4 เหตุผลจากคุณหมอที่แนะนำให้ลูกเล็กอยู่ไกลหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้มากที่สุด

4 เหตุผลจากคุณหมอที่แนะนำให้ลูกเล็กอยู่ไกลหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้มากที่สุด

4 เหตุผลจากคุณหมอที่แนะนำให้ลูกเล็กอยู่ไกลหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้มากที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหาลูกติดมือถือขึ้นมาจะส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา Happy Mom.Life เข้าใจนะคะที่คุณพ่อคุณอันที่จริงคุณหมอแนะนำว่า เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ควรอยู่ให้ไกลจากโทรศัพท์มือถือให้มากที่สุด และในเด็กที่โตขึ้น ควรจำกัดเวลาการเล่นโทรศัพท์มือถือในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง โดยมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากเด็กๆ ถูกปล่อยปละละเลย ให้เติบโตขึ้นมากับโทรศัพท์มือถือจนเกิดอาการเป็นเด็กติดจอ พวกเขาอาจต้องเผชิญปัญหาด้านพัฒนาการดังนี้...

 
1. พัฒนากล้ามเนื้อมือลูกอาจบกพร่อง

เด็กเล็กๆ ควรได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนากากรด้านกล้ามเนื้อมือที่ดี เนื่องจากเป็นวัยที่กล้ามเนื้อมัดเล็กกำลังถูกพัฒนา ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสนับสนุนเด็กๆ ได้ด้วยการให้เขาได้จับดินสอ ปั้นดิน ขีดเขียน หากปล่อยให้เด็กกดแต่โทรศัพท์มือถือ เด็กก็อาจมีพัฒนาการกล้ามเนื้อมือบกพร่องได้ค่ะ

>> 4 ข้อควรรู้เกี่ยวกับ “กล้ามเนื้อมัดเล็ก” ของลูกวัยอนุบาล หากพัฒนาไม่ถูกทางอาจพังไปตลอดชีวิต!


2. ลูกเสี่ยงมีอาการออทิสติกเทียม

อาการออทิตสติกนั้นส่งผลต่อการเข้าสังคมและพัฒนาการของเด็กๆ ซึ่งโดยส่วนมาก เด็กที่มีอาการออทิสติกนั้นจะเป็นมาตั้งแต่กำเนิด แต่ก็มีเด็กบางกลุ่มซึ่งมีอาการของออทิสติกเทียม ซึ่งเกิดจากการถูกปล่อยให้อยู่กับการสื่อสารทางเดียวอย่างโทรศัพท์มือถือหรือโทรทัศน์มากเกินไปนั่นเอง

ลูกติดมือถือมาก ระวังเป็น “ออทิสติกเทียม” เช็คว่าลูกมีปัญหาพัฒนาการเด็กแบบนี้หรือไม่ ก่อนจะสายเกินแก้

 ลูกเสี่ยงมีอาการออทิสติกเทียม

 
3. ทักษะทางภาษาของลูกแย่ลง

เด็กที่ถูกเลี้ยงให้โตมากับจอโทรศัพท์มักมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร เนื่องจากโทรศัพท์มือถือมักเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว ทำให้เด็กไม่ได้ฝึกฝนทักษะด้านภาษาและการเข้าสังคมมากเท่าที่ควร การปล่อยให้ลูกเล่นมือถือมากๆ จึงอาจทำให้ลูกมีปัญหาเรื่องการใช้ภาษาและทักษะการสื่อสารที่ดี


4. ลูกกลายเป็นเด็กขี้โมโห อารมณ์ร้อน

กรมสุขภาพจิตพบว่า เด็กที่ติดโทรศัพท์มือถือมากๆ มีความเสี่ยงต่อการเป็น “ไฮเปอร์เทียม” มากขึ้น นั่นคือเด็กเหล่านี้จะมีอาการอารมณ์ร้อน ไม่มีสมาธิ รอคอยไม่เป็น เนื่องจากความเร็วของภาพในโทรศัพท์ซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อสมองให้ทำงานไม่ปกติ ทำให้เด็กไม่สามารถควบคุมสมาธิได้ และมีปัญหาการอยู่ร่วมกับผู้อื่น

 ลูกกลายเป็นเด็กขี้โมโห อารมณ์ร้อน

เพื่อป้องกันปัญหาไม่ให้ลูกเติบโตมามีพัฒนาการที่บกพร่อง Happy Mom.Life จึงขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ในการดูแลเด็กๆ ให้ห่างไกลจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือก่อนถึงวัยที่เหมาะสมนะคะ มันอาจจะยากลำบากอยู่บ้าง แต่เราเชื่อว่า คุณพ่อคุณแม่ทำได้แน่นอนค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook