แก้นิสัยไม่น่ารักติดจากโรงเรียน

Q. ลูกเริ่มไปโรงเรียนได้สักพัก กลับมาบ้านสังเกตว่าเขาติดท่าทางและคำพูดออกคำสั่งหรือดุๆ เหมือนคุณครู บางทีอยู่ๆ จะตะโกน ท่องก-ฮ กลอนต่างๆ คำศัพท์ บ่นเหมือนคุณครู ดูรู้ว่าติดมาจากโรงเรียนค่ะ เราบอกให้หยุด ก็ไม่หยุด คือรวมๆ ดูไม่น่ารักเลย ทั้งที่แต่เดิมเขาไม่เป็น อย่างนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า และจะหายไปเองเมื่อเขามีอะไรที่สนใจมากกว่าหรือไม่คะ

เคล็ดลับเลี้ยงลูก

ไม่ชอบอะไรก็บอกเขาตรงๆ ได้ครับ แต่ก็อย่าถึงกับคาดหวังว่าเขาจะปรับทันทีหรือกดดันให้เขาต้องเลิกเดี๋ยวนั้น โดยทั่วไปก็ดูที่ระดับความรุนแรงของพฤติกรรม พฤติกรรมที่เราไม่อนุญาตเด็ดขาดน่าจะเป็นเรื่องฆ่าสัตว์ ทำร้ายคน และพูดคำหยาบ เวลาพบพฤติกรรม "ดูไม่น่ารักเลย" ระดับนี้เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกบ้านคงสกัดทันที ด้วยวิธีการต่างๆ กัน แต่ด้วยเป้าหมายเดียวกันนั่นคือต้องหยุดโดยเร็ว หากเป็นการเล่นฟุตบอลก็คงต้องเตะตัดขาให้ล้มเดี๋ยวนั้น ได้ใบแดงก็ต้องได้แล้วค่อยมาคุยกันทีหลังหากพฤติกรรมของลูกไม่ถึงขั้นนั้น

แค่ว่าเราไม่ชอบ ประเด็นคือแต่ละบ้าน ชอบไม่ชอบต่างกัน อย่างไรก็ตามคุณเป็นแม่คุณมีสิทธิไม่ชอบก็บอกเขาได้ครับ แม่ไม่ชอบ ไม่อยากให้เขาทำ อยากให้เขาเลิก แล้วก็รอ เวลาผ่านไปทำอีกก็บอกอีก ไม่ได้ยากอะไร
ใช่ครับพฤติกรรมนี้เป็นเรื่องธรรมดา จะหายไปเองเมื่อมีคนอื่นหรืออย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่าเขาจะพบคนที่น่าสนใจคนอื่นอีก คงประมาณอีกสองสามแสนคนตลอดชีวิต เขาสามารถนิยมชมชอบใคร

เครซีใคร และนำกลับมาเลียนแบบได้เสมอ ผมทราบดีว่าคุณแม่กำลังพูดเรื่องลูกเล็กกำลังไปโรงเรียน นี่คือปฐมบทของการออกสู่สังคม เขาจะออกไปทุกวันปะทะสังสรรค์กับสังคมที่ไร้พรมแดนข้างนอกนั่น วันหนึ่งเขาอาจจะเจป๊อป เคป๊อป คอสเพลย์ ฯลฯ แล้วคุณจะทำอย่างไร

ในมุมมองฝ่ายเขา นี่เป็นปฐมบทของการที่เขานำเข้าหรือ Import โลกภายนอกของเขาเข้ามาสู่บ้านของคุณคือบ้านของเรา เขาก็จะคอยดูเหมือนกันว่าคุณแม่จะทำอะไรหรืออย่างไร พูดง่ายๆ ว่าเขาก็ทดสอบหรือ test พวกคุณคือพวกพ่อแม่ว่าเป็นคนแบบไหน อย่างไร เป็นประเภทปล่อยปละละเลยหรือศีลธรรมจัดจ้าน เขารู้จะได้ทำตัวถูก

ดังนั้นคุณแม่จึงควรเป็นตัวของตัวเองเพราะคุณต้องเป็นตัวของตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ อย่าพยายามแกล้งเป็นคนใจดีหรือคนจิตใจกว้างขวาง หากสามัญสำนึกของความเป็นแม่บอกว่าพฤติกรรมนี้ไม่น่ารัก คุณก็หยุดมัน พบอีกก็หยุดอีก ลูกจะรู้จักคุณแม่ดีขึ้นด้วย เขาจะได้ทำตัวถูก ปัญหามักอยู่ที่คุณแม่ไม่คงเส้นคงวาหรือขัดแย้งกับคุณพ่อต่อหน้าเขาเสมอเสียมากกว่า ความคงเส้นคงวาคือ Consistency การลงรอยกับคู่สมรสตลอดเวลา เฮไหนเฮนั่นคือ co-ordination ของสองอย่างนี้เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ลูกพัฒนาได้ดี ผิดบ้างถูกบ้างอย่ากังวล

เรื่อง : นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ จิตแพทย์แผนกจิตเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์