ก่อนเข้าประตูวิวาห์ เช็คให้มั่นใจก่อนว่า "คุณพร้อมแต่งงานจริงๆ หรือยัง?"

ก่อนเข้าประตูวิวาห์ เช็คให้มั่นใจก่อนว่า "คุณพร้อมแต่งงานจริงๆ หรือยัง?"

ก่อนเข้าประตูวิวาห์ เช็คให้มั่นใจก่อนว่า "คุณพร้อมแต่งงานจริงๆ หรือยัง?"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ว่าคุณทั้งสองคนจะคบหามานานขนาดไหน การจะตัดสินใจแต่งงานก็ยังคงมีอีกหลายเรื่องที่ต้องนำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณา ไม่ใช่แค่ระยะเวลาเพียงอย่างเดียว เพราะชีวิตคู่นั้นแตกต่างจากการเป็นแฟนกันอย่างแน่นอน ต้องมีการปรับตัวเข้าหากันอีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต การใช้เงิน และเรื่องของครอบครัวทั้งสองฝ่ายด้วย การจะตัดสินใจเอาใครเข้ามาชีวิต จึงจำเป็นต้องคิดพิจารณาให้รอบคอบหลายมุม ก่อนจะตัดสินใจยกระดับความสัมพันธ์ ดังนั้น ก่อนแต่งงานสาวๆ ลองถามใจตัวคุณเองสิว่าพร้อมมากขนาดไหนแล้ว

แยกให้ออกระหว่างคำว่า "แฟน" กับ "สามี-ภรรยา"
แม้ความสัมพันธ์ทั้งสองรูปแบบจะเริ่มต้นจากความรักเหมือนกัน แต่ความสัมพันธ์และความรับผิดชอบแตกต่างกันมากทีเดียว ในช่วงที่เป็นแฟนกัน ต่างคนจะยังคงมีชีวิตที่เป็นส่วนตัว รับผิดชอบเวลา การเงิน และครอบครัวด้วยตัวเอง แต่หากตัดสินใจแต่งงานเป็นคู่ผัวตัวเมียกันแล้ว เวลาของคุณก็คือเวลาของครอบครัว เงินทองที่หามาได้ก็จะกลายเป็นเงินในบ้าน ครอบครัวเค้าก็จะกลายเป็นครอบครัวของเราด้วย แม้จะโกรธกันขนาดไหนก็ยังต้องนอนมองหน้ากันอยู่ดี พูดง่ายๆ ก็คือชีวิตของเราไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว มีปัญหาขึ้นมาแล้วจะหันหลังทิ้งกันหรือปล่อยให้อีกฝ่ายแก้ไขปัญหาเองย่อมไม่ได้อย่างแน่นอน


หลังแต่งงาน ความรับผิดชอบก็มากขึ้นด้วย
การเป็นแฟนต่างคนก็ต่างอยู่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบตัวเองไป แต่เมื่อแต่งงานมาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ จะกลายเป็นภาระที่นำมาคิดคำนวณรวมแล้วรับผิดชอบด้วยกัน หากตัดสินใจมีลูก ก็จะต้องมีเงินเก็บและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูขึ้นมาอีก การตัดสินใจเลือกใครก็ควรเลือกจากความสามารถของเค้า ว่าจะมารับผิดชอบร่วมกับคุณตรงนี้ได้หรือเปล่า ใช้หัวใจเลือกอย่างเดียวไม่ได้นั่นเอง


การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคน 2 คน แต่คือเรื่องของ 2 ครอบครัว
ไม่ว่าชีวิตในปัจจุบันจะก้าวหน้าและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นขนาดไหน แต่สำหรับสังคมไทยแล้ว การแต่งงานก็คือการรวมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ครอบครัว ไม่ใช่แค่คุณและเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันเท่านั้น หลังจากแต่งงานไปแล้ว ทั้งสองฝ่ายต่างก็จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบและดูแลพ่อแม่ของอีกฝ่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่กำลังเจ็บป่วย หรือช่วงเทศกาลต่างๆ ก็จำเป็นต้องเดินทางไปมาหาสู่กัน หากก่อนแต่งงานคุณยังรู้สึกว่าเข้ากับครอบครัวเขาไม่ได้ หรืออีกฝ่ายเข้ากับครอบครัวคุณได้ไม่ดีนัก บางทีคุณอาจต้องคิดให้หนักๆ หน่อยแล้วล่ะ


คุยให้เคลียร์กันก่อนว่าอยากมีลูกหรือเปล่า
ก่อนแต่งงานกันจริงๆ คุณควรคุยกันให้ชัดเจนไปก่อนว่าคุณทั้งคู่อยากมีลูกหรือไม่ หากคุณอยากมี แต่อีกฝ่ายไม่อยาก คุณก็คงไม่มีโอกาสตลอดชีวิต แต่หากคุณไม่อยากเลี้ยงดูใคร แต่อีกฝ่ายอยากมีลูกมากๆ แล้วพอมาอยู่ด้วยกัน คุณไม่มีให้เขาสักที ตรงนี้อาจเป็นเหตุผลให้เค้าไปมีลูกกับคนอื่นได้ จึงต้องคิดให้เยอะและคุยให้เคลียร์ก่อนตัดสินใจแต่งงานกันไป

การแต่งงานเหมือนจะนำมาซึ่งความสุข อะไรๆ ก็ดูเหมือนพร้อมและดูสวยงามไปหมด ขอเพียงรักกัน นอกนั้นก็ไม่ต้องแคร์อะไรแล้ว แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เลย เพราะการแต่งงานเหมือนการเป็นแฟน เมื่อคุณตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน ภาระต่างๆ ก็เยอะขึ้น ดังนั้น จึงควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนเป็นดีที่สุด จะได้ไม่ผิดหวังหรือต้องจบลงโดยการหย่าร้างอย่างที่ไม่ควรจะเป็น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook