ผื่นแดงบนใบหน้า ไม่ร้ายแรง แต่อาจทำให้เสียความมั่นใจ

ผื่นแดงบนใบหน้า ไม่ร้ายแรง แต่อาจทำให้เสียความมั่นใจ

ผื่นแดงบนใบหน้า ไม่ร้ายแรง แต่อาจทำให้เสียความมั่นใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมัยนี้สาวๆ ทุกคนมักใช้เครื่องสำอางกันอยู่เป็นประจำ อาการผื่นแดงบนใบหน้าจึงพบได้ค่อนข้างบ่อย โดยอาการนี้จะมีลักษณะเป็นผื่นสีแดงขนาดเล็กดูคล้ายสิวผด แต่จะมีอาการแสบคัน ระคายเคือง และจะมีอาการมากขึ้น หากสัมผัสกับแสงแดดหรือเหงื่อ ซึ่งผื่นแดงแบ่งออกได้หลายประเภทด้วยกัน ดังนี้

ผื่นผิวหนังอักเสบ พบได้บ่อยบริเวณข้างจมูก คิ้ว ใบหู หรือบนหนังศีรษะ จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง คัน และเป็นขุยสีเหลือง

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง พบในผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ลักษณะจะเป็นผื่นผิวแห้ง สีแดง คัน เกิดขึ้นได้บริเวณใบหน้า ลำคอ ข้อพับแขน-ขา

ผื่นแพ้สัมผัส ผิวหน้าจะมีอาการคันและอักเสบหลังจากสัมผัสสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ครีมบางชนิด หรือเครื่องสำอาง โดยจะแสดงอาการออกมาหลังจากสัมผัสสารแล้วประมาณ 2 อาทิตย์จนถึง 3 เดือน

ผื่นระคายสัมผัส ผื่นชนิดนี้จะมีอาการบวมแดงขึ้นมาร่วมด้วย มักพบในผู้ป่วยที่สัมผัสกับเครื่องสำอางที่มีกรดวิตามินเอ กรดผลไม้ หรือสารที่มีฤทธิ์ช่วยผลัดลอกผิวแรงๆ และใช้มาเป็นเวลานาน

ผื่นสัมผัสจากสารร่วมกับแสง เป็นผื่นที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ครีมกันแดด หรือน้ำหอม ร่วมกับการโดนแสงแดดไปด้วย

ผื่นผิวหนังอักเสบรอบปาก จะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ ตุ่มหนอง หรือตุ่มสีแดงบริเวณรอบขอบปาก

ผื่นผิวหนังอักเสบชนิด Rosacea มักพบได้บ่อยในกลุ่มคนผิวขาว มีอาการหน้าแดง มีตุ่มอักเสบ ตุ่มหนอง หลอดเลือดฝอยขยายตัว และจะเป็นผื่นมากขึ้นจากสัมผัสกับความร้อน แสงแดด ความเครียด และหลังจากดื่มแอลกอฮอล์

ผื่นสิว คนที่มีผิวมันมักจะเป็นสิวได้ง่ายกว่า โดยสิวแบ่งออกเป็นหลายประเภท มีตั้งแต่ตุ่มแดงอักเสบ ตุ่มหนองใต้ผิวหนัง หรือเป็นสิวหัวดำ

ผื่นผิวหนังจากสารก่อภูมิแพ้ พบในกลุ่มผู้ที่ทานยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จนทำให้ผิวหนังบาง และหลอดเลือดฝอยขยายตัว

สาเหตุของผื่นแดงบนใบหน้า

ผื่นแดงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สบู่-โฟมล้างหน้า ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารกันบูด น้ำหอม ลาโนลิน และสารเกิดฟอง เหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของผื่นแดงได้ รวมไปถึงแชมพู และผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมต่างๆ นอกจากนี้สิ่งที่เป็นสาเหตุของผื่นแพ้ยังเกิดมาจากโลหะต่างๆ ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ เช่น ถาดแป้ง ขอบแปรง แผ่นยางรองที่ดัดขนตา รวมไปถึงสารก่อผื่นแพ้ที่อาจติดมากับการสัมผัสด้วยมือ เช่น น้ำยาล้างเล็บ ยาทาเล็บ นิกเกิล โครเมียม ทองแดง ฯลฯ

หากพบว่าตนเองกำลังเป็นผื่นแดงหรือผื่นแพ้ชนิดใดๆ ก็ตามบนผิวหน้า ควรหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ เครื่องประทินผิว เครื่องสำอางทุกชนิด แล้วรีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาโดยด่วน ไม่ควรซื้อยามาทาเอง เพราะอาจทำให้อาการลุกลามเพราะใช้ยาผิดประเภทได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook