เผยเคล็ดลับวิธีรักษาฝ้าหายขาด โดยไม่มีผลข้างเคียง รักษาฝ้าได้ หายจริง
เป็นสิวที่ว่าแน่ ยังแพ้เป็นฝ้านะจ้ะสาวๆ บอกเลยว่าวงจรการรักษาฝ้านั้นแสนจะยากเย็น หลายคนต้องเจ็บมาเยอะกับครีมรักษาฝ้าที่ว่าดี หรือแม้แต่การลงทุนทำหน้าใสเมโส ทุ่มไปกับการทำเลเซอร์ไม่อั้น แต่สุดท้ายฝ้าก็กลับมาเกิดซ้ำอยู่ดี บอกเลยว่าถ้าจะตัดวงจรปัญหาการเกิดฝ้าบนใบหน้าซ้ำๆ ซากๆ ก็ต้องมารู้จักสาเหตุการเกิดฝ้ากันก่อน จะได้หาทางรักษาอย่างถูกวิธี
ฝ้า กระ จุดด่างดำ มองเผินๆ เหมือนจะคล้ายกันแต่จริงๆ แล้วมีความต่างกัน อย่างลักษณะของฝ้าจะเป็นแผ่นสีน้ำตาลและมีสีเข้มกว่าสีผิวเรา มีทั้งฝ้าแบบตื้น อยู่ในระดับผิวหนังกำพร้าหรือหนังชั้นนอก เกิดได้ง่ายและรักษาไม่ยาก ส่วนฝ้าแบบลึก จะลงลึกถึงชั้นหนังกำพร้าจึงรักษาได้ยากกว่า
ในขณะที่ 'กระ' จะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน โดยมากพบบริเวณจมูก แก้มและลำคอ มีทั้งกระตื้น กระลึก สาเหตุหลักๆ เกิดจากแสงแดดเช่นเดียวกับฝ้า ส่วนกระเนื้อจะเป็นตุ่มที่นูนออกมาโดยจะมีสีน้ำตาลไปจนถึงเกือบดำ เกิดทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว ยิ่งอายุมากขึ้น กระก็จะนูนและมีสีเข้มขึ้น ส่วนจุดด่างดำนั่นเกิดจากการอักเสบของผิว นอกจากแสงแดดจะเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้รอยดำเด่นชั้น พฤติกรรมของเราเองเช่น การแกะสิว หรือรวบกวนผิวก็ส่งผลให้ผิวอักเสบได้เช่นกัน
มาสรุปกันให้เห็นภาพชัดๆ อีกรอบว่าฝ้า กระ และจุดด่างดำเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีวิธีรักษาแบบไหนให้ฝ้ากระที่เคยฝังลึกสามารถลดเลือน แลดูจางหายลงได้
-
แสงแดด
หลายคนพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ฝ้าเกิดจากการตากแดดมากเกินไป ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีหรือเมลานินใต้ชั้นผิวในปริมาณมาก จนเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทาตามบริเวณต่างๆ บนใบหน้า เช่น โหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง ถ้าอยากหาวิธีรักษาฝ้าให้หายขาด แสงแดดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกัน
-
ฮอร์โมน
ปัญหาฝ้ามักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ยิ่งใครที่อยู่ในช่วงวัย 20-50 ปี ยิ่งเป็นฝ้าได้ง่าย เพราะปัจจัยอื่นที่สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้อีก เช่น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ กินยาคุมกำเนิด หรือแพ้เครื่องสำอาง รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ก็มักเกิดฝ้าบนใบหน้าได้เช่นกัน
วิธีลดเลือนและการรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
-
ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินิน
วิธีรักษาฝ้าด้วยยาทารักษาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินิน (Hydroquinone) ซึ่งถือเป็น gold standard สำหรับวงการแพทย์ผิวหนัง มีสรรพคุณลดเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สีผิวจางเมื่อทายาอย่างสม่ำเสมอ แต่ในขณะเดียวกันตัวยาที่อยู่ในครีมทารักษาฝ้านี้ จะมีผลในการทำลายที่อยู่ของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลของเม็ดสีเมลานินบนผิว และเป็นผลให้ทำให้เกิดโรคผิวด่างขาวอย่างถาวร
-
การลอกฝ้าโดยใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ (Retinoids)
วิธีการรักษาฝ้าแบบนี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับการใช้กรดผลไม้อย่าง AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) ที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ผิวชั้นนอกได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ฝ้าจางลงเพียงแค่ผิวชั้นนอกเท่านั้น ไม่ได้ไปจัดการที่ต้นตอผิวชั้นใน แถมยังทำให้ผิวแห้งและอาจเกิดการระคายเคืองได้
-
การทำเมโสหน้าใส
นอกจากการใช้ครีมรักษาฝ้าแล้ว การทำทรีตเมนต์ที่ใช้เข็มขนาดเล็กในการเจาะผ่านเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง เพื่อนำสารจำพวกวิตามิน แอนติออกซิแดนท์ และสารบำรุงผิวตัวอื่นๆ ไปยังชั้นผิวด้านใน เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึงสวยใสขึ้นภายใน 1 เดือน การทำเมโสหน้าใสมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตรงที่ต้องเจ็บตัว และอาจเกิดแผลเป็นขึ้นในใบหน้า หรืออาจเกิดการอักเสบได้ในรายที่ผิวบอบบางเป็นพิเศษ
-
การรักษาด้วยเลเซอร์
วิธีการรักษาฝ้าให้หายขาดด้วยเลเซอร์อาจเป็นวิธีการที่หลายคนคิดว่าได้ผล เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าสามารถทำให้ฝ้าสามารถหายวับไปกับตา ก็ไม่ใช่วิธีรักษาที่ถูกต้อง เพราะยิ่งรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์บ่อยเท่าไร จากฝ้าที่เคยมีสีน้ำตาลดำก็จะยิ่งกลายเป็นสีน้ำตาลดำปนกับรอยด่างเป็นวงสีขาว (บริเวณที่คิดว่าเสกฝ้าให้หายไปได้แล้วนั่นแหละ) ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอยิ่งกว่าเดิม ลักษณะแบบนี้เขาเรียกว่า ลิวโคเดอร์มา ที่ก็รักษาไม่หายเช่นกัน
-
การรักษาฝ้าทีต้นตอ โดยไม่มีผลข้างเคียง
ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าในตลาดส่วนใหญ่ บอกว่ามีสารที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นต้นตอการผลิตเม็ดสีที่ระดับใต้ชั้นผิว จึงทำให้ฝ้าจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ในความเป็นจริงผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถูกทดสอบเรื่องการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสเพียงบนผิวเห็ด ซึ่งอาจไม่มีประสิทธิภาพจริงบนผิวคน เนื่องจากไม่สามารถไปสกัดเอนไซม์ไทโรซิเนสจากผิวคนได้ จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะสามารถทำการรักษาฝ้าที่ต้นตอได้ 6. จัดการฝ้าแดด กระ จุดด่างดำใจกลางผิว เห็นผลจริง พิสูจน์ได้!
ศูนย์วิจัยไบเออร์สด๊อรฟ (Beiersdorf) สัญชาติเยอรมันที่มีชื่อเสียงมากว่า 100 ปี ได้วิจัยสารทดลองกว่า 50,000 ชนิด จนค้นพบสารลำดับที่ 630 ที่สามารถยับยั้งการทำงานของไทโรซิเนสในผิวมนุษย์ได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ สารลูมินัส630 (Luminous630®) ซึ่งเป็นสารที่มีลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำสะสมฝังลึกได้จริงใน 4 สัปดาห์ โดยไม่ทำลายเซลล์ผิวชั้นนอกรอบข้างนีเวียจึงได้นำสารดังกล่าวมาพัฒนาจนกลายเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์แก้ฝ้าแดด กระ และจุดด่างดำฝังลึก เริ่มตั้งแต่การเตรียมผิว ด้วย "นีเวีย ลูมินัส 630 ทรีทเม้นท์ เซรั่ม" แพคเกจใหม่สีขาวทองปรับสูตรใหม่เข้มข้นยิ่งขึ้น ผสานสารลูมินัส630 (Luminous630®) ทรงประสิทธิภาพกว่าสารไวท์เทนนิ่งทั่วไปถึง 10 เท่า สารเอกสิทธิ์เฉพาะของนีเวีย พร้อมทั้งผสานไฮยารูลอนเข้มข้น เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวให้ผิวดูอิ่มฟู นุ่มเด้งเพื่อเสริมประสิทธิภาพการจัดการฝ้าและจุดด่างดำอีกขั้น สามารถใช้ “นีเวีย ลูมินัส630 ดีพ สปอต ทรีทเมนท์” ทรีทเม้นท์แต้มเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณฝ้าสะสม ไม่ว่าจะเป็นฝ้าแดดฝังลึก ฝ้าหนาที่สะสมมานาน โดยมีไมโครลูมินัส630 ซึมลึกถึงระดับเซลล์ผิว ช่วยลดเลือนจุดเข้มฝ้าแดดฝังลึกถึงต้นตอ พร้อมลดการการเกิดซ้ำของฝ้าแดดปิดท้ายด้วย กันแดดสูตรเฉพาะสำหรับคนมีปัญหาฝ้าและจุดด่างดำ “นีเวีย ลูมินัส 630 ซัน โพรเทค SPF50 PA+++” ป้องกันรังสี UVA/UVB ช่วยลดเลือนฝ้าแดดและจุดด่างดำ พร้อมลดการเกิดซ้ำ ดียิ่งกว่าด้วยสูตร Oil Control ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ คุมความมันตลอดวัน ในช่วงกลางคืนหลังการใช้ทรีทเม้นท์เซรั่ม และทรีทเม้นท์เฉพาะจุดแล้ว ฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิวด้วยด้วย "นีเวีย ลูมินัส630 ไนท์ คอมเพล็กชั่น รีแพร์" เพราะกลางคืนเป็นเวลาที่ร่างกายฟื้นบำรุงเซลล์ผิว จึงเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการบำรุงผิวและกู้ผิวให้กลับมาเปล่งปลั่ง ด้วยประสิทธิภาพการทำงาน 2 ขั้นตอน จากสารลูมินัส630 ที่ตรงเข้าจัดการปัญหาฝ้าถึงเซลล์ผิวในช่วงเวลากลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดเลือนจุดเข้มฝ้าแดดฝังลึกถึงต้นตอ พร้อมด้วยประสิทธิภาพของนวัตกรรม เซลล์-แอคติเวตติ้ง ไฮยารูลอน ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น พร้อมเข้าฟื้นบำรุงเกราะป้องกันผิวสุขภาพดี เผยผิวกระจ่างใสเปล่งปลั่งทุกเช้า ผลิตภัณฑ์ทั้ง 4 ตัวในกลุ่มนวัตกรรมลูมินัส630 (Luminous630 ®) ผ่านการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ช่วยจัดการปัญหาฝ้าแดดและจุดด่างดำได้อย่างตรงจุด ให้สาวๆ มั่นใจไม่ต้องใช้รองพื้นปกปิดฝ้าและจุดดำอีกต่อไป
(Advertorial)