ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น เช็กหน่อยไหม คุณกำลังป่วยโรคอะไรอยู่รึเปล่า?
แปลกจัง อยู่ดีๆ ประจำเดือนก็มีกลิ่นเหม็นผิดปกติไปจากเดิม หากเป็นแบบนี้สาวๆ อย่าได้ชะล่าใจเป็นอันขาด เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่คุณอาจคาดไม่ถึงก็ได้ เพราะฉะนั้นมาดูกันดีกว่าว่า การที่ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง จะได้เตรียมรับมือได้ทันนั่นเอง
1.มะเร็งปากมดลูก
เมื่อประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นเน่า พร้อมกับมีเศษเนื้อปนมากับประจำเดือน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าคุณกำลังเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดกับคนที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือนมากกว่า และมักจะมีประจำเดือนติดต่อกันนานกว่า 10 วันอีกด้วย
2.เชื้อราในช่องคลอด
หากมีเชื้อราในช่องคลอด ก็จะทำให้ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นผิดปกติได้เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะมีกลิ่นแบบเหม็นเปรี้ยว พร้อมกับมีอาการคันในช่องคลอดร่วมด้วย และที่สังเกตได้อีกสิ่งหนึ่งก็คือก่อนและหลังประจำเดือนมา จะมีตกขาวเป็นสีเหลืองเข้มคล้ายแป้งเปียกนั่นเอง
3.มะเร็งมดลูก
เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น โดยมักจะเกิดกับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนหรือวัยสูงอายุ ซึ่งเลือดที่ออกมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นนั้นคาดว่าน่าจะไม่ใช่ประจำเดือน แต่เป็นเลือดที่มีสาเหตุมาจากมะเร็งมดลูกนั่นเอง โดยเลือดจะมีสีแบบช้ำเลือดช้ำหนอง ที่แตกต่างจากเลือดประจำเดือนอย่างสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นหากพบความผิดปกติแบบนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที
4.โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
ในบางคนที่ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็น ก็อาจมีสาเหตุมาจากการป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิดได้เหมือนกัน โดยส่วนใหญ่จะมีกลิ่นเหม็นแบบเค็มๆ อับๆ และมีหนองปนออกมาด้วย หรือในบางคนก็อาจมีอาการแสบคันบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับชนิดของโรคที่เป็นอยู่ด้วยนั่นเอง ทั้งนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย ก็ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า คุณอาจกำลังป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ได้
5.การติดเชื้อในช่องคลอด
กรณีที่มีการติดเชื้อในช่องคลอด ก็จะทำให้ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นผิดปกติได้ หรือหากประจำเดือนหมดไปแล้ว ก็ยังมีกลิ่นเหม็นเค็มที่อวัยวะเพศหรือจากตกขาวให้สังเกตได้เช่นกัน ซึ่งกรณีนี้ก็ควรรีบทำการรักษาโดยด่วน เพราะเชื้ออาจลุกลามจนทำให้รุนแรงกว่าเดิมได้นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าการที่ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ อาจมีสาเหตุมาจากโรคร้ายได้หลายชนิด ซึ่งก็มีความอันตรายมากทีเดียว เพราะฉะนั้นควรรีบไปพบแพทย์ในทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและทำการรักษาอย่างเร่งด่วนที่สุด