บัตรเดียว เที่ยว กิน ช้อป กระจาย

บัตรเดียว เที่ยว กิน ช้อป กระจาย

บัตรเดียว เที่ยว กิน ช้อป กระจาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มองซ้ายมองขวา มองไปข้างหน้า มองไปข้างหลัง ชะเง้อมองอีกสักที ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็จะเจอกับโปรโมชั่น บัตรเครดิต จากหลากหลายธนาคาร ที่จัดโปรโมชั่นร่วมกับห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าแบรนด์เนม ร้านอาหารต่างๆ ให้มองกันอย่างเพลิดเพลิน ล่อตาล่อใจเราด้วย ส่วนลด 10-25% บ้างล่ะ มีการคืนเงินทุก การใช้จ่ายบ้างล่ะ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี และที่ดึงดูดคน (อยาก) ใช้เงินอนาคต ที่สำคัญก็คือ ผ่อนสินค้า 0% นาน 10 เดือน

เท่านั้นไม่พอ บางธนาคารก็มอบประกันอุบัติเหตุให้อีก โปรโมชั่นจัดเต็มที่งัดกันขึ้นมานำเสนอ เพื่อให้พนักงานเงินเดือนอย่างเราๆ ต้องมีอย่างน้อยคนละ 1 ใบ ประหนึ่งเป็นคนที่มีเครดิต ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ดูดีมีไลฟ์สไตล์ แต่จะไม่เป็นหนี้หัวแตก ก็ต่อเมื่อเราฉลาดเท่าทันการใช้บัตรเครดิต ที่นอกจากจะสนุกไปกับโปรโมชั่นแล้ว ยังไม่ต้องมาทุกข์สงัดเวลาชักหน้าไม่ถึงหลังอีกด้วย

 

 

เรื่องราวเบื้องต้นของการมีบัตรเครดิต

พนักงานเงินเดือนที่ทำงานมามากกว่า 6 เดือนและมีเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป ก็สามารถทำบัตรเครดิตได้แล้ว และปัจจุบันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเดินเข้าไปที่ธนาคารแล้วทำบัตรเครดิตสักใบ เริ่มต้นใบเดียวก่อนนะ เพื่อให้เราเข้าใจระบบกลไกของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ข้อดีก็คือ จะไม่ต้องพกเงินสด สะดวกต่อการใช้จ่าย และในกรณีที่ต้องใช้จ่ายสิ่งนั้นๆ บ่อยๆ เช่น การเติมน้ำมัน มีบัตรเครดิตก็ดีไว้แลกบัตรส่วนลด เป็นต้น แต่ก็ต้องระวังรูดเพลิน เวลาบิลเก็บเงินส่งตรงไปถึงบ้าน (หรือที่ทำงาน) ก็แทบหงายหลัง เพราะเยอะเกินตัวนั่นเอง (อาทิ การใช้เต็มวงเงิน)

ระยะปลอดภัย (ดอกเบี้ย)

แต่ละธนาคารก็จะมีเงื่อนไขแต่ละบัตรเครดิตไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องของระยะปลอดดอกเบี้ย หรือ เราเรียกว่าระยะปลอดภัย ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ 45 วัน แต่ก็แล้วแต่ชนิดบัตรและแต่ละธนาคารอีกเช่นกัน ระยะปลอดภัยนี้ คือ เราต้องจ่ายให้ครบภายในระยะเวลาที่กำหนด ก็จะไม่ต้องกุมขมับกับดอกเบี้ยที่มีอัตรากว่า 10% ขึ้นไป (ตาโต!) แนะนำว่า หากกลัวลืมจ่าย หรือ เกรงว่าจะหมุนเงินสดไม่ทัน ก็ให้สมัครบัตรเครดิตกับธนาคารที่เป็นบัญชีเงินเดือน ซึ่งสามารถกำหนดได้ว่า ให้หักค่าบัตรเครดิตผ่านบัญชีเงินเดือนของเราได้เลย หรือเลือกสมัครบัตรเครดิตที่มีธนาคารอยู่ใกล้บ้าน แม้ไม่ได้หักโดยตรงจากบัญชีแต่ก็ยังสะดวกต่อการชำระอยู่ดี

 

 

โปรโมชั่นที่ตรงใจเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา

จุดนี้สำคัญที่สุด สำหรับการเลือกสมัครบัตรเครดิตของแต่ละธนาคารที่เราเลือกนั้น ย่อมต่างกันออกไป เพราะไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น คนชอบท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนที่มักจะเดินทางด้วยเครื่องบิน ก็จะมีโปรฯ บัตรเครดิตที่ให้โปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5% สำหรับการซื้อตั๋วเครื่องบินและทัวร์ในประเทศ พร้อมได้รับการคุ้มครองอุบัติเหตุจากการเดินทาง หรือคนที่ชอบความบันเทิง กิน และช้อปปิ้ง ก็จะสามารถรูดบัตรได้เลย

เพราะว่า มีโปรโมชั่นร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ต่างๆ รวมทั้งโรงแรมที่พัก ให้ได้เก็บสะสมบัตรแลกของต่างๆ หรือ ใช้เป็นส่วนลดได้ หรือ คนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวคนใหม่ ที่ต้องดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ รวมทั้งสินค้าขนาดใหญ่เข้าบ้าน ก็ต้องจัดการระบบการเงินด้วยการผ่อนชำระ ซึ่งบางธนาคารก็มีแบบดอกเบี้ยน้อย ผ่อนนาน ดอกเบี้ย 0% 10 เดือน หรือ กระทั่งระบุสินค้าที่สามารถเข้าร่วมในรายการเพื่อใช้เป็นส่วนลดได้ด้วยนะ

เพราะฉะนั้นเวลาจะซื้อของ นอกจากจะดูความชอบส่วนตัว คุณภาพของสินค้าแล้ว อย่าลืมดูว่า รูดบัตรเครดิตธนาคารอะไรแล้วคุ้มด้วยล่ะ ที่สำคัญอย่าลืมอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เป็นดอกจัน เล็กๆ ย่อยๆ เยอะๆ ด้านล่างด้วย เพราะจุดสำคัญมันอยู่ตรงนั้น รวมทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี ที่ต้องอ่านกันให้ขึ้นใจเลยทีเดียว

 

 

ตัวช่วยในเรื่องการจับจ่าย หมุนเงินเบาๆ ด้วยตัวเราเอง

ในกรณีที่เราต้องซื้อสินค้าที่มีราคาสูง หากมีบัตรเครดิต (บางธนาคาร) ก็จะได้รับส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์อีก ไปๆ มาๆ ซื้อผ่านบัตรเครดิตกลับถูกกว่า พกเงินสดเป็นตั้งๆ ไปซื้อเสียอีก ดีไม่ดี ได้ของแถมอะไรติดไม้ติดมือกลับมาอีก โดยเฉพาะเรื่องของการผ่อนชำระ บางธนาคารก็มอบโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% นานกี่เดือนก็ว่าไป ซึ่งหากเราชำระตรงงวด และเต็มจำนวน โดยไม่ผ่อนยิบย่อย ซึ่งส่วนใหญ่ธนาคารจะให้ผ่อนชำระขั้นต่ำ 10% ได้ แต่อย่าลืมว่า ส่วนต่างที่ยังไม่ได้จ่ายของ 10% นี้ก็คือ การคำนวณเป็นดอกเบี้ยเหมือนกันนะ แล้วเมื่อไหร่จะปลดหนี้สักทีล่ะงานนี้

ท้ายสุดแล้ว การที่เราจะมีบัตรเครดิตสักใบก็จะเป็นประโยชน์ หากเรารู้จักใช้ รู้จักจ่าย ไม่หมกหนี้ ไม่เป็นหนี้ดอกเบี้ย สมัครไว้คนละ 1 ใบ ไม่ได้แปลว่า เราเป็นหนี้ แต่เราขอเรียกว่า คนมีเครดิตจะดีกว่าค่ะ เพราะหากจ่ายตรง จ่ายเต็ม ก็เป็นการหมุนเงินระบบใช้ก่อนจ่ายทีหลัง แต่ขอแค่เบาๆ ก็พอนะคะ ไม่เช่นนั้นหากจัดเต็มวงเงินทุกบัตรทุกใบแล้วล่ะก็...ขอบอกไว้เพียงแค่ว่า "ชีวิตพัง!" ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook