เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์และข้อเสียต่อผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์และข้อเสียต่อผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ประโยชน์และข้อเสียต่อผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าคุณไม่มีอาการแพ้ เมื่อรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาหารประเภทนี้ ถือเป็นแหล่งสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์ บทความนี้นำเสนอคุณประโยชน์ของ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และวิธีการนำไปใช้ในอาหารของคุณ ในขณะตั้งครรภ์ อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ต่อการตั้งครรภ์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งที่อุดมด้วยสารอาหารหลัก

เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับถั่วชนิดอื่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถูกจัดอยู่ในอันดับสูงสุด ในเรื่องการให้โปรตีนและไขมันดีต่อทารก อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรต และใยอาหาร การรับประทานถั่วชนิดนี้ ช่วยลดระดับไขมันเลวในร่างกาย ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้

เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

คุณอาจไม่ทราบว่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ออนซ์ ประกอบด้วยธาตุเหล็ก 1.7 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่สูง ธาตุเหล็กช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง และหญิงตั้งครรภ์ต้องการปริมาณธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น เม็ดมะม่วงหิมพานต์จึงควรเป็นหนึ่งในรายการอาหาร ที่หญิงตั้งครรภ์ควรบริโภค

เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยวิตามินเค

วิตามินเค ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน สำหรับผู้ที่กำลังจะเป็นแม่อยู่ที่ 90 ไมโครกรัม หากรับประทานได้ตามปริมาณที่กำหนด ทารกในครรภ์จะปลอดภัยจากภาวะเลือดออกในครรภ์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นระหว่างการคลอด

 

เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งที่ดีของทองแดง

ทารกจำเป็นต้องได้รับธาตุทองแดง สำหรับการสร้างเส้นเลือด ระบบประสาท และพัฒนาการด้านหัวใจ ปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันคือ 1 มิลลิกรัม โดยเม็ดมะม่วงหิมพานต์ 1 ออนซ์ ให้แร่ธาตุทองแดงถึง 0.6 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม คุณควรระมัดระวังการบริโภคทองแดง เพราะหากได้รับทองแดงมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง โรคหัวใจ และปวดศีรษะได้

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีแมกนีเซียมเป็นส่วนประกอบ

แมกนีเซียม เมื่อทำงานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยเสริมสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อของผู้เป็นแม่ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง ความตึงเครียด อ่อนเพลีย และไมเกรนได้อีกด้วย

สิ่งที่ควรตระหนักเมื่อรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์

  • ยูรุชิออล (Urushiol) ที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สามารถทำให้เกิดผื่นคันที่ผิวหนัง ซึ่งภาวะนี้อาจส่งผลต่อการการนอนหลับของคุณได้
  • คุณควรควบคุมปริมาณการรับประทาน เนื่องจากหากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ การรับประทานแต่พอดีเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยกำหนดปริมาณประมาณ 1 ออนซ์ต่อวัน
  • ออกซาเลตที่อยู่ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจเพิ่มปริมาณของเหลวในร่างกาย และนำไปสู่การเพิ่มความเสี่ยงเสี่ยงทางสุขภาพครรภ์ก่อนคลอด
  • เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีรสธรรมชาติ เนื่องจากเกลือมีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งไม่ดีต่อการตั้งครรภ์

ควรปรึกษาเแพทย์เพื่อประโยชน์สูงสุด และให้แน่ใจว่าคุณไม่มีอาการแพ้ หรือเกิดอาการอื่นๆ เมื่อรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook