินทร์ ถ้าหากมีงานแปดโมงเช้า จูนต้องออกจากบ้านตั้งแต่หกโมงเช้า เลตสุดไม่เกินหกโมงครึ่ง ไม่อย่างนั้นจูนจะสายเลย แล้วถ้าสมมติมีงานอีกทีตอนบ่ายสอง จูนไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะถ้ากลับบ้านไปกว่าจะออกมาอีกทีมันเสียเวลา และถ้าจะเดินห้างสามชั่วโมง ก็เหนื่อยเกินไป จูนเลยคิดว่าเราหาคอนโดในเมืองอยู่ดีกว่า ซึ่งก็มาได้ที่นี่”

เธอมาได้คอนโดมิเนียมว่างๆ ซึ่งเจ้าของคนเดิมไม่เคยให้ใครเช่าอยู่ ตั้งแต่ซื้อมาเป็นเวลานานแปดปี เป็นคอนโดมิเนียมขนาดสองห้องนอนเนื้อที่รวม 126 ตารางเมตร “เจ้าของเขามีอยู่สองยูนิต อีกยูนิตหนึ่งกว้างกว่าและจูนชอบมากกว่า เพราะครัวใหญ่แล้วจูนชอบทำครัว แต่ราคาแพงกว่าหลายล้าน จูนก็เลยเลือกยูนิตนี้และเอาเงินที่เป็นส่วนต่างมาเป็นค่าตกแต่งห้องนี้แทน”

 
โลกแห่งแฟชั่น
คุณจูนได้คุณสุวาสน์ เมฆคงถาวร ดีไซเนอร์เสื้อผ้าแบรนด์ WWA ซึ่งคุณจูนเคยเป็นลูกค้าประจำ และเขายังเปิดคาเฟ่อีกด้วย เธอชื่นชอบสไตล์การตกแต่งห้องน้ำของคาเฟ่นี้ที่เป็นผลงานการออกแบบของเขาด้วยเช่นกัน “ห้องน้ำเขามีโซฟาสไตล์วินเทจที่จูนชอบ ก็เลยขอเขามาช่วยตกแต่งให้ ทีนี้จูนบอกเขาว่าหนูชอบเฟอร์นิเจอร์ของ Chanintr พอจะทำบ้านก็เลยบอกพี่วาสน์ซึ่งก็ชอบเหมือนกัน พี่วาสน์ก็เลยเลือกเฟอร์นิเจอร์หลักของที่นี่มาสองชิ้น ชิ้นแรกเป็นอาร์มแชร์สีน้ำเงิน กับอีกอันคือเตียง เขาบอกว่าถ้ามีเฟอร์นิเจอร์สองชิ้นนี้จะช่วยถ่ายทอดตัวตนของจูนออกมาได้ดีมาก แล้วเขาจะออกแบบห้องให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์สองชิ้นนี้

 

“ทีแรกจูนบอกพี่วาสน์ไปว่าหนูซื้อได้แค่อาร์มแชร์ แล้วก็สั่งทำหัวเตียงขึ้นมา ซึ่งเป็นเตียงขนาดเล็ก แต่พออยู่ไปพักหนึ่งรู้สึกว่าเตียงเล็กเกินไป เพราะเป็นคนนอนดิ้น แล้วจูนเป็นคนชอบนอนโดยมีหมอนหลายใบวางไว้รอบตัว ทีนี้หมอนตกก็ต้องตื่นกลางดึกเพื่อหยิบหมอนซ้ายขวาอยู่อย่างนี้ ก็เลยบอกพี่วาสน์ว่าหนูอยากได้เตียงที่พี่เลือกครั้งแรก บังเอิญว่าเตียงลดราคาพอดีเลย แล้วบังเอิญเหลือเกินว่าเป็นแบรนด์เดียวกับอาร์มแชร์ตัวนั้นอีกด้วย”

 

ในห้องนอนของเธอนั้นเรียบง่าย นอกจากเตียงขนาดใหญ่ ยังประดับด้วยภาพวาดขนาดเล็กของศิลปินอิตาเลียน บนหลังตู้ไม้วินเทจขนาดพอดีมีแจกันดอกไม้สีสันสดใสที่เธอมักจะไปซื้อจากร้านประจำที่ปากคลองตลาดมาจัดด้วยตัวเอง “จูนชอบวางดอกไม้ไว้ตรงปลายเตียง เหมือนเราชมสวน แล้วแสงในห้องนอนตอนเช้าเป็นสีน้ำตาลทองเมื่อฉาบไปบนดอกไม้ แล้วไปกระทบบนผนังอีกด้านหนึ่งรู้สึกว่าสวยจังเลย”

 

เจ้าของบ้านพูดพลางหัวเราะเบาๆ ส่วนภาพวาดคนมองวงกลมที่คนดูรู้สึกว่าเหมือนดาวโลกนั้น เธอได้มาจากมิลาน“ตอนที่เดินเข้าไปในล็อบบี้ของโรงแรม Room Mate Milan แล้วเห็นรูปพวกนี้แขวนอยู่ราว 20 ชิ้นได้ จูนเห็นแล้วรู้สึกว่าน่ารักจัง ก็เลยขอเบอร์โทร.ศิลปิน แล้วไปเลือกรูปที่สตูดิโอเขา ก็ได้มา 4 รูป รูปสุนัข รูปสีแดงชมพู รูปคนยกมือ และรูปคนกำลังมองโลก 

 

“รูปสุดท้ายนี้ศิลปินอธิบายว่าถ้าเราเป็นคนที่อยู่ในนั้นกำลังมองโลกอยู่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีคนกำลังมองเราอยู่เหมือนกัน หรือรูปยกมือเขาบอกว่ามันอาจจะแปลว่ายกมือขึ้นเพื่อช่วยเหลือหรือเพื่อขอความช่วยเหลือก็ได้ จูนก็อื้อหืม...ถูกใจ ตอนแรกเขาก็ถามว่าไม่ซื้อรูปสีชมพูหรือ ก็บอกว่าไม่เอามันเหมือนเลือดสาด แต่เขาบอกว่าจริงๆ สีนี้คือ Happy Colour นะ ส่วนรูปสุนัข จูนซื้อเพราะชอบไม่ได้มีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น”


โลกแห่งการผ่อนคลาย 

ด้วยความที่โลกภายนอกมีแต่ความเคร่งเครียด เมื่อกลับถึงที่พำนักเธอจึงขอรีแลกซ์ด้วยการแช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่คุณจูนเธอรีเควสต์คุณวาสน์ให้ช่วยหาอ่างอาบน้ำที่ถูกใจให้

ห้องอาบน้ำ มุมผ่อนคลายสุดโปรดของสาวจูน
“ตอนแรกพี่วาสน์ถามว่าใช้จริงหรือเปล่า เพราะมันกินที่มากเลยนะ ส่วนมากซื้อมาแล้วไม่ใช้ แต่จูนบอกหนูใช้จริง ถ้าให้เลือกความเย็นกับความร้อน จูนเลือกความร้อน แต่ไม่ถึงกับร้อนจัดนะคะ ก็จะชอบแช่น้ำอุ่นที่กำลังพอดีกับออยล์หอมๆ แต่ครั้งหนึ่งไม่เกิน 15 นาที เพราะกลัวผิวแห้ง แต่แค่นั้นก็สบายมากเลยนะคะ แล้วช่วงนั้นเขาฮิตอ่างขาสิงห์ พี่วาสน์ก็บอกอย่าเลยเดี๋ยวเบื่อ ซึ่งจูนดีใจมากที่เชื่อเขา คือพี่วาสน์พูดอะไรก็เป็นจริงหมด อย่างพื้นห้องก็เหมือนกัน ช่วงนั้นเขาฮิตแฮริ่งโบน พี่วาสน์ก็บอกว่าอย่าเปลี่ยนเลยเชื่อพี่ เพราะเดี๋ยวเบื่อแน่นอน

“จูนดีใจมากที่เชื่อพี่เขา เพราะจูนเสียใจที่ไม่เชื่อเขาหลายอย่าง อย่างเช่น ผนังห้องนอนที่พี่วาสน์ทาสีพีชให้ แล้วจูนขอเปลี่ยนเป็นสีเทา พี่วาสน์ก็บอกว่าเขาไม่อยากให้จูนเป็นผู้หญิงสวมชุดดำกับสร้อยมุก เพราะไม่จำเป็นต้องเข้ากันไปเสียหมด แล้วพอเวลาผ่านไปจูนรู้สึกว่าเราควรจะเชื่อเขา แต่เปลี่ยนสีใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องรื้อของออกหมด ก็เลยต้องยอม”

 

โลกแห่งของสะสม
หนึ่งในงานอดิเรกของคุณจูนก็คือการทำอาหาร ทำให้เธอเริ่มสะสมตำราอาหารไว้พอสมควร ซึ่งแต่ละเล่มก็มีปกที่สวยเหมาะที่จะอวดตัวอยู่บนชั้นวางของที่คุณวาสน์ออกแบบเป็นบิลต์อินเต็มผนังด้านหนึ่งของห้องรับแขก 

 

“จูนเริ่มซื้อ cook book และหนังสือแต่งบ้านตอนมาอยู่บ้านนี้ และความใฝ่ฝันของจูนคืออยากมีหนังสือของตัวเองในหมวดตำราอาหาร ซึ่งตอนนี้จูนมีแล้วสองเล่ม ก็จะรู้สึกดีมากทุกครั้งที่เห็น นอกจากนี้จูนยังชอบอ่านวรรณกรรมเยาวชนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งของสำนักพิมพ์ผีเสื้อของโรอัลด์ ดาห์ล แล้วก็อีนิด ไบรตัน แล้วก็ชอบอ่านชีวประวัติพวก memoir และประวัติเมืองเก่า”

ของสะสมอีกอย่างของพิธีกรสาวก็คือ เครื่องกระเบื้อง “ซื้อเพราะชอบ สมัยก่อนจะซื้อเป็นเซ็ต แต่เนื่องจากพื้นที่เราจำกัด ก็เลยจะซื้อแค่ลายละชุดสองชุดเท่านั้น จะได้มีหลายลาย แล้วก็เอามาใช้ด้วย ไม่ได้เอาไว้โชว์อย่างเดียว”

 

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักที่คุณวาสน์เลือกมาเป็นพิเศษก็คือ อาร์มแชร์สีน้ำเงินที่ราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องอีกครั้ง “จูนเคยซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ชอบมาก และคุณภาพไม่ได้ดีมากมาใช้ แต่หลังจากใช้ได้พักหนึ่งสุดท้ายก็ไม่ชอบ พอมาตอนหลังนี้จูนจึงตั้งใจว่าจะซื้อเฉพาะของที่ชอบ ซึ่งคุณภาพก็มาพร้อมราคา จูนก็ทำงานเก็บเงินไว้ซื้อของชอบ โดยที่ไม่รู้สึกเสียดายภายหลังเลย ดีใจมากที่เราตัดสินใจไม่ผิด 

คุณจูน และมุมหนังสือมุมโปรด
“จูนมักจะมานั่งอ่านหนังสือ เล่นคอมพิวเตอร์ และดูหนังที่อาร์มแชร์ตัวนี้ โดยเอาฝาพับแล็ปท็อปพิงกับรูปปั้นศีรษะที่จูนซื้อจากร้านขายของที่ระลึกของ The Met ที่นิวยอร์ก เพราะคิดมานานแล้วว่าอยากมีรูปปั้นอยู่ในบ้าน ราคาไม่แพงด้วย ก็เลยอุ้มกลับเมืองไทยเลย”

 

คุณจูนใช้ชีวิตที่คอนโดแห่งนี้มาได้ห้าปีแล้ว และเธอก็ยังคงมีความสุขกับการอยู่บ้านทำกับข้าว จัดดอกไม้และทำงานอดิเรกต่างๆ ที่ชอบ เมื่อถามเธออีกครั้งว่ารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เธอบอกเราอย่างไม่ลังเลเลยว่า “จูนว่าจูนคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจเลือกซื้อที่นี่ เพราะนอกจากจะประหยัดเวลาการเดินทางแล้ว ยังตกแต่งออกมาได้ถูกใจตัวเอง ถือเป็นโลกส่วนตัวของจูนจริงๆ ค่ะ”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook