3 หญิงแกร่งแห่งสังเวียนเลือกตั้ง 2562
การเลือกตั้งในปี 2562 นี้ เป็นที่จับตาของประชาชนทุกฝ่ายเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งที่สำคัญอย่างยิ่งของประเทศไทย หลังจากการรัฐประหารและไม่ได้มีการจัดการเลือกตั้งมามากกว่า 5 ปีแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้เองที่สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้กับการเมืองไทยในหลายๆด้าน ผลการเลือกตั้งที่ได้นั้นยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางอีกด้วย
เรามาเบรคความร้อนระอุของการเมืองด้วยการมาทำความรู้จักกับผู้ลงสมัคร ส.ส. หรือ สมาชิกวุฒิสภา ที่นอกจากจะสวยสมวัยกันแล้ว แต่ละคนยังเป็นหญิงเก่ง มีความสามารถ ประวัติการทำงานของแต่ละคนเรียกได้ว่าไม่ธรรมดา จนสามารถทำให้มายืนอยู่ในจุดนี้ได้กันค่ะ
ช่อ พรรณิการ์ วานิช
เรียกได้ว่าเป็นน้องใหม่สำหรับวงการการเมืองจริงๆ สำหรับผู้หญิงวัย 30 คนนี้ ที่ผันตัวจากวงการสื่อมาลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัว ด้วยวิธีการดีเบตทีเตรียมพร้อมมาอย่างดีและลีลาการพูดที่ฉะฉาน ทำให้หลายคนเห็นถึงความสามารถของเธอ และเป็นม้ามืดในการเลือกตั้งครั้งนี้ คุณช่อได้ลงสมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในนามของพรรคอนาคตใหม่
หลังเรียนจบปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอก็ทำงานในสายสื่อสารมวลชนมาโดยตลอด ที่ผ่านมาเธอเคยทำงานที่ สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี บรรณาธิการฝ่ายต่างประเทศ ตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออก, และเป็นพิธีกรรายการสารคดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทยและประเทศอาเซียน iASEAN, พิธีกรรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและเศรษฐกิจ Tonight Thailand, พิธีกรรายการวาไรตี้ ที่มีทั้งเรื่องการเมือง สิทธิมนุษยชน แฟชั่น วัฒนธรรม ท่องเที่ยว จากมุมมมองของผู้หญิง Divas Café, พิธีกรรายการข่าวต่างประเทศ Voice World Wide, และเคยฝึกงานที่กรมเอเชียใต้, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา สังกัดกระทรวงต่างประเทศ เธอได้นำความสามารถด้านการสื่อสารมวลชนของเธอมาแสดงถึงประสิทธิภาพของตัวเอง ทำให้เธอได้รับตำแหน่งโฆษกของพรรคอนาคตใหม่ และยังได้ตำแหน่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีกด้วย
มาดามเดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี
เป็นขวัญใจชายไทยหลายๆ คนสำหรับเธอคนนี้ เพราะก่อนที่จะมาลงสนามการเมืองอย่างเต็มตัวนั้น เธอเป็นถึงผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติ และด้วยวัย 30 ต้นๆ กับรูปร่างหน้าตาที่สวยจนหลายคนต้องหันมามอง ทำให้มาดามเดียร์ มีชื่อเสียงในวงกว้างถึงความสวยและความสามารถของเธอ และมาดามเดียร์ยังได้ลง สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อในนามของ พรรคพลังประชารัฐอีกด้วย
เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษและวรรณคดีภาษาอังกฤษ และยังเคยเป็นเชียร์ลีดเดอร์ งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ รุ่น 61 ในช่วงเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา นอกจากบทบาทของ ผู้บริหารช่องสถานีสปริงนิวส์แล้ว เธอยังมีอีกบทบาทที่มีความสำคัญและสร้างชื่อเสียงดังกระหึ่ม นั่นคือการเข้ามารับงานเป็นผู้จัดการฟุตบอลชายทีมชาติไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี โดยเมื่อปี 2017 เธอได้พาทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองในศึกลูกหนัง กีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย ซึ่งบทบาทนี้แหล่ะ ทำให้เธอขึ้นแท่นเป็นหญิงแกร่งที่มากไปด้วยความสามารถ และถูกสื่อในวงการกีฬายกให้เป็น "มาดามเดียร์" ขวัญใจแฟนๆ กีฬาชาวไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
หลายคนคงรู้จักผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างดี จากบทบาททางการเมืองที่ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่เธอยังสาวๆ เธอยังได้ลงเป็นแคนดิเดตนายกของพรรค เพื่อไทย ในการเลือกตั้งครั้งนี้อีกด้วย
เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการตลาด จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และระดับปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ สำเร็จการศึกษาปริญญาเอก พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา จาก คณะบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คุณหญิงสุดารัตน์ เริ่มเข้าสู่แวดวงการเมืองครั้งแรกในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2535 ได้เป็น ส.ส. ในเขตกรุงเทพมหานคร ในเขต 12 ของพรรคพลังธรรม แต่หลังจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้วางมือทางการเมืองแล้ว พรรคพลังธรรมก็ได้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค มาจนถึง ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2539 พรรคพลังธรรมมี ส.ส. เหลือเพียงคนเดียว คือ คุณหญิงสุดารัตน์นี่เอง และในปี พ.ศ. 2541 เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ได้ออกมาก่อตั้งพรรคไทยรักไทย คุณหญิงสุดารัตน์ก็เป็นหนึ่งใน 23 บุคคลที่ร่วมก่อตั้งพรรคด้วย และก็ได้ร่วมงานกับทางพรรคมาจนถึงปัจจุบัน เส้นทางการเมืองที่แสนยาวนาน ทำให้คุณหญิงต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ มามากมาย แต่ตัวเธอเองนั้นก็สามารถจัดการมันลงได้ จนได้มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้