เปียเชอร์ ความรักของฉัน คือ ทฤษฎีสีแดง

เปียเชอร์ ความรักของฉัน คือ ทฤษฎีสีแดง

เปียเชอร์ ความรักของฉัน คือ ทฤษฎีสีแดง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวสวยหลากหลายความสามารถ เป็นทั้งดีเจ บรรณาธิการนิตยสาร นักเขียนคอลัมน์บิวตี้ นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจซาลอน นอกจากความสามารถจะโดดเด่นแล้ว เรื่องราวส่วนตัวของเธอยังฮอตไม่แพ้กัน โดยเฉพาะนิยามความรักของเธอ "ความรักของฉัน คือ ทฤษฎีสีแดง"


เปียเชอร์ เอี่ยมสอาด  เปียเชอร์ เอี่ยมสอาด



เมนูยอดนิยม : จริงๆแล้วเป็นคนทานยากตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่จะปวดหัวมากเวลาจะพาไปทานอาหารนอกบ้าน แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่เรารู้สึกว่าอาหารถูกปากมากๆ ก็คือ ร้านเกรย์ฮาวด์ เมนูที่สั่งประจำคือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ส่วนร้านอื่นก็ชอบ กัลปพฤกษ์ เมนูขนมจีนแกงเขียวหวาน อร่อยมาก

กลิ่นหอมเฉพาะตัว : ฉีดน้ำหอมมาหลายยี่ห้อ แต่ที่รู้สึกว่าเหมาะกับเราที่สุด คือ miracle ของ lancome เป็นกลิ่นที่ติดทนนานมากๆ เนื่องจากเราทำงานเกี่ยวกับการเขียนคอลัมน์บิวตี้ เราจะเทสต์น้ำหอมหลายตัวอยู่แล้ว แต่ที่ประทับใจ miracle เพราะบุคลิกของน้ำหอมกับเราจะค่อนข้างคล้ายกัน มีความหวาน แต่ขณะเดียวกันก็สุขุมและมั่นใจในตัวเอง

บิวตี้ที่ขาดไม่ได้ : ลิปมันค่ะ ต้องทาทุกวัน วันละหลายๆครั้ง เพราะปากแห้งมาก

ธุรกิจในฝัน : เอาแบบที่ฝันไว้เลยนะ คือ อยากเปิดรีสอร์ทริมทะเล อยากไปใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นแล้ว ซึ่งอันนี้ดูจะเป็นไปได้ยากในชีวิตจริง เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูง ก็เลยต้องฝันไว้ก่อน

อาชีพที่อยากทำ : ที่ผ่านมาเราทำงานด้านการตลาดและงานเขียนหนังสือมาหลายปี แต่อีกหนึ่งอาชีพที่อยากทำ คือ นักจิตวิทยาคลีนิก ที่ให้คำปรึกษาผู้ป่วยที่เจอปัญหาร้ายๆ หนักๆในชีวิต เพื่อช่วยให้อาการเหล่านั้นบรรเทาลง และช่วยให้เกิดการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆได้ ซึ่งถ้าอยากทำจริงจังก็ต้องไปเริ่มเรียนใหม่หมดเลย

ผู้ชายที่เห็นแล้วกรี๊ด : ถ้าเป็นหนุ่มต่างประเทศ เราชอบ "คริส ไพน์ "ลองไปดูรูปเขาสิ เห็นแล้วกรี๊ดเลย ตาสวย จมูกสวย ปากสวย หุ่นเพอร์เฟ็ค ยิ่งเวลาที่เขาพูด แววตาเขาจะดูมีเสน่ห์มากๆ แต่ถ้าเป็นหนุ่มไทย เราชอบ คุณบี พีระพัฒน์ ประทับใจเสียงร้อง เกิดมาเพื่อเป็นนักร้องจริงๆ ไปดูเขาเล่นคอนเสิร์ตบ่อยๆ อีกคนหนึ่งที่ชอบคือ คุณแหนม รณเดช คนนี้เราชื่นชอบความสามารถ ความพยายามและอดทนในการทำงาน ความคิดและรูปแบบการใช้ชีวิต เขาจะชัดเจนและเป็นตัวของตัวเอง เราว่าเขาเจ๋งดี

ผู้ชายในชีวิตจริง : ตอนนี้ยังโสดอยู่ แต่ผู้ชายที่เราตามหา ต้องเป็นคนสม่ำเสมอ วันแรกเป็นอย่างไร วันนี้ก็ยังอยากให้เป็นอย่างนั้น เป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย เป็นตัวของตัวเองที่สุด แล้วก็ชอบคนที่ชิลล์ๆ ถ้ามีปัญหาหนักๆเข้ามา ก็รู้วิธีที่จะรับมือได้แบบสบายๆ ไม่ได้เอามาเครียดจนทำอะไรในชีวิตต่อไม่ได้ เแล้วโดยส่วนตัวเราเองก็เป็นแบบนั้น จึงอยากเจอคนที่คล้ายๆกัน เพราะเปียเชอร์เคยเจอผู้ชายที่รับแรงกดดันหรือปัญหาอะไรหนักๆไม่ได้เลย เขาจะดูนอยด์ไปหลายวัน ทำให้คนรอบข้างไม่กล้าอยู่ใกล้เลย

เคยเจอผู้ชายที่ใช่ไหม : เคยสิ ครั้งแรกที่เห็นเขา รู้สึกเหมือนมีอะไรมาสะกิดใจ ประมาณว่า เขาเป็นใครนะ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่คุ้นๆ พอได้มารู้จักกัน ได้เห็นแววตาที่เขามอง วิธีการพูดคุย ใบหน้าของเขา มันดูคุ้นเคยไปหมด เหมือนเราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน ตอนที่เขาขับรถ เรานั่งอยู่ข้างๆแล้วหันไปมอง ประหลาดใจมาก

เพราะมันเป็นมุมที่เราเคยเห็นมาก่อน นึกไม่ออกว่าตอนไหนเพราะเพิ่งรู้จักกัน มันรู้สึกเหมือนเราเคยนั่งอยู่ตรงนี้กับเขามานานหลายปีแล้ว พอรู้จักไปเรื่อยๆ นิสัยของเขาเราก็ชอบนะ สอนเราในเรื่องต่างๆ ทั้งการใช้ชีวิต การทำงาน การออมเงิน เรารู้สึกว่าอยู่กับผู้ชายคนนี้แล้วเราเป็นคนที่ดีขึ้น เขาเป็นได้ทั้งพี่ และเพื่อน แต่ที่ต้องจากกัน เพราะอาจจะเจอกันผิดจังหวะ ผิดเวลา เขามีแฟนอยู่แล้ว เราก็อกหักไป

ตอนนี้ความรักของคุณเปรียบเหมือนสีอะไร : ตอนนี้เปียเชอร์ยังโสดนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ยังมีแฟน ความรักของเปีย คือ ทฤษฎีสีแดง เราจะเหมือนแม่เหล็ก มีแรงดึงดูดเข้ามากัน อยากเจอกัน อยากกอด อยากอยู่ด้วยกันตลอดเวลา มันมีความร้อนแรง แต่ในขณะเดียวกันมันก็แผดเผา ดึงด้านมืดของกันและกันออกมา

เรื่องที่ไม่ให้อภัย : คงเป็นเรื่อง การนอกใจ ถ้าเราจับได้และมีหลักฐานครบ ทุกอย่างจบในวันนั้นเลยนะ เป็นเรื่องเดียวที่ไม่ขอเคลียร์ ไม่ต้องมาปรับความเข้าใจ เพราะเราซีเรียสเรื่องนี้มาก ในความเป็นจริงเราเข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือก แต่ในขณะที่คุณยังคบอีกคนหนึ่งอยู่ แล้วเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าคุณคิดว่าเขาไม่ใช่แล้ว ก็คุยกันเลย แล้วก็จากกันไป จากนั้นคุณถึงไปคบอีกคนหนึ่งได้

เรื่องที่ครอบครัวเป็นห่วงคุณมากที่สุด : ส่วนใหญ่แม่จะบอกให้เก็บเงิน ใช้เงินประหยัดๆ แล้วก็ห้ามขับรถอีก เพราะเราเคยเจออุบัติเหตุครั้งใหญ่จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือ เรื่องแฟน แม่บอกว่าให้เลือกดีๆ เลือกคนที่เขาอยู่กับเราได้ทั้งยามสุขและยามทุกข์ เป็นเพื่อนคู่คิดที่ดี ช่วยเหลือและดูแลกันไป

3 แห่ง ที่อยากไป : เวนิส ซานโตรินี่ และ มัลดีฟส์ ทั้ง 3 แห่งเป็นที่ที่โรแมนติกมาก

กิจกรรมวันว่าง : เราทำงานตลอด 7 วัน แต่ก็แบ่งเวลาไปทำกิจกรรมอื่นได้ ตอนนี้ทุกเช้าของวันเสาร์และอาทิตย์ เราจะไปเรียนโยคะ เรียนมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว รู้สึกร่างกายเฟิร์มขึ้น แข็งแรงขึ้น หุ่นดีขึ้นนิดนึง (หัวเราะ)

ช่างภาพบอกว่าถ่ายรูปคุณยากมาก : หมายความว่าถ่ายรูปแต่ละรูปเหมือนไม่ใช่คนเดียวกัน หรือว่าถ่ายรูปให้ถูกใจเปียเชอร์...ยากมากใช่หรือเปล่า (หัวเราะ) เคยมีเพื่อนบอกเหมือนกัน ถ้าเอารูปมาวางเรียงต่อๆกัน ไม่มีใครรู้นะว่าเป็นคนเดียวกัน บางทีถ่ายวันเดียวกัน หน้าตายังออกมาไม่เหมือนกันเลย คงขึ้นอยู่กับมุมมากกว่า

เคล็ดลับในการก้าวขึ้นมาเป็นระดับเมเนเจอร์ตั้งแต่อายุยังน้อย : เปียเชอร์รับตำแหน่งบรรณาธิการบริหารและผู้จัดการฝ่ายการตลาด ตั้งแต่ตอนอายุยี่สิบกว่า ทุกอย่างมาจากความสามารถและโอกาส โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ต้องใช้ความสามารถแลกมาล้วนๆ แล้วก็เป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ค้นคว้าหาข้อมูล และคิดเสมอว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้

เพียงแต่คุณต้องพยายามและเรียนรู้กับมัน อย่าถอดใจอะไรง่ายๆ ลองคิดดูว่า โอกาสดี คอนเนคชั่นมี แต่ความสามารถไม่มี อันนี้ก็จบนะ ทุกวันนี้ถือว่ายังโชคดีที่สังคมเราเปิดโอกาสให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมารับตำแหน่งระดับสูง ขึ้นมาเป็นผู้บริหารองค์กรใหญ่ๆ เปียเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความสามารถ เพียงแต่ว่าจะเอามันออกมาใช้เมื่อไร และใช้ถูกทางหรือเปล่า

อยากให้ฝากแรงบันดาลใจหรือข้อคิดดีๆในการทำงานถึงผู้หญิงทุกคน : เวลาที่เราจะเริ่มทำงานหรือทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ให้เลือกทำสิ่งที่ชอบ อย่าเพิ่งคิดว่าเราน่าจะทำไม่ได้เพราะเราไม่รู้เรื่อง อยากจะบอกว่า ความเชี่ยวชาญในงานที่ทำยังไม่สำคัญเท่ากับทำสิ่งที่ชอบนะ ถ้าเราชอบแล้ว เราจะพยายามเรียนรู้และทำทุกอย่างเพื่อให้มันสำเร็จ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook