ซูมชัดๆ "Miss World 2018" ใน "ชุดไทยโบราณ" งดงามจนละสายตาไม่ได้
กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่ประเทศไทย สำหรับ "มิสเวิลด์ 2019" (Miss World 2019) เวทีการประกวดนางงามระดับนานาชาติ ครั้งที่ 69 ที่ในปีนี้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดอย่างแน่นอน!
งานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจะจัดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 ณ พระราชวังพญาไท เป็นอีกหนึ่งงานที่รวมตัวของสาวงามผู้เข้าประกวดเข้าสู่รอบลึก "Miss World 2018" ได้มารวมตัวกัน
>>"มิสเวิลด์ 2019" ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยกับการเป็นเจ้าภาพ ยิ่งใหญ่แน่นอน
นอกจากนั้น บรรดาสาวงาม นำทีมโดย "Vanessa Ponce de Leon" นางงามโลกคนล่าสุดจากประเทศ Mexico และ "นิโคลีน พิชาภา" รอง Miss World 2018 สาวงามจากประเทศไทย รวมทั้งสาวงามจากอีกกว่า 6 ทวีปยังได้ถ่ายภาพโปรโมทการประกวด "มิสเวิลด์ 2019" ที่จัดขึ้น ณ ประเทศไทยด้วย เป็นการถ่ายชุดไทยโบราณอันทรงคุณค่า สู่สายตาชาวโลก จากทีมงาน "ชุดไทยวิวาห์โบราณ โดย ภูษาผ้าลายอย่าง"
"ชุดไทยวิวาห์โบราณ โดย ภูษาผ้าลายอย่าง" ได้โพสต์ข้อมูล ที่มาของชุดไทยโบราณสุดงดงามผ่านทางเพจเฟสบุ๊ค ไว้
"ชุดไทยโบราณ ที่เผยแพร่ออกสู่สายตาคนทั้งโลกที่ทุกท่านได้เห็นนี้ เป็นการสร้างสรรค์ผลงานผ่านแรงบันดาลใจ จากการแต่งกายของสตรีชาวสยาม ที่วิจิตร งดงาม ประกอบด้วยองค์ความรู้ ที่มีการค้นคว้า จากแหล่งเรียนรู้ และอ้างอิงจาก ภาพจิตรกรรม หนังสือจดหมายเหตุ และภาพถ่ายทางประวัติศาตร์ ถ่ายทอดผ่านกระบวนการผลิต ที่สืบสานตามแบบโบราณ
อาทิ การปักผ้าสะพักแบบราชสำนักสยาม ด้วยดิ้นโลหะ, การเขียนผ้าเขียนลายทอง, การทำเครื่องประดับด้วยการสลักดุนโลหะ, การทำเครื่องประดับด้วยการกระแหนะรัก เป็นต้น ทั้งนี้งานชุดไทยโบราณ มิได้เกิดขึ้นและสามารถงดงามได้ภายในไม่กี่วัน แต่ต้องใช้เวลานานนับแรมปี ซึ่งทีมงานได้สืบสานงานเหล่านี้มาโดยตลอด จึงเกิดเป็นชุดที่งดงามขึ้น และนำมาใช้ในโอกาสนี้
การทำงานครั้งนี้ ทางทีมงานได้จัดชุดให้มีความหลากหลายตามแบบของการแต่งกายอย่างโบราณ เพื่อให้ทุกท่านได้เห็นถึงการแต่งกายของสตรีชั้นสูงในหลายยุคสมัย และการแต่งการที่แตกต่างกันไปตามวาระโอกาส อาทิ การแต่งกายที่ถอดแบบมาจากจิตกรรมไทย, การแต่งกายแบบนางละครในราชสำนัก เป็นต้น ซึ่งเป็นชุดไทยแต่งตามอย่างโบราณอย่างแท้จริง ไม่ได้เป็นเพียงชุดที่ปรับประยุกต์ขึ้นใหม่แบบที่สามารถหาชมกันได้ทั่วไป
แม้ว่ามูลค่าของชุดอันสง่างามนี้ มีมูลค่าสูงด้วยกระบวนการทำงาน และความยากกว่าจะเป็นชุดไทยโบราณอันงดงาม แต่ทางทีมงานได้ตั้งใจทำอย่างเต็มที่ เพื่อเผยแพร่ความงามแบบไทยแท้ให้คนทั้งโลกได้เห็นความงามอันเป็นเนื้อแท้ ของคำว่า ชุดไทยโบราณ"
คุณ Vanessa แต่งกายด้วยชุด "เทวะสุรางค์" ถนิมพิมพาภรณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก เทวีในจิตรกรรมไทย กล่าวคือนุ่งผ้าเขียนลายทองลายหิมพานต์ด้วยทองคำแท้ อย่างผ้าราชสำนักสยามสมัยโบราณ ที่ใช้เป็นผ้าทรงของเจ้านายชั้นสูง
ใช้เวลารังสรรค์ผ้าผืนนี้นาน กว่า 11 เดือน ด้วยความมุ่งมานะอย่างเต็มที่ ห่มสไบเฉวียงบ่าด้วยผ้าแพรสีทองอ่อน และทับด้วยผ้าสะพักหนักกว่า 7 กิโลกรัม ผ้าสะพักผืนนี้ ใช้เวลารังสรรค์นาน 11 เดือน พื้นทำด้วยผ้าตาดทองยกลายพิกุลราชวัตร ปักด้วยดิ้นข้อดิ้นโปร่ง แล่งและเลื่อมโลหะหลากหลายรูปแบบ ทำเป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง ซึ่งเป็นกระบวนลายชั้นสูง นิยมใช้กันในราชสำนักอย่างแพร่หลายในสมัยโบราณ ชายผ้าทั้งสองด้านตกแต่งด้วยชายครุยจากฝรั่งเศส มีส่วนผสมของโลหะเงินและทองคำ และสวมกรองคอปักประดับด้วยโลหะเงินชุบทองคำแท้ประดับอัญมณีสีต่างๆ บนพื้นผ้ายกทองจากอินเดียใช้เวลารังสรรค์ชิ้นนี้นาน 6 เดือน ทำเป็นลายลูกฟักก้ามปู ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนลายชั้นสูงสมัยอยุธยา ประดับด้วยทับทรวงฝังมรกต ชิ้นงานเป็นการสลักดุนลงยาราชาวดี ด้วยมือทั้งชิ้น การสลักดุนโลหะนี้ ถือเป็นงานหัตถศิลป์สูงค่ายิ่งและมีผู้สืบทอดลมหายใจงานแขนงนี้น้อยเต็มที ชิ้นนี้ทำเป็นลายกระจังใบเทศซึ่งนิยมมากในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น แล้วทับเฉวียงบ่าด้วยสร้อยตัว หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่าสังวาลย์ หนัก 1 กิโลกว่า ทั้งหมดสามเส้น สลักดุนทำเป็นลายกุดั่นดอกจอกและลายกุดั่นสี่กลีบประดับข้อมือด้วยกำไลที่มีหลากหลายชิ้นตามอย่างโบราณ มีลูกไม้ปลายมือ ปะวะหล่ำ แหวนตั้ง แหวนตะแคง กำไล และกำไลแผง ล้วนแต่เป็นงานโลหะที่ทำได้ยากยิ่ง สวมศิราภรณ์ที่เรียกว่าสนองเกล้าหรือเกี้ยวยอด เป็นศิราภรณ์ที่พบมากในจิตรกรรมไทยสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ประกอบด้วย ตัวสนองเกล้า กรอบพักตร์ และกรรเจียกจร เป็นงานกระแหนะรักลงยาสี อย่างโบราณ
คุณ นิโคลีน มาในชุด "สตรีศรีอยุธยา" ที่ได้รับแรงบันดาลจากการแต่งกายสตรีสูงศักดิ์สมัยอยุธยา โดยอ้างอิงหลักฐานจากจิตรกรรมไทยลายรดน้ำ และรูปถ่ายละครใน สมัยโบราณ กล่าวคือ นุ่งผ้าลายเทียมยกทองลายประจำยามราชวัตร เป็นหนึ่งในแม่ลายที่แพร่หลายในสมัยอยุธยา คาดเข็มขัดและปั้นเหน่งลงยาทรงใบเทศแปลง ประดับอัญมณีต่างๆ ทับด้วยสไบสีเหลืองจำปา ทับด้วยสะพักปักทองลายดอกไม้ทิพย์ ซึ่งใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 6 เดือน ปักเป็นลายดอกไม้ ชื่อปาริชาติ อันสถิตอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีกลิ่นหอมไกล 100 โยช มีคุณให้ระลึกชาติได้ ปักด้วยดิ้นข้อ ดิ้นโปร่ง เลื่อม ไหมทอง และแล่งนมสาวตามอย่างโบราณ ประดับด้วยกรองคอลายก้านต่อดอกประดับอัญมณี ใช้เวลารังสรรค์งานชิ้นนี้นานกว่าสองเดือน ปักด้วยวัสดุมีค่าหาได้ยากยิ่งในสมัยปัจจุบัน สวมทับทรวงลายใบเทศแปลงลงยาประดับอัญมณี เทคนิคสลักดุนอย่างโบราณ สวมลูกไม้ปลายมือ ปะวะหล่ำ แหวนตะแคง กำไลดัดลวดทองคำอย่างอยุธยา สวมศิราภรณ์ ที่เรียกว่ารัดเกล้าเปลว ประกอบด้วย รัดเกล้าเปลว กรรเจียกจร และท้ายช้อง ทำจากการกระแหนะรักปิดทองอย่างโบราณซึ่งนับวันหาคนสืบต่อลมหายใจงานแขนงนี้ได้ยากยิ่งนัก
คุณ Maria มาในชุด "ศรีรามเทพนคร" โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแต่งกายของสตรีสมัยอยุธยา กล่าวคือ นุ่งผ้าเขียนลายทอง ด้วยทองคำแท้ ลายปทุมเกสรสีขาวหม่น ใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 1 ปี พันสไบสีเขียวโศกและทับสะพัก หนักกว่า 4 กิโลกรัม ทำจากผ้าตาดทองปักด้วยดิ้นข้อดิ้นโปร่ง แล่งและเลื่อมทอง ใช้เวลารังสรรค์นานกว่า 6 เดือน คาดด้วยสายเข็มขัดปั้นเหน่ง และศิราภรณ์อันเรียกว่า กระบังหน้า หรือกรอบพักตร์ รวมถึงถนิมพิมพาภรณ์ เช่น พาหุรัด ทองกรหรือกำไล ทับทรวง และกรองคอ อันได้แรงบันดาลใจจาก เครื่องประดับสมัยอยุธยาที่ถูดขุดค้นพบที่กรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ด้วยเอกลักษณ์การดัดลวดทองคำและการประดับอัญมณีที่ดูแปลกตา และหาได้ยากยิ่ง ที่จะหาช่างฝีมือดีที่จะคอยสืบสานงานแขนงนี้ให้คงอยู่สืบไป ชุดนี้เพิ่มเติมดัดแปลงด้วยการสวมมาลัยชายครุยที่ทำจากดอกรักและดอกจำปา นำมาทำเป็นสังวาลย์ ได้อย่างงดงามและน่าภาคภูมิใจ
คุณ Solaris มาในชุด "ขัติยานารี" โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการแต่งกายสมัยอยุธยา กล่าวคือนุ่งผ้าลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง ซึ่งเป็นลายชั้นสูงในสมัยอยุธยา พันสไบด้วยผ้าแพรสีกลีบบัว ทับด้วยสะพัก ลายดอกไม้ร่วงด้วยผ้าไหมแท้ ปักด้วยไหมจีนและปีกแมลงทับอย่างวิจิตรงดงาม สวมศิราภรณ์อันเรียกว่า สุวรรณมาลา ประดับกรอบพักตร์ และถนิมพิมพาภรณ์ อันได้แก่ กรองคอทองน้อยลายใบเทศแปลง ฝังทับทิมและมรกต ทับด้วยทับทรวงลายใบเทศด้วยเทศนิคการดัดลวดโลหะอย่างอยุธยา สร้อยตัวลายกุดั่นสี่กลีบ พาหุรัด กำไล ต่างหู และปิ่นทองคำลงยาราชาวดี
คุณ Jessica มาในชุด ”เทวสตรีศรีสุวรรณภูมิ” ได้แรงบันดาลใจการแต่งกายมาจากเทวรูปสมัยสุโขทัยตอนปลายและอยุธยาตอนต้น และการแต่งกายของสตรีสูงศักดิ์ในสมัยราชวงศ์อู่ทอง และราชวงศ์สุพรรณภูมิ กล่าวคือ นุ่งผ้าเขียนลายทองคำแท้ ลายสร้อยบุษบาบรรณ์ โครงสร้างลายเป็นลายประจำยาม มีราชวัตรประดับโดยรอบ ผ้าผืนนี้มีมูลค่ามากกว่า 500,000 บาท ใช้เวลารังสรรค์นาน กว่า 1 ปี คาดด้วยสายกระหวัดและปั้นเหน่งประดับมรกตหลังเบี้ย พันเคียนอกด้วยผ้าไหมแท้สีแดงเสน สวมเครื่องประดับหลายชิ้น คือ มหาสังวาลย์ซ้ายขวา ทับทรวงใหญ่และทับทรวงน้อย สวมกรองคอเขียนลายก้านขดซึ่งเป็นกระบวนลายสมัยสุโขทัยและอยุธยาตอนต้น สวมพาหุรัด และกำไลอย่างเทวรูปสมัยโบราณ สวมศิราภรณ์ ทรงสุโขทัย มีใบเสมาสี่ทิศ ทำเป็นลายก้านขดเครือเถาประดับทับทิม ใช้เวลารังสรรค์ 8 เดือน ประดับกุลฑลหรือต่างหูทางเม็ดมะยม
คุณ Linzi มาในชุด "รัตนนารี" ได้แรงบันดาลใจจากการแต่งกายจากสมุดข่อยสมัยอยุธยา กล่าวคือ นุ่งผ้าลายเทียมยกทอง ลายประจำยามราชวัตร สีทองงาช้าง พันเคียนอกด้วยผ้าไหมสีเหลืองจำปา สวมเครื่องประดับ อันมี กรองคอ มหาสังวาลย์ ทับทรวง ปั้นเหน่ง พาหุรัด กำไล ต่างหู เกี้ยวรัดผม ผมทรงนี้เรียกว่า โองโขดง หรือโซงโขดง แปลว่าเกล้าสองพับ เป็นทรงผมที่นิยมมากในสมัยสุโขทัยและอยุธยาตอนต้น
คุณ Quiin มาในชุด "บรรพนารีศรีสยาม" ได้แรงบันดาลใจการแต่งกายมาจากภาพจิตรกรรมสมุดข่อยสมัยอยุธยา กล่าวคือ นุ่งผ้าลายเทียมยกทองลาย ประจำยามราชวัตร สีทองอ่อน พันสไบผ้ายกไหมลายดารากรราชวัตร สวมเครื่องประดับสลักดุน อย่างวิจิตรงดงาม
คุณ Kadijah มาในชุด "กรุงเทพทวารดีศรีอยุธยา" ได้รับแรงบันดาลใจมาจากจิตรกรรมไทยสมัยอยุธยา รัตนโกสินทร์ และรูปหล่อโลหะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กล่าวคือ นุ่งผ้าลายเทียมยกทองลายกุดั่นพิกุลแก้ว พันสไบสีทองอ่อน ทับด้วยสะพักผ้าลายเทียมยกสีงาช้าง ลายกุดั่นพิกุลแก้ว สังเวียนเป็นลายเทพนม สวมศิราภรณ์ที่เรียกว่า กระบังหน้า สลักดุนประดับทับทิมลายเกลียวใบเทศ และเครื่องประดับสลักดุน อย่างวิจิตรงดงาม
นอกจาก "ชุดไทยโบราณ" ที่ถูกถ่ายทอดสู่สายตาชาวโลกแล้ว การแต่งหน้าและทำผม ที่ดูอ่อนหวานแบบไทยๆ ถูกเสกความสวยโดย "น้องฉัตร และทีมงาน" เหล่าสาวงามระดับโลกจะงดงงามแค่ไหน ตามมาซูมกันชัดๆ
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ