“สวย” ด้วยการ “จัดฟัน”

ทุกครั้งที่ส่องกระจกแล้วยิ้มให้ตัวเอง จะแอบตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง กับฟันหน้าที่ห่างกันจนแสงสว่างลอดส่องถึงลิ้นด้านใน เวลากัดของกินก็จะเกิดร่องรอยของการกัดที่หน้าตาตลก เพราะดันเหลือช่องเล็กๆ ไว้ด้วย แทนที่จะกัดแล้ว ของกินชิ้นนั้นจะเป็นรูปครึ่งวงกลม แอบขาดความมั่นใจมาโดยตลอด แต่ก็ไม่อยากไปจัดฟัน เพราะกลัวการถอนฟัน แต่แล้วก็ทนไม่ไหว เพราะเห็นฟันตัวเองแล้วสะดุ้งตกใจทุกครั้ง อีกอย่างเพื่อนๆ ที่จัดฟันกันมาแล้ว ฟันก็เรียงชิดสวยงามเชียว และเมื่อความสวยชนะทุกสิ่ง เราจึงต้องเริ่มภารกิจจัดฟัน!

เช็คระบบเศรษฐกิจของตัวเองก่อนจัดฟัน

เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากอยากสวยแต่เงินไม่เอื้ออำนวยก็เป็นไปได้ยากอยู่ หากต้องการจัดฟันอย่างจริงๆ จังๆ ก็ต้องจัดสรรระบบการผ่อนจ่ายเรื่องค่าจัดฟัน โดยให้เช็คระบบการเงินของตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การจัดฟันจะเริ่มต้นประมาณ 40,000 บาท สามารถแบ่งจ่ายได้ และมีระยะเวลาการจัดฟันนานถึง 2 ปี ซึ่งผู้ใหญ่จะใช้เวลาในการจัดฟันมากกว่าการจัดฟันในเด็ก และระยะเวลาของการจัดฟันก็ขึ้นอยู่กับอายุของเรา สุขภาพฟันและเหงือก ความผิดปกติของการเรียงตัวและการสบฟันว่ามากหรือน้อยแค่ไหน รวมทั้งเทคนิคการจัดฟันของทันตแพทย์แต่ละท่านอีกด้วย

 

 

นอกจากต้องการฟันเรียงตัวสวยแล้ว เรื่องสุขภาพฟันและเหงือกก็มีส่วนทำให้เราต้องจัดฟัน

คนที่ต้องการจัดฟัน ส่วนใหญ่ก็จะจัดฟันเพราะ ฟันเกยกัน ฟันซ้อนกัน ฟันห่าง ฟันบิดตัวมากขึ้น ฟันหน้า หรือฟันบางซี่ยื่นหรือหุบไปจากฟันซี่อื่นๆ ทำให้ขาดความมั่นใจและเสียบุคลิกภาพ รวมทั้งต้องการความสวยงามของฟัน เวลายิ้มก็มั่นใจว่า "ฟันสวย" แต่หลายคนจำเป็นต้องจัดฟัน เพราะเคยถอนฟันกรามออกไปนานแล้ว

แต่ไม่ได้ใส่ฟันปลอมทดแทนตั้งแต่แรก ทิ้งไว้นานเกินไปก็ทำให้ฟันข้างๆ เกิดการล้มเอียงเข้ามาในช่องว่าง ทำให้การสบฟันผิดปกติ เคี้ยวของกินไม่สะดวก จึงต้องจัดฟันให้ฟันที่ล้มไปกลับคืนมาตรงก่อนแล้วจึงใส่ฟันปลอมลงไป รวมทั้งการเกิดโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ ทำให้กระดูกหุ้มรากฟันลดลง ฟันไม่แข็งแรงเหมือนเดิม ทำให้ต้องมีการรักษาบวกกับการจัดฟันเสริม พร้อมทั้งต้องใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) ร่วมกับการรักษาโรคเหงือกอักเสบอีกด้วย

 

 

เรื่องไม่จริง หากจัดฟันแล้วตอนแก่มันจะล้มหมดปาก เคี้ยวอะไรก็ไม่อร่อยเหมือนสาวๆ

การจัดฟันในวัยของเราไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันของเราหลุดง่ายเลย แต่สาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องเสียฟันไปในตอนแก่นั่นก็คือ โรคเหงือกอักเสบและโรคฟันผุเป็นหลัก การจัดฟันไม่ได้ทำให้ฟันของเราหลุดง่ายยามแก่เลย อีกอย่างเมื่อเราจัดฟันแล้วก็ยังคงใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน (Retainer) ไว้ต่ออีกอย่างน้อย 1 ปี เพื่อให้มันคงรูปสวยได้อย่างยาวนาน

แต่หากเรารู้ตัวว่า เรามีปัญหาเรื่องฟันแล้วไม่จัดฟัน เพราะกลัวเปลืองเงินหรือกลัวการถอนฟันรวมทั้งกลัวไม่สวยเพราะมีเหล็กติดอยู่ที่ฟัน ปัญหาสุขภาพฟันและเหงือกอาจตามมากวนให้เสียจิตได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบดเคี้ยวอาหาร หรืออาจจะทำให้เกิดการเจ็บปวดของข้อต่อกระดูกขากรรไกร เพราะการสบฟันที่ผิดปกติได้นั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าคนที่ไม่จัดฟันจะเกิดปัญหาอย่างที่บอกมา รวมทั้งอาจจะไม่เกิดปัญหาเรื่องฟันใดๆ เลยก็ได้ค่ะ

 

 

การจัดฟัน ผลสรุปนอกจากเราจะได้ฟันที่เรียงตัวสวยแล้ว เราจะได้ฟันที่มีการสบฟันที่ดี สามารถเคี้ยวอาหารที่เราชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เรารู้สึกมั่นใจเวลาพูดหรือยิ้ม รวมทั้งมีความสุขกับการได้กินอาหารที่ชอบอีกด้วย ได้ทั้งสวย และได้ทั้งสุขภาพฟันที่ดีในอนาคต อย่างนี้เรียกว่า คุ้มค่ากับการจัดฟันหน่อย ไหนๆ ก็เสียเงินแล้ว คุณว่าจริงไหมคะ?

4 วิธีง่ายๆ ในการดูแลสุขภาพช่องปากสำหรับคนจัดฟัน

1.ต้องให้เวลากับการทำความสะอาดฟันมากขึ้นกว่าเดิม โดยค่อยๆ แปรงฟันช้าๆ ซ้ำๆ ที่เดิม เพื่อเอาเศษอาหารออก และควรใช้แปรงซอกฟัน เพื่อช่วยเสริมในการทำความสะอาดฟัน

2.ควรแปรงฟัน หรือบ้วนน้ำหลังกินอาหารทุกมื้อ

3.ไม่ควรกินอาหารเหนียวหนึบติดฟันง่าย เอาออกยาก

4.ควรได้รับการขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน (นี่ผ่านมากี่ปีแล้วไม่เคยไปขูดออกเลย ไม่ดีแน่ ต้องรีบไปขูดออกบ้าง สุขภาพฟันและเหงือกจะได้แข็งแรง)

ทันตแพทย์ไม่แนะนำให้จัดฟัน หากคิดที่จะจัดฟันให้เป็นเทรนด์แฟชั่น

ขอขอบคุณ:ทันตแพทย์หญิง ดร.ภูริสา ชลศึกษ์ สอสกุล