เป็นหนี้...ดีหรือเสีย

เป็นหนี้...ดีหรือเสีย

เป็นหนี้...ดีหรือเสีย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ หลายคนอาจรู้สึกเห็นใจหรือรู้สึกขัดใจกับการออกพระราชกำหนดกู้เงิน 4 ฉบับ ในวงเงินกว่า 350,000 ล้านบาท

แน่นอนว่า เมื่อไรก็ตามที่เราพูดถึงการกู้หนี้ยืมสิน บางครั้งอาจฟังดูแสลงหูสำหรับบางคน แต่สำหรับคนอีกหลายๆคนอาจรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติเพราะคุ้นเคยกับการกู้ยืมแม้กระทั่งเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

หลายครั้งที่หลายคนมักถามผมว่า เขาควรจะกู้เงินเพื่อไปใช้ในกิจกรรมนั้นกิจกรรมนี้ สำหรับวัตถุประสงค์นั้นวัตถุประสงค์นี้หรือไม่ แต่ทุกครั้งผมก็จะไม่เคยให้คำตอบกับผู้ถาบปรุง เพิ่ม หรือยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของเขาหรือไม่ ม ยิ่งไปกว่านั้นแล้วผมมักจะบอกเขากลับไปว่า ตัวของเขาเองต่างหากที่จะเป็นคนเดียวที่บอกได้ว่า สมควรหรือไม่ที่จะเป็นหนี้ เพราะคนแต่ละคนจะต้องเป็นคนให้คำตอบตัวเองว่า การก่อหนี้เพื่อไปดำเนินกิจกรรมดังกล่าวนั้น เป็นการแก้ไข ปรับปรุง เพิ่ม หรือยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของเขาหรือไม่

หนี้ที่ผู้ขอกู้ควรเป็นผู้ประทับตรา "อนุมัติ" หรือที่ผมเรียกว่าเป็นหนี้ดี คือหนี้ที่เพิ่มมาตรฐานการดำรงชีวิต ทำให้ชีวิตในปัจจุบันและอนาคตเป็นไปในทางที่เจริญรุ่งเรืองขึ้น ในทางตรงกันข้ามหนี้ที่ผู้ขอกู้ควรเป็นผู้ประทับตรา "ปฏิเสธ" หรือที่ผมขอเรียกสั้นๆว่าเป็นหนี้เสีย คือหนี้ที่กู้ยืมมาแล้ว ไม่ได้เพิ่มมาตรฐานการดำรงชีวิต หากแต่ยังส่งผลทำให้ชีวิตของผู้ก่อหนี้เสื่อมลงไปในอนาคต

หนี้เงินกู้หรือสินเชื่อใน 4 ทางเลือกต่อไปนี้ อาจเป็นตัวอย่างของหนี้ที่ดี ที่จะส่งผลต่อมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต

1. เงินกู้รักษาพยาบาล หลายคนคงเคยได้ยินพุทธภาษิตที่ว่า "พึงสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะ" เนื่องจากการมีอวัยวะที่สมบูรณ์ครบถ้วน ย่อมทำให้เราสามารถหาทรัพย์เพิ่มเติมได้ในภายหลัง ดังนั้นหากมีความจำเป็นเราอาจต้องยอมเสียสละทรัพย์ เพื่อรักษาอวัยวะไว้

ฉันใดก็ฉันนั้น ถ้าหากคุณมีความจำเป็นต้องก่อหนี้ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล หนี้ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นหนี้ที่ดีหรือเป็นหนี้ที่จำเป็น เพราะถ้าหากคุณมีสุขภาพร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรง ก็ย่อมไม่สามารถประกอบสัมมาชีพเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ แต่หากคุณกู้ยืมเงินมา เพื่อทำให้ร่างกายหายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ย่อมจะทำให้คุณสามารถทำงานสร้างรายได้ อันจะช่วยทำให้คุณภาพชีวิตในปัจจุบันและอนาคตดีขึ้นในที่สุด

อย่างไรก็ตาม จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าคุณสามารถหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการกู้ยืม เพื่อนำมาจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล ดังนั้นถึงแม้ว่าในปัจจุบันคุณจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ก็ไม่ควรละเลยการวางแผนทำประกันชีวิตและซื้อกรมธรรม์ประกันสุขภาพแนบท้ายสัญญาไว้ด้วยนะครับ

 

2. เงินกู้ที่อยู่อาศัย บ้านคือหนึ่งในปัจจัย 4 ที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกคน การมีบ้านที่มั่นคงย่อมส่งผลทำให้บุคคลได้รับความปลอดภัยในการดำรงชีวิต การกู้ยืมเงินมาซื้อที่อยู่อาศัยจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเป็นหนี้ที่ดีที่จะส่งผลให้คุณภาพการดำรงชีวิตของเราดีขึ้น นอกจากนั้นราคาที่อยู่อาศัยก็ยังอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าเราจะมีความมั่งคั่งเพิ่มมากขึ้น จากการเพิ่มสูงขึ้นของราคาบ้านที่เป็นทรัพย์สินของเรา

อย่างไรก็ตาม การกู้ยืมเงินมาซื้อบ้านอาจเป็นหนทางแห่งความเสื่อม ถ้าหากคุณไม่คำนึงถึงความเหมาะสมกับฐานะ และความสามารถในการผ่อนชำระคืน นักวางแผนการเงินมักให้คำแนะนำว่า จะเป็นการดีอย่างยิ่ง หากเงินที่คุณจะต้องผ่อนชำระค่าบ้าน เมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องผ่อนหนี้สินอื่นๆแล้ว ไม่เกิน 35% ของเงินเดือน

นอกจากนั้น การมีบ้านหลังใหญ่ราคาแพง ก็อาจไม่มีความหมาย ถ้าหากบ้านเป็นเพียงสถานที่ที่สมาชิกทุกคนใช้เป็นเที่หลับนอนเท่านั้น เพราะต่างคนต้องขวนขวายทำงานหาเงินมาชำระหนี้ จนหลงลืมที่จะทำกิจกรรมเพื่อสร้างสานใยสัมพันธ์แห่งความอบอุ่นในครอบครัวร่วมกัน บางครั้งบ้านหลังเล็กราคาถูกอาจสร้างความสุขให้กับทุกคนในครอบครัวได้มากกว่าบ้านหลังใหญ่ราคาแพง อย่าลืมว่าระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตควรวัดจากความสุขไม่ใช่จากราคาหรือตัวเงิน

 

3. เงินกู้เพื่อการศึกษา หลายคนมักมองข้ามไปว่าจริงๆแล้วการศึกษาก็เป็นการลงทุนเช่นกัน ดังนั้นก่อนที่จะทำการกู้ยืมเงินเพื่อศึกษาต่อในระดับใดก็แล้วแต่ คุณก็ควรจะพิจารณาถึงผลตอบแทนและความเสี่ยงจากการศึกษาด้วยเช่นกัน

ก่อนที่คุณจะกู้ยืมเงินมาใช้สำหรับเป็นทุนการศึกษาของตนเองหรือบุตร จึงควรจะพิจารณาให้ถี่ถ้วนว่าการศึกษาต่อในด้านนั้นๆยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานหรือไม่ เมื่อจบการศึกษาแล้ว จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการถูกจ้างงานมากน้อยเท่าไร นอกจากนั้นแล้วก็ยังต้องพิจารณาถึงความเสี่ยงในการศึกษาต่อว่าตนเองหรือบุตรมีความถนัดและความชอบศึกษาต่อในสาขานั้นๆหรือไม่ เพราะถ้าหากพิจารณาเพียงแค่ผลตอบแทนจากค่าจ้างที่อยู่ในระดับสูง แต่ลืมไปว่าตนเองหรือบุตรไม่มีความถนัด ไม่มีความชอบ ก็มีความเสี่ยงที่อาจจะศึกษาต่อไม่สำเร็จเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณมั่นใจว่าการศึกษาต่อในสาขาดังกล่าว เป็นการต่อยอดความชอบและความถนัด รวมทั้งอยู่ในความต้องการของตลาดแรงงาน ก็เชื่อมั่นได้เลยว่าเงิ นกู้เพื่อการศึกษาครั้งนี้ จะต้องสามารถยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของคุณในอนาคตได้อย่างแน่นอน ในกรณีเช่นนี้ก็อย่ารอช้า ประทับตรา "อนุมัติ" การกู้ยืมได้ทันที

 

4. เงินกู้เพื่อลงทุน หลายคนมักสงสัยว่าเราควรจะกู้ยืมเงินมาลงทุนดำเนินธุรกิจต่างๆ หรือควรจะกู้ยืมเงินมาลงทุนหลักทรัพย์ต่างๆหรือไม่ หรือแม้กระทั่งบางคนมักถามไถ่กันมาว่าควรนำรายได้ไปชำระหนี้ก่อนหรือควรนำไปลงทุนเพื่อต่อยอดก่อนกันแน่

คำตอบอยู่ที่ว่า การลงทุนดังกล่าวสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้หรือไม่ ถ้าหากอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยจากการกู้ยืมมาลงทุน หนี้ดังกล่าวก็สมควรที่จะก่อขึ้นมาเพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับคุณในอนาคต

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าลืมตั้งคำถามและเติมคำตอบให้กับตัวเองทุกครั้งที่คุณกำลังจะก่อหนี้ใหม่ ว่าคุณกำลังก่อหนี้ที่ทำให้ชีวิตเป็นไปในทางที่เจริญขึ้นหรือเสื่อมถอยลงไปในอนาคต
เพียงแค่นี้คุณก็มั่นใจได้แล้วว่าหนี้ที่คุณก่อขึ้นนั้นจะไม่มีวันกลายเป็นหนี้เสียอย่างแน่นอน

 


องฺคํ ธนํ ชีวิตญจฺาปิ สพฺพํ จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต
พึงสละอวัยวะ ทรัพย์ และ แม้ชีวิต เพื่อรักษาความถูกต้อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook