ปันสุขด้วยเสียงดนตรี
Share Dreams, Share Ukuleles ปันสุขด้วยเสียงดนตรี
เพราะความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ตัวเหนี่ยวนำความสุขของเราจึงแตกต่างกันไป ถึงอย่างไรเราเชื่อว่าคงไม่สามารถเอาบรรทัดฐานความสุขของใครคนหนึ่งไปวัดค่าความสุขของอีกคนหนึ่งได้ แต่กับผู้ชายอบอุ่น Family Man คนนี้ เขามีความสุขบนความเชื่อที่ว่า เราต่างคอนโทรลชีวิตของตัวเองได้ไม่ต่างจากการขับรถ ความสุขของเขาจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่ตัดสินใจเหยียบคันเร่ง มุ่งหน้าไปบนทางที่เลือก เป็นการเลือกใช้ชีวิตที่เหลือไปกับสิ่งที่รัก และหยุดแวะแบ่งปันเสียงดนตรีให้กับคนรอบข้างระหว่างทาง
ชื่อ เมษาฮาวาย (MaysaHawaii) อาชีพ CEO Baan Ukulele
In Time
ด้วยความหลงใหลในอูคูเลเล่เครื่องดนตรีพื้นเมืองไซส์น่ารักตั้งแต่เมื่อครั้งทำงานอยู่ที่ฮาวาย ทำให้คุณเมษาตัดสินใจบินกลับเมืองไทย ลาออกจากงานธนาคารที่เรียกว่ามั่นคงเพื่อมาเปิดร้านขายอูคูเลเล่ ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน อูคูเลเล่เองก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักในบ้านเรา
"ตอนอยู่ที่ฮาวายไปเรียนทำอูคูเลเล่เลย ชอบมาก ยิ่งทำยิ่งรู้สึกสนุก แล้วก็เล่นให้ลูกฟังตลอด พอคุณเบิร์ด (เพื่อนสนิท) ชวนมาทำร้านแบบเต็มตัว เราก็ปรึกษาแฟน เขาก็บอกว่าหน้าตาเธอตื่นมาทุกเช้าไปทำงานแบงค์ไม่มีความสุขเลย แต่เวลาที่เธอได้จับอูคูเลเล่ ได้ทำอูคูเลเล่เธอดูมีความสุขมาก เราก็เลยถามตัวเองอยู่ 2-3 วัน ว่าถ้าไม่ได้ทำเกิดตายไปจะเสียดายไหม ก็เลยตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต ถึงมันจะประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อย่างน้อยเราก็ได้ทำในสิ่งที่เราอยากลอง"
Baan Ukulele จึงเริ่มจากการเป็นบ้านเล็กๆ ค่อยๆ ขยับขยายเติบโตหลังใหญ่ขึ้น ให้คนที่สนใจสามารถเข้ามานั่งเล่นอูคูเลเล่และพูดคุยกันแบบเป็นกันเอง อยากจับอยากลองตัวไหนไม่มีหวง ถามมาตอบตรง และยังยินดีสอนพื้นฐานเริ่มต้นให้กลับไปฝึกต่อที่บ้านได้เองเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน
"เป้าหมายของเราอาจจะดูพิสดารนะ เราอยากให้บ้านทุกบ้านมีอูคูเลเล่ เสียงดนตรีในบ้านทำให้บ้านมันมีความสุข เราถึงตั้งชื่อว่าบ้านอูคูเลเล่ เป็นเหมือนบ้านตัวอย่างของโครงการ เวลาใครจะมาต้องชมบ้านตัวอย่างก่อน เพราะฉะนั้นความฝันของเราไม่มีอะไรมาก คือขายไปเรื่อยๆ ขายไป บริจาคไป ให้มันแพร่หลาย คนที่เขาได้เล่นเขาก็มีความสุข"
Over Time
จากเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น คุณเมษาได้นำอูคูเลเล่สุดรักที่ได้รับจาก Papa KoAloha ออกมาประมูลบนอีเบย์ ด้วยเรื่องราวประทับใจของอูคูเลเล่ตัวนี้ ก็ทำให้การประมูลไปจบลงที่เกือบสองเท่าของราคาจริง
"Papa บอกเราว่า พระเจ้าบอกแกมาว่าให้ตัวนี้กับเรา เราก็รู้สึกเหมือนกันว่าพระเจ้าบอกเราให้ส่งต่อให้คนอื่น เขาให้เรามาเพื่อเก็บรักษาไว้แค่ชั่วคราว เล่นให้ลูกฟัง ให้ครอบครัวมีความสุข แต่ตัวนี้มันสามารถทำให้คนอื่นมีความสุขได้มากกว่า สำหรับเรามีความสุขพอแล้วกับตัวนี้ครับ"
เขายังเน้นการทำกิจกรรมตอบแทนสังคมกับเด็กๆ ด้วยจุดเด่นที่เป็นมิตรของอูคูเลเล่ ทั้งเรื่องขนาดและความง่ายในการเริ่มเล่น อูคูเลเล่จึงเป็นเครื่องดนตรีพื้นฐานที่เหมาะกับเด็กมาก เห็นได้จากงานคอนเสิร์ต +1 Charity + Concert with Baan Ukulele by James Hill เมื่อปลายปีที่ผ่านมา อูคูเลเล่หลายร้อยตัวได้ถูกผลิตเพื่อให้ทุกคนในงานร่วมเขียนข้อความส่งถึงน้องๆ ที่จะได้รับอูคูเลเล่ไปเล่น โดยทางบ้านอูคูเลเล่พาทีมงาน เพื่อนๆ นักดนตรีไปร่วมสอนการเล่นอูคูเลเล่ และระบำฮูล่า ให้กับเด็กๆ ทั้งที่โรงพยาบาลเด็กและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้มีความสุขกับเสียงดนตรี และนอกจากนี้ยังมีโครงการระยะยาวอย่าง "เติมฝัน ปันอู๊ค" ซึ่งเปิดให้โรงเรียน สถาบัน หน่วยงานต่างๆ ติดต่อเข้ามาหากต้องการอูคูเลเล่ไปจัดกิจกรรม ทางบ้านอูคูเลเล่ก็จะส่งทีมงาน พี่ๆ จิตอาสาลงไปช่วยสอนอูคูเลเล่ให้เด็กๆ ถึงที่
"ถ้าถามว่ามีเงินคือความสุขที่สุดหรือเปล่า มันก็ไม่ใช่ ดังนั้นเวลาที่ขายอูคูเลเล่ได้ ทำงานได้เงินมา เราก็จะแบ่งปันไป เพราะเราเชื่อว่าเราเอาอูคูเลเล่ไปบริจาค จัดคอนเสิร์ตให้คนมาชอบดนตรีมากขึ้น เราทำให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น จิตใจซอฟท์ลง การดำเนินชีวิตดีขึ้น มันเป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ที่เราจะทำได้ เราไม่ได้รวยร้อยล้านพันล้านไม่อย่างนั้นคงทำอูคูเลเล่แจกทุกบ้านไปเลย (หัวเราะ)"
"เราได้เห็นคนอื่นมีความสุข เราก็ยิ้มยินดีแล้ว มันเป็นความสุขทางใจที่เราทำ บางอย่างเงินซื้อไม่ได้"