รู้ไว้ ไม่มีแก่ 7 สารสำคัญที่ช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัย
ริ้วรอย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติตามวัยที่สูงขึ้น โดยเกิดจากการลดจำนวนของไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เซลล์ผิวในชั้นหนังแท้ ซึ่งมีหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน อิลาสติน และคอลลาเจน ทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวอ่อนแอ และเกิดริ้วรอยขึ้น ซึ่งอันที่จริงแล้ว ริ้วรอย นั้นไม่สามารถหายไปได้อย่างถาวร แต่ริ้วรอยสามารถชะลอหรือลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผิวได้ในระดับหนึ่ง
โดยใช้วิธีการรักษาหลายอย่างร่วมกัน ในปัจจุบันมีผลการศึกษาทางวิชาการ และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เกี่ยวกับสารสำคัญที่มีคุณสมบัติและมีบทบาทในการช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างชั้นผิว ซึ่งจะนำไปสู่การชะลอริ้วรอย ฟื้นฟูให้ผิวแลดูสุขภาพดีขึ้น ซึ่งเราจะขอยกตัวอย่างสำหรับ “สารหลักสำคัญ” ที่จำเป็นต้องรู้ เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
Hyaluronic Acid (ไฮยาลูรอนิกแอซิด หรือ ไฮยาลูรอน)
ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารสำคัญที่ร่างกายเราสามารถสร้างขึ้นเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ โดยเป็นส่วนประกอบสำคัญของแมทริกซ์นอกเซลล์ (Extracellular metrix) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำและช่วยให้ผิวคงรูปได้ดี เพราะฉะนั้น ในคนที่ยังสามารถผลิตไฮยาลูรอนได้ในปริมาณมากอยู่ ผิวก็จะแลดูฉ่ำน้ำ เด้งกระชับ
อย่างไรก็ตาม ร่างกายจะผลิตไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ได้น้อยลงเรื่อยๆตามวัยที่สูงขึ้น ซึ่งโดยค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป ผิวของคนเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุเกิน 20 ปี และปริมาณไฮยาลูรอนที่ร่างกายผลิตจะเริ่มลดลงตามไปด้วย ดังนั้นจึงมักมีการเสริมไฮยาลูรอน ผ่านการทา การฉีด หรือ การรับประทาน ทั้งนี้การใช้ไฮยาลูรอนเพื่อความงามและบำรุงผิวพรรณนั้น มีหลายวิธี แต่ละวิธีก็ให้ผลที่แตกต่างกันออกไป ในส่วนของวิธีทาที่เราใช้กับครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบของ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดโมเลกุลของสารไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) ด้วยว่า มีขนาดพอเหมาะที่จะซึมซาบสู่ผิว และให้ความชุ่มชื้นได้ดีเพียงใด
วิตามินบี 5 (Vitamin B5)
วิตามินบี 5 หรือ กรดแพนโทเทนิก (Pantothenic acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ จัดอยู่ในกลุ่มของวิตามินบี ซึ่งร่างกายของเราสามารถสังเคราะห์วิตามินบี 5 ขึ้นเองได้บางส่วนโดยแบคทีเรียในลำไส้ วิตามินบี 5 มีหน้าที่ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ต่างๆ การเจริญเติบโตของร่างกาย และการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของต่อมหมวกไต รวมไปถึงการช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและการใช้สารกาบาและโคลีนของร่างกาย
นอกจากนี้ ยังมีความสำคัญต่อการเปลี่ยนไขมันและน้ำตาลให้กลายเป็นพลังงานอีกด้วย ในด้านการดูแลสุขภาพผิวนั้น วิตามินบี 5 มีคุณสมบัติเด่น คือ ลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิวหนัง ซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว หรือ skin barrier ให้แข็งแรง ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้นานขึ้น ช่วยเร่งการสมานแผลบนผิว และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น บ่อยครั้งจึงเห็นว่า วิตามินบี 5 ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาหารเสริมหลายชนิด
สารสกัดแมดิแคสโซไซด์ (Madecassoside) จากใบบัวบก
ใบบัวบกนั้นมีสารสำคัญหลายชนิด แต่หนึ่งในสารสำคัญที่มีบทบาทในการช่วยชะลอริ้วรอยคือ สารสกัดแมดิแคสโซไซด์ (Madecassoside) โดยมีรายงานว่า สารสกัดชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Antioxidation) ซึ่งส่งผลในการลดความเสื่อมของเซลล์ตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย และยังพบว่าสารไกลโคไซด์เหล่านี้ยังช่วยเร่งกระบวนการสร้างสารคอลลาเจน (Collagen) ที่เป็นโครงสร้างของผิวหนัง จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ สาระสำคัญในใบบัวบก ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวและลดความเสื่อมสภาพของผิวพรรณ ทั้งยังช่วยในการลดการระคายเคืองของผิวหนัง ลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ตลอดจนป้องกันการเกิดแผลเป็นอีกด้วย
วิตามินเอ (Vitamin A)
นอกจากคุณสมบัติในการบำรุงสายตาแล้ว วิตามินเอ ยังมีประโยชน์ต่อผิวหนังอย่างมากด้วยเช่นกัน เนื่องจาก วิตามินเอ มีคุณสมบัติช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์บุผิวและพัฒนาการของเซลล์ นอกจากนี้ วิตามินเอ ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระซึ่งป้องกันและรักษาภาวะชราของผิวหนัง ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นลดลง ช่วยให้ผิวเนียน ไม่หยาบกร้าน ทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซ่อมแซมและการฟื้นฟูผิวหนังที่ถูกทำลายจากแสงแดด โดยในทางการแพทย์ ได้มีการนำยาในกลุ่มของ retinoids ซึ่งเป็นวิตามินเอสังเคราะห์ มาใช้ในการดูแลผิวพรรณอีกด้วย
วิตามินซี (Vitamin C)
วิตามินซี ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ L-ascorbic Acid เป็นวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมากชนิดหนึ่ง ในด้านการดูแลผิวพรรณนั้น วิตามินซี ถือเป็นสารอนุมูลต่านอิสระชั้นดี ที่มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย ทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ดูเรียบเนียน และกระจ่างใสขึ้น
วิตามินอี (Vitamin E)
วิตามิน อี หรือ โทโคฟีรอล (Tocopherol) เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ซึ่งจะถูกเก็บสะสมไว้ที่ตับ เนื้อเยื่อ ไขมัน หัวใจ เลือด กล้ามเนื้อ มดลูก อัณฑะ ต่อมหมวกไต และต่อมใต้สมอง สำหรับคุณประโยชน์ของวิตามินอีในด้านการดูแลสุขภาพผิวนั้น วิตามิน อี ช่วยทำให้ผิวแลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอกระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดการหยาบกร้านของผิว นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติลดรอยแดง ซึ่งเป็นผลของการที่ผิวถูกทำลายจากแสงแดด วิตามินอี มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความชราของผิว และลดริ้วรอยเหี่ยวย่น หรือผิวแตกลายได้
แอสตาแซนทิน (Astaxanthin)
แอสตาแซนทิน เป็นสารอาหารที่จัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) แต่มีความพิเศษเหนือกว่าที่แอสตาแซนทิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ได้ทั้งภายในและภายนอกจากปัจจัยต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ต่างจากสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ ในทางการแพทย์จึงนำคุณสมบัติเด่นนี้มาใช้กับการดูแลผิวหนัง เพื่อช่วยปกป้องโครงสร้างผิวจากการทำลายจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดด ช่วยกระชับรูขุมขน และลดเลือนริ้วรอย
แหล่งที่พบแอสตาแซนทินจากธรรมชาติ คือ ปลาทะเล และสัตว์ทะเลบางชนิด เช่น ปลาแซลมอน ปลาเทราท์ กุ้ง และล็อบสเตอร์ จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เป็นตัวอย่างของสารสำคัญ ที่ใช้ในวงการความงามและสุขภาพ ด้วยคุณสมบัติ ดังกล่าว จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว หรืออาหารเสริมอื่นๆ การเลือกครีมบำรุง และอาหารเสริมต่างๆ จึงควรคำนึงถึงส่วนประกอบที่มีทั้งด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และควรมีการศึกษาทางวิชาการรองรับอีกด้วย
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด