เช็กโรคจากฉี่
ขอยกตัวอย่างโรคเกี่ยวกับสมองซึ่งเราค่อนข้างจะได้ยินบ่อยและรู้จักกันดี อย่างเช่น โรคเส้นโลหิตในสมองแตกหรืออุดตัน ซึ่งจะเรียกกันเป็นภาษาสามัญทางการแพทย์ว่า Strokes
ของไทยเราคงจะเรียกกันว่า โรคอัมพาตหรือถ้ามีอาการอย่างเบาๆ จะเรียกว่าโรคอัมพฤกษ์ โรคนี้ ความผิดปกติเริ่มขึ้นที่สมองก่อน คือ เส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมองใหญ่ (Cerebrum) เกิดอุดตันหรือแตก หรืออาจจะเป็นสมองส่วนอื่นๆก็ได้ อย่างเช่น สมองส่วนกลาง
เมื่อเส้นเลือดแตก เลือดที่ไหลออกมาจะไปคั่งอยู่ในสมอง สมองส่วนอื่นๆ จึงทำงานไม่ได้หรือถ้าเส้นเลือดอุดตัน เซลล์สมองส่วนที่ไม่ได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงก็จะตาย
เมื่อสมองส่วนหนึ่งส่วนใดไม่ทำงาน ร่างกายที่เกี่ยวข้องกับสมองส่วนนั้นก็จะชาหรือพิการ เกิดอาการพิการไปครึ่งซีกหรือทั้งหมดของร่างกายได้
ที่น่าสังเกตคือสมองใหญ่ 2 ซีกนั้น ทำหน้าที่ควบคุมร่างกายแยกกันเป็นซีกตรงกันข้าม คือ ซีกซ้ายจะคุมร่างกายด้านขวา และซีกขวาจะควบคุมร่างกายด้านซ้าย
ฉะนั้น ถ้าใครมีอาการเส้นโลหิตแตกหรืออุดตันในสมองซีกซ้าย ร่างกายด้านขวาจะเป็นอัมพาต หรือเป็นที่สมองด้านขวา ร่างกายด้านซ้ายก็จะเป็นอัมพาตกลับกันอย่างนี้
นอกจากนี้ยังมีโรคของสมองอีกหลายโรคที่มีผลกระทบต่อร่างกายบางซีกบางส่วน หรือก็อาจกระทบร่างกายทั้งตัวก็ได้เช่นกัน อย่างโรคพาร์กินสันที่ทำให้มีอาการสั่นเฉพาะบางส่วนของร่างกาย หรือทั้งตัว โรคลมชักหรือลมบ้าหมูที่ทำให้มีอาการชัก เกร็งและกระตุก โรคอัลไซเมอร์และความจำเสื่อมเพราะความชรา (ALZHEIMER'S DISEASE และ SENILE DEMENTIA) และยังมีโรคเกี่ยวแก่สมองอื่นๆ อีกหลายอย่าง
ที่อยากจะสรุปในตอนนี้คือว่า โรคเกี่ยวแก่สมองต่างๆเหล่านี้ จะมีอาการปัสสาวะผิดปกติร่วมอยู่ด้วยเสมอ สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งคือว่า อาการฉี่ผิดปกติจากโรคสมองนี้ ผิดกับอาการฉี่ผิดปกติโรคที่ไม่เกี่ยวแก่สมอง
ผิดกันอยู่ตรงที่ว่า การฉี่ผิดปกติของโรคที่ไม่เกี่ยวแก่สมองนี้ ส่วนมากเราพอจะบังคับไม่ให้ฉี่ราดได้ อย่างเช่น โรคเบาหวานหรือต่อมลูกหมากอักเสบนั้น ต้องฉี่บ่อยๆก็จริง และบางครั้งปวดฉี่จนหน้าเขียวก็จริง แต่ยังพอบังคับหรือกลั้นไว้ได้หน่อยหนึ่ง ถ่วงเวลาจนกระทั่งวิ่งไปถึงห้องน้ำได้ (แม้กระทั่งถึงห้องน้ำแล้วมีคนยืนฉี่อยู่ก่อน ก็พอมีโอกาสทำหน้ากระมิดกระเมี้ยนยืนกลั้นรออยู่ได้อีกสักครู่)
แต่การฉี่ผิดปกติเพราะโรคเกี่ยวแก่สมองนั้นจะทำให้กลั้นไม่อยู่ ส่วนมากมักจะฉี่ราด หรือบางทีไม่รู้ตัวว่า ปวดฉี่ด้วยซ้ำ อยู่ดี ๆ ปัสสาวะก็ราดออกมาเฉยๆ
ฉี่ราดเฉยๆโดยไม่รู้ตัวเช่นนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ป่วยและผู้ดูแล ใครที่ไม่เคยต้องดูแลผู้ป่วยโรคสมองเหล่านี้ คงจะไม่เข้าใจหรอกว่า การดูแลการขับถ่ายของผู้ป่วยซึ่งรวมทั้งการปัสสาวะผิดปกติอยู่ด้วยนี้ เป็นเรื่องน่าสงสารและเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับผู้ป่วย ผู้ดูแลหรือผู้พยาบาลเพียงใด
เพราะฉะนั้น บทความตอนนี้จึงมุ่งที่จะช่วยบรรเทาความทรมานของผู้ป่วยและบรรเทาความอดทนอย่างหนักหนาสาหัสสำหรับผู้พยาบาลและผู้ดูแลเสียก่อน
แต่อย่าลืมนะครับว่า การบรรเทาหรือบำบัดนี้ไม่ใช่การรักษา การจะแก้อาการต่างๆให้หายโดยเด็ดขาด ต้องแก้ตัวโรคซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการให้ได้เสียก่อน แล้วอาการต่างๆก็จะหายไปเอง
อยากทราบว่าท่านอาจารย์สาทิสจะอธิบายเรื่องของสมองว่าอย่างไรต่อ ติดตามต่อได้ที่คอลัมน์ "เปิดประตูหลังบ้าน" นิตยสารชีวจิต ฉบับ 333 (16 สิงหาคม 2555) ค่ะ
ขอบคุณภาพประกอบ : http://www.photos.com/