รวบตึงที่มาของ "ป่าน ณิชาภัทร" สาวไทยสุดมั่นคนแรกและคนเดียวที่ได้ไปร่วมงาน Met gala 2 ปีซ้อน

ใครที่เป็นแฟนของงาน "Met Gala" บิ๊กอีเว้นต์ที่มีศักดิ์ศรีเทียบเท่ากับ "ออสการ์แห่งโลกแฟชั่น" คงรู้ดีว่าเหล่าคนดังที่จะได้ไปเฉิดฉายประชันโฉมบนพรมแดงแห่งนี้ ไม่ได้มีแค่เงินถุงเงินถัง หรือ ชื่อเสียงอย่างเดียวก็จะเป็นใบเบิกทางให้ตีตั๋วไปร่วมงานได้ เพราะแขกทุกคนที่จะผ่านเข้าไปโพสต์ท่าราวกับนางพญาให้ช่างภาพนับร้อยนับพันลั่นชัตเตอร์ และสาดแสงแฟลชใส่แบบกระหน่ำ ต้องได้รับการอนุมัติจาก "แอนนา วินทัวร์" บก.บห.นิตยสารแฟชั่น Vogue อเมริกาเท่านั้น! หรือ พูดง่ายๆ ว่าต้องได้รับเชิญจากขุ่นแม่แอนนาก่อน

>> ป่าน ณิชาภัทร หญิงไทยหนึ่งเดียวในงาน Met Gala 2019

แม้จะยาก และ ดูหนทางตันแค่ไหนที่จะคว้าตั๋วราคาหลักล้านเพื่อเข้าไปในงานกาล่าสุดหรูแห่งปี มาครองได้ แต่สำหรับ "ป่าน-ณิชาภัทร สุภาพ" สาวไทยสุดมั่นที่มีหัวใจรักในแฟชั่นแบบยืนหนึ่งไม่เปลี่ยนแปลงเธอกลับทำได้แบบไม่ใช่ฟลุค หรือ บังเอิญ!

>> Met Gala 2019 กับธีม Camp เหล่าคนดังมาเต็มกับแฟชั่นหลุดโลก

ใช่แล้ว...เธอ คือ สาวมั่นที่เคยสร้างชื่อในฐานะคนไทยคนแรกที่มีชื่อในลิสต์แขกของแอนนาให้มาร่วมงาน "Met Gala 2018" และปีนี้ เธอก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่อีกครั้ง ด้วยการทำลายสถิติตัวเอง ขึ้นแท่นเป็นหญิงคนไทยคนแรก และคนเดียวที่ได้จารึกชื่อคนไทยไว้ในบิ๊กอีเว้นต์ระดับโลกนี้ได้สำเร็จ ได้ไปร่วมงาน Met Gala เป็นปีที่ 2 ความไม่ธรรมดาของเธอคนนี้ คงพาลให้หลายคนนึกสงสัยว่าเธอคนนี้เป็นใครกันแน่ ถ้าอย่างนั้นไปทำความรู้จัก ป่าน ณิชาภัทร แฟชั่นนิสต้าตัวแม่พร้อมกัน

เปิดเส้นทางชีวิตแฟชั่นนิสต้าตัวท็อป   

ก่อนจะเฉิดฉายท่ามกลางแสงแฟลช เธอ คือ อดีตลูกเป็ดขี้เหร่ที่แค่ฝันจะทำงานในวงการแฟชั่นยังไม่กล้า เพราะคิดว่าตัวเองไม่ดีพอ แต่เพราะหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ หลังจากคว้าปริญญาตรีจากคณะอักษรศาสตร์ บัณฑิต จุฬาฯ (เอกภาษาอังกฤษ) มาได้ หัวใจก็ร่ำร้องว่าต้องไปใช้ชีวิตอยู่นิวยอร์ก มหานครในฝันที่ไปครั้งแรกก็ตกหลุมรักจนได้ เธอจึงพยายามทุกวิถีทางที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเพื่อเรียนต่อปริญญาโทที่นิวยอร์กให้ได้ แม้จะต้องพลาดหวังจากมหาวิทยาลัยที่ทุ่มเทเต็มที่ว่าจะเข้าให้ได้ เธอก็ไม่ยอมแพ้ พยายามอีกครั้งจนสอบเข้าที่บารุคห์ คอลเลจ มหาวิทยาลัยที่โด่งดังเป็นอันดับ 3 ในนิวยอร์กได้สำเร็จ และค่อยๆแง้มประตูเข้าสู่โลกแฟชั่นทีละน้อย

แม้จะมาเรียนต่อปริญญาโทด้านธุรกิจ แต่ป่านก็ไม่เคยลืมความฝันที่หมายมั่นจะเข้าไปโลดแล่นในวงการแฟชั่น เธอตัดสินใจไปเทคคอร์สที่สถาบันเทคโนโลยีแฟชั่น (FIT) เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ด้านแฟชั่นพร้อมกับชิมลางทำงานสายแฟชั่นไปด้วย แต่เส้นทางสายนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะคว้างานที่รักมาได้ ก็กลืนน้ำตาจากการถูกปฏิเสธไปหลายอึก กว่าจะได้ลิ้มรสชาติความสุขเมื่อความฝันเป็นจริง ได้ทำงานที่ Alberta Ferretti, Roberto Cavalli, นิตยสาร Vogue us, แบรนด์ Macy’s และห้าง Bloomingdale's

ด้วยความเป็นสายแอกทีฟ แถมเฟรนด์ลี่ไม่เบา ทำให้โลกแฟชั่นของป่านเปิดกว้างขึ้นเรื่อยๆ เธอมีเพื่อนและคอนเนคชั่นในวงการมากมาย จนตอนหลังเธอผันตัวมาเป็นที่ปรึกษาด้านเเฟชั่นให้กับเเบรนด์ไทยที่อยากโกอินเตอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์รองเท้า โอแอนด์บี (O&B),  เเบรนด์เสื้อผ้าสตรีทหรู อย่าง ลาบูทีคส์ (La Boutique),  แบรนด์ชุดว่ายน้ำสุดฮอต อย่าง แอนเจลิส บาเลก (Angelys Balek) รวมทั้งเป็นนักเขียนให้กับนิตยสารชั้นนำของไทยอีกหลายฉบับ ก่อนที่ความฝันที่รอมาทั้งชีวิตจะเป็นจริง

1 ในแขกงาน Met Gala 2018 ที่สุดแห่งฝันของคนแฟชั่น       

แม้การโลดแล่นในวงการแฟชั่นนิวยอร์กจะเป็นเส้นทางที่มาไกลเกินฝัน แต่ถ้าจะไปให้ถึงปลายทางแห่งฝันของป่านจริงๆ คือ การได้ไปร่วมงาน Met Gala เธออดทนรอมาทั้งชีวิตและฝันก็เป็นจริง เมื่อในที่สุด แอนนาเซย์เยสให้เธอเป็นแขกในงานกาล่าหรูที่สปอร์ตไลท์แห่งวงการแฟชั่นทุกดวงสาดส่องเข้ามา เธอได้ชื่อว่าเป็นสาวไทยคนแรกและหนึ่งเดียวในบิ๊กอีเวนต์นี้

เมื่อปีที่แล้ว ป่านเฉิดฉายในชุดเดรสหน้าสั้นหลังยาวสีม่วง ชวนสะดุดตา และตาลุกว้าว เพราะ แค่มูลค่าชุดก็หลักล้าน ซึ่งชุดเดรสที่สร้างชื่อให้ป่านเป็นที่จดจำเป็นฝีมือของ "ปีเตอร์ ดันดาส" (Peter Dundas) ดีไซเนอร์ชื่อดังที่แม้แต่นักร้องดังอย่างบียอนเซ่ยังเลือกใช้ แต่ในงานนั้นเขาตอบตกลงที่จะมาออกแบบและเดรสชุดให้สาวป่านเพียงคนเดียว โดยออกแบบชุดอย่างสุดฝีมือเพื่อให้เข้ากับธีมงาน Heavenly Bodies ที่เกี่ยวกับเรื่องของศาสนา ในส่วนเครื่องประดับที่นำมาเสริมทัพให้ลุคดูแกรนด์และแกลม ป่านเลือกเครื่องประดับจากแบรนด์โชพาร์ด (Chopard) ที่มูลค่าชวนให้ตาเป็นประกายไม่แพ้ความงามของเครื่องประดับเพราะมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท  

มาถึงปีนี้ ป่านกลับมาทวงบัลลังก์แห่งความภาคภูมิใจอีกครั้ง ด้วยการทุ่มสุดตัว เปย์สุดฤทธิ์ ถึงแม้จะเป็นปีที่ 2 แต่ความตื่นเต้น และ ความปลื้มปริ่มที่ได้พาชื่อ "ไทยแลนด์" ไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในอีเวนต์ระดับโลกที่ใครก็ปรารถนาจะมีโอกาสสักครั้ง กลับไม่ได้ลดน้อยถอยลง เธอยังสู้สุดใจเพื่อใช้โอกาสที่หาได้ยากยิ่งนี้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ถึงธีมงาน Camp: Notes on Fashion ในปีนี้จะปราบเซียนสุดๆ ชนิดที่ว่าคนแฟชั่นยังมึน เพราะ Camp ในที่นี้ไม่ใช่การเข้าแคมป์ แต่หมายถึงชาวสีรุ้ง ความเวอร์วัง ความเยอะไว้ก่อน แต่สำหรับเจ้าแม่ความเวอร์วังมีหรือจะยอมให้เสียชื่อ เธอทุ่มสุดตัว จนสามารถคว้าตัวไซเนอร์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงสุดๆ เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการที่สร้างชื่อในงานนิวยอร์ก แฟชั่น วีค อย่าง "โทโมะ โคอิซึมิ" (Tomo Koizumi) มาออกแบบและเดรสชุดให้เพียงคนเดียว

งานนี้รับรองว่าได้ชุดออกมาเวอร์วัง ตรงธีมเป๊ะ เพราะแค่ชุดจากคอลเลคชั่นของแบรนด์โทโมะยังได้รับเลือกให้ไปโชว์ในนิทรรศการ ไม่ต้องเดาเลยว่า ชุดที่ดีไซเนอร์คนเก่งสู่ลงดีเทลเพื่อออกแบบสำหรับธีมงานปีนี้เฉพาะจะเป๊ะปังขนาดไหน ซึ่งสาวป่านมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าทุกคนต้องว้าวกับชุดสีรุ้งที่เธอและดีไซเนอร์จัดเต็มแบบไม่ยั้ง พร้อมเสี่ยงเพื่อความสนุกกับโลกแฟชั่นที่ไร้กรอบ และขีดจำกัด จัดไปเบาะๆ แค่ค่าชุดก็เฉียดล้าน ยังไม่รวมเครื่องประดับจาก เพียเจต์ (Piaget) ในคอลเลคชั่น "The Floral Arrangement" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสวนดอกไม้ของเจ้าหญิงเกรซ ที่พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยการองค์ประกอบของอัญมณีที่ใช้เวลาครึ่งปีเฟ้นหารูปร่างและสีสันที่ไม่จำเป็นต้องได้สมมาตรแต่เมื่อมาจัดรวมเป็นช่อกุหลาบหลากสีแล้วกลมกลืม ไร้ที่ติ ส่วนรองเท้าที่จะมาฟินนิชลุคให้สมบูรณ์แบบเธอเลือกรองเท้าจากแบรนด์คริสเตียน "ลูบูร์แตง" (Christian Louboutin)

ความทุ่มเทที่จะให้ทุกอย่างออกมาเพอร์เฟคยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะสาวป่านยังทุ่มทุนสร้าง บินไปทำเล็บถึงญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความประณีต งานฝีมือไม่เป็นสองรองใคร งานนี้จับตามองเล็บสวยๆของสาวป่านไว้ให้ดี เพราะประดับด้วยคริสตัลและกลิตเตอร์จากสวารอฟสกี้ เลอค่าสมกับกาล่าหรู

ทั้งหมดนี้ คือ ส่วนหนึ่งของตัวตนที่รู้แล้วจะทึ่งของ "ป่าน ณิชาภัทร" สาวไทยผู้มีแพชชั่นในวงการแฟชั่นเกินร้อย! ที่เชื่อว่านาทีนี้ไม่มีใครไม่อยากทำความรู้จักเธอ