5 เทคนิครับมืออาการแพ้ท้องในคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างได้ผล
อาการแพ้ท้องเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะถือเป็นผลข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ที่จะส่งผลกระทบในการดำเนินชีวิตหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ ที่ค่อยๆ เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถใช้ชีวิตได้ดีขึ้นในช่วงระยะเวลา 9 เดือนก่อนกำหนดคลอด มาดูกันว่ามีเคล็ดลับในการรับมือกับอาการแพ้ท้องที่เหมาะสมอย่างไรกันบ้าง
1.อย่าปล่อยให้ท้องว่าง
อาการแพ้ท้องจะกำเริบหนักมากขึ้นกว่าเดิม หากคุณแม่ปล่อยท้องให้ว่าง เพราะในช่วงที่ร่างกายไมได้รับสารอาหารที่เพียงพอนั้น จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้รุนแรงมากกว่าเดิม ดังนั้น ควรรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ เพราะสารอาหารที่เข้าสู่ร่างกายนั้น จะเป็นตัวช่วยในการต่อสู้กับอาการแพ้ท้องได้เป็นอย่างดี
2.ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำมากๆ นั้นช่วยลดอาการข้างเคียงจากการแพ้ท้องได้ดี โดยอาจจะเลือกดื่มเป็นน้ำผลไม้ หรือนม เพื่อให้ร่างกายได้รับของเหลวอย่างเพียงพอ ซึ่งของเหลวเหล่านั้นจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง และยังสามารถป้องกันอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะได้อีกด้วย
3.จิบน้ำขิง
น้ำขิง มีสรรพคุณในการช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ ท้องผูก รวมไปถึงอาการแสบร้อนบริเวณต่างๆ ในร่างกายได้เป็นอย่างดี หมั่นจิบน้ำขิงเป็นประจำ จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับมือกับอาการแพ้ท้องได้ดีขึ้น หรือนำไปผสมกับผลไม้ ชา เครื่องดื่มชงร้อนอื่นๆ ก็จะทำให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเพิ่มมากขึ้น
4.น้ำมันหอมระเหยช่วยได้
คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมีประสาทสัมผัสทางการดมกลิ่นที่ไวมากขึ้นในช่วงแพ้ท้อง ทำให้ไม่ว่าจะได้กลิ่นอะไร ก็จะเกิดอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ได้ง่าย ดังนั้นวิธีการที่เหมาะสมในการแก้อาการดังกล่าวก็คือ ลองหาน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปปเปอร์มินท์มาติดไว้ในห้อง กลิ่นเปปเปอร์มินท์จะสามารถช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้ได้
5.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดอาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะถ้าหากร่างกายของคุณแม่เกิดความอ่อนเพลียมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้อาการแพ้ท้องทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นคุณแม่ควรหาเวลาระหว่างในการงีบหลับ หรือเข้านอนให้ตรงเวลาในทุกๆ วัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถนำเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ จะช่วยลดอาการแพ้ท้องที่คอยกวนใจได้เป็นอย่างดี ทำให้มีคุณภาพชีวิตในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายของคุณแม่ดีขึ้นตามไปด้วย ซึ่งก็จะส่งผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างแน่นอน