ลบความเชื่อผิดๆ! ทากันแดดให้ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชาวญี่ปุ่น
แม้ในปัจจุบัน จะมีคนที่ใส่ใจในผิวหนังมากขึ้น แต่ก็มีคนไม่น้อย ที่ยังไม่เข้าใจวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง บางคนก็คิดว่า “ถ้าทากันแดด SPF เยอะๆแล้วตอนเช้า ทั้งวันก็ไม่น่ามีปัญหา” หรือ “ขี้เกียจทากันแดด เลยกินกันแดดแบบกินได้ น่าจะปกป้องผิวได้พอๆกับการทา” แต่วิธี หรือความคิดไหน คือสิ่งที่ถูกต้องกันล่ะ? เพื่อไขข้อข้องใจ วันนี้เราจึงนำคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทากันแดดที่ถูกต้องจากปากของคุณหมอยาซาวะ มาโกะ ซึ่งเป็นแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของญี่ปุ่นมาให้อ่านกัน
แสง UV สาเหตุของความเหี่ยวย่นและความเสี่ยงมะเร็ง
คุณหมอยาซาวะ แพทย์ประจำคลีนิคเสริมความงาม AOHAL CLINIC ในโตเกียว กล่าวว่าแสง UV เป็นศัตรูตัวฉกาจของผิวหนัง เป็นสาเหตุของฝ้า และยังทำให้ผิว หรือรอยแดงมีอาการแย่ลงด้วย แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดจากแสง UV คือความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง
โดยบางคนอาจจะคิดว่า เด็กเล็กๆ ยังไม่ต้องกังวลกับแสง UV แต่มีผลวิจัยสุดช็อกที่บอกว่า “ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 10 ขวบ ยิ่งได้รับแสง UV เยอะมากเท่าไหร่ ก็เพิ่งความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังในอนาคตมากขึ้นเท่านั้น”ดังนั้นเพื่อนๆคนไหนที่มีเด็กเล็กอยู่ข้างตัวก็อย่าลืมใส่ใจ และทาครีมกันแดดที่เด็กๆก็สามารถทาได้ให้พวกเขาด้วยนะ
ในหนึ่งวันควรทากันแดดวันละกี่ครั้ง? ครั้งเดียวก็พอแล้วใช่หรือไม่?
บางคนอาจจะคิดว่าทากันแดดตอนเช้าตอนเดียวก็พอแล้ว แต่ความจริงแล้วควรทาซ้ำทุกๆ 2 – 3 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นกันแดดที่มี SPF เยอะขนาดไหน หรือแม้แต่กันแดดแบบกันน้ำก็ตาม เริ่มต้นโดยนำครีมกันแดดไปแต้มลงบนแต่ละส่วนของใบหน้า โดยเฉพาะในส่วนของจมูกและแก้มให้ทาหนาๆหน่อย แล้วค่อยเกลี่ยให้สม่ำเสมอ
ในการทาที่หน้าแต่ละครั้ง ควรใช้ประมาณเหรียญสิบไทย บางคนอาจจะชินกับการใช้น้อยๆ ทาบางๆ แต่ถ้าทาไม่ถึงปริมาณที่พอดี ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการกันแดดน้อยลง แต่ในทางกลับกันก็ต้องระวังอย่าเทออกมาเยอะ เพราะเวลาทาซ้ำจะทำให้เกลี่ยได้ไม่เนียนนะ
ถ้าทากันแดดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ร่ม หมวก ใช่หรือไม่?
ถึงแม้เราจะทากันแดดที่หน้า แต่เราก็ไม่ได้ทาไปจนถึงหนังศีรษะ หรือหลังใบหู ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เราควรจะใช้หมวกหรือร่ม ในการป้องกันตนเองจากแสง UV และเวลาซื้อร่ม เราก็ควรกางดูว่าร่มมีแสงเล็ดลอดเข้ามาไหม หรือเลือกใช้ร่มแบบ UV CUT ไปเลยก็จะสะดวกกว่า
เคยได้ยินมาว่า ถ้าทานวิตามินดีแล้ว จะช่วยปกป้องผิวจากแสง UV ได้ดีจริงหรือไม่?
แม้จะป้องกันตนเองแค่ไหนก็ไม่มีใครที่สามารถป้องกันผิวจากแสง UV ได้ 100% และถึงแม้วิตามินดี จะมีคุณสมบัติป้องกันแสง UV ได้ก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องไปซื้อวิตามินต่างๆมาทานแยก เพราะเราสามารถรับวิตามินพวกนี้ได้จากผักผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ที่เรากินตามปกติอยู่แล้ว
“กันแดดแบบกินได้” ได้ผลดีจริงหรือไม่?
กันแดดแบบกินได้ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงสิ่งที่มีช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เกิดในร่างกายตอนโดนแดด จึงไม่สามารถเทียบได้กับคุณสมบัติของครีมกันแดดได้ ดังนั้นถึงแม้จะกินกันแดดแบบกินได้ไปก็ต้องทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันการเกิดฝ้า และริ้วรอยนะ
ในวันที่ฝนตก หรือในวันที่อยู่ในร่มก็ต้องป้องกันแสง UV ใช่หรือไม่?
ถึงจะอยู่ในร่มเราก็มีโอกาสโดนแสง UV และแม้ในวันที่มีเมฆครื้ม 60% ก็ยังมีโอกาสโดนแสง UV ตั้ง 30% ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ เราก็ควรป้องกันแสง UV ทุกวันตลอด 365 วันนะ!
กันแดดที่ใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ “COMO cocoon moisture”
como cocoon moisture UV Protection SPF50+ PA++++ เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดจาก “comoace” แบรนด์เครื่องสำอางคุณภาพดีส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่ช่วยป้องกันผิวจากแสง UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีเหงื่อไหลไคลย้อยขนาดไหน เนื้อจะเป็นลักษณะโลชั่นน้ำนม ทำให้สบายผิว เหมาะกับทุกสภาพอากาศ และเกลี่ยได้ง่ายไม่เป็นคราบแม้ลงกันแดดซ้ำระหว่างวัน
และด้วยส่วนผสมที่มีความอ่อนโยนต่อผิว ทำให้ใช้ได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ก่อนใช้อย่าลืมเทสต์ที่ผิวของเด็ก เช่น บริเวณข้อพับก่อน เพื่อป้องกันการแพ้ เพราะผิวของเด็กนั้นอ่อนไหวต่างจากผิวของผู้ใหญ่มากเลยล่ะ
โดยสิ่งที่กันแดดตัวนี้ต่างจากกันแดดทั่วไปคือ มีส่วนผสมหลักของ “Pure sericin TM” หรือจากใยไหมจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่ช่วยป้องกันการก่อตัวของริ้วรอย และจุดด่างดำที่เกิดจากรังสี UV นอกจากนี้ยังช่วยปรับผิวให้ดูเรียบเนียน กระจ่างใส ป้องกันความหมองคล้ำจากมลภาวะแวดล้อมด้วย!
ใครสนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่ เว็บไซต์หลักของ comoace (คลิกที่นี่) ได้เลย ในราคาเพียง 900 บาทเท่านั้น! เป็นกันแดดที่มี SPF เยอะไม่พอ ยังช่วยบำรุงผิวและปกป้องผิว จากการเกิดฝ้า กระอีกด้วย เรียกว่าปกป้องและบำรุงผิวได้พร้อมกันในผลิตภัณฑ์เดียวเลยล่ะ
พออ่านแล้ว ก็ทำให้เรารู้ว่าแสง UV มีความอันตรายต่อผิวและร่างกายของคนทุกวัยจริงๆ ใครยังไม่ชินกับการทากันแดดทุกวัน ก็น่าจะเริ่มทาตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของผิวและป้องกันตนเองจากมะเร็งผิวหนังนะคะ