หลัก 7 ประการ กินให้ผอม (2)

หลัก 7 ประการ กินให้ผอม (2)

หลัก 7 ประการ กินให้ผอม (2)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลัก 7 ประการให้คนกินอย่างไรให้ผอมผ่านสายตาตอนแรกไปแล้ว อ่านแล้วลองเอาไปทดลองทำดูหรือยัง อย่าได้ใจร้อนแบบทันทีทันใด ของแบบนี้ต้องใช้ความเพียร อาศัยเวลา ให้เวลามันหน่อยกว่าที่จะสะสมไขมันมาได้เพียงนี้ต้องในเวลายาวนาน จู่ ๆ จะลดลงไปเลยก็น่าเกลียด

ตอนที่ 1 ผ่านไปแล้ว 3 ประการเรามาดูอีกสี่เรื่องที่เหลือกัน

ประการที่ 4 ลดความเค็มลง

ไม่ได้หมายถึงความเค็มในนิสัยที่ไม่เคยให้ใครกินอะไร แต่เป็นเรื่องความเค็มในอาหารที่เราจะกินเข้าไป บางท่านกินอาหารรสเค็มเสียน่ากังวล กินข้าวก็ต้องมีน้ำปลาพริก แล้วราดน้ำปลาเข้าไปหนัก ๆ หรือกินก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำปลาของแม่ค้าแทบหมดขวด

การกินเค็มมากเกินไปอย่างต่อเนื่องไม่ได้มีปัญหาเฉพาะเรื่องน้ำหนักเท่านั้น แต่ปัญหาสุขภาพโดยรวมจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่จะเรื้อรังไปมากและก่อปัญหาต่อเนื่องไม่รู้จบ ทั้งความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหลอดเลือด

การกินเค็มหมายความร่างกายจะได้รับสารโซเดี่ยมที่มากเกินไป ในร่างกายเราเป็นกระบวนการทางเคมีที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย การได้รับเกลือแร่ที่ไม่สมดุลทำให้กระบวนการต่าง ๆ ทำงานได้ไม่ดีเสียสมดุล

โซเดียมที่มากเกินไป จากการที่กินอาหารเค็มกว่าปกติทำให้เซลล์ในร่างกายบวมน้ำ เพราะโซเดียมไปดึงน้ำเข้าเซลล์มากเกินไป คนที่กินเค็มก็จะดูร่างกายอวบ ๆ บวม ๆ ไม่เพรียวเพราะเซลล์อุ้มน้ำมากเกินไป

การป้องกันด้วยการสมดุลเกลือแร่สารโปตัสเซี่ยมในอาหารพวกผลไม้ต่าง ๆ แอปเปิ้ลแตงโม ส้ม กล้วยหอม นม จะทำให้ร่างกายลดโซเดี่ยมลง เซลล์ไม่บวมน้ำ ไตก็มิต้องทำงานหนักเกินไป ไม่เสียหายจนเป็นปัญหาเมื่อแก่ตัวลง

อาหารที่ผ่านการดัดแปลงเช่น ลูกชิ้น แฮม ไส้กรอก กุนเชียง ปลาเค็ม ของดอง อาหารเหล่านี้มีโซเดี่ยมที่สูงพึงหลีกเลี่ยงอย่าได้กินเป็นประจำ ถ้างดได้ยิ่งดีต่อสุขภาพ

สาว ๆ ที่ชอบใช้สูตรกินส้มตำลดความอ้วนขอให้คิดทบทวนเสียใหม่ เพราะว่าส้มตำนั้นมีความเค็มจากเครื่องปรุงมาก การกินส้มตำทำให้ร่างกายบวมน้ำ และน้ำชอบไหลลงสู่ที่ต่ำ ทำให้คนที่ชอบกินส้มตำรสจัด ๆ จะมีสัดส่วนด้านล่างจากเอวดูใหญ่กว่าด้านบน สาว ๆ ควรระวังอย่างยิ่ง

ประการที่ 5 ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

เราได้ยินแล้วมาท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทองว่าดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้วหรือให้ได้วันละ 2 ลิตร แต่แท้จริงแล้วเราได้น้ำเข้าสู่ร่างกายจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะจากน้ำดื่มโดยตรง เครื่องดื่มต่าง ๆ อาหารที่มีน้ำมากเช่นน้ำแกง น้ำซุป รวมถึงผลไม้อุดมน้ำที่บ้านเรามีมากและราคาถูก

แต่เชื่อไหมว่าคนส่วนมากจะมีนิสัยที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือบางทีหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเครื่องดื่มบางอย่างคือการเติมน้ำเข้าร่างกายแต่แท้จริงเป็นการเอาน้ำออกจากร่างกาย เช่นการดื่มชา กาแฟ ที่จะขับน้ำออกจากร่างกาย

น้ำในร่างกายเป็นตัวที่ทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพการดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้ร่างกายมีการเผาผลาญต่ำกว่าปกติ แต่ละคนต้องการน้ำที่ไม่เท่ากันตามร่างน้ำหนักและรูปร่างของแต่ละคน เฉลี่ย 2-3 ลิตรต่อคนต่อวัน

เครื่องดื่มที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายคือน้ำเปล่า ไม่ใช่เครื่องดื่มใด ๆ ที่มีราคาแพงหรือดื่มแล้วดูดีตามแรงโฆษณา สิ่งน่าหลีกเลี่ยงมากที่สุดสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ได้แก่กลุ่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน บรรดากาแฟเย็น ชาเย็น หรือน้ำผลไม้ที่แต่งกลิ่นแต่งรสหวานเกินธรรมชาติ

ประการที่ 6 ควรมีผักผลไม้ ทุกมื้ออาหาร

การกินให้ครบห้าหมู่เป็นทฤษฏีหลังสงครามโลกที่ผู้คนอดอยากขาดอาหาร จึงต้องกำหนดให้กินให้ครบทั้งแป้ง ไขมัน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ แต่มาถึงปี 2000 คนที่อยู่ในเมืองใหญ่ไม่ได้กินไม่ครบ หากแต่กินเกินไปมากในบางส่วน เช่น พวกแป้ง ไขมัน และโปรตีน แต่กลับขาดวิตามินและเกลือแร่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากในร่างกาย

การกินผักผลไม้ทำให้ร่างกายได้วิตามินและเกลือแร่อย่างพอเพียง สิ่งสำคัญสำหรับคนกินแล้วผอมคือ ผักผลไม้มีกากใยที่ทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำคอยช่วยดูดซับไขมันที่กินเข้าไป กากใยของผลไม้หรือผักสดช่วยปิดกั้นห่อหุ้มแป้งและน้ำตาลเอาไว้ ไม่ทำให้น้ำย่อยเข้าไปย่อยแป้งที่กินเข้าไปได้เร็ว เมื่อย่อยช้า ก็ดูดซึมช้า ไม่ทำให้อ้วน

แต่ต้องหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวาน หรือผักผลไม้ที่มีกากใยน้อย เพราะถ้ากากใยน้อยก็เหมือนไม่มีฉนวนคอยหุ้มแป้งหรือไขมันป้องกันน้ำย่อย ร่างกายก็ย่อยได้เร็ว ดูดซึมเร็ว เมื่อเอาไปใช้ไม่ทันก็เก็บสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน พอกหนาตามหน้าท้อง หน้าขา

ประการที่ 7 ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

เป็นเรื่องที่น่าจะทรมานใจคุณ ๆ ที่อยากมีน้ำหนักลดลง ยอมที่จะทำอะไรหลายอย่าง ทั้งอดทั้งหยุด แต่ขอไม่ออกกำลังกายได้ไหม คำตอบคือว่า ไม่ได้

การได้ออกกำลังกายทำให้ร่างกายเร่งการเผาผลาญได้ดีมากขึ้น อย่าลืมว่าวัยที่เราเพิ่มสูงขึ้น หน้าที่การงานที่เปลี่ยนไป ทำให้การเผาผลาญในร่างกายลดน้อยถอยลง หากเรายังอร่อยเท่าเดิม บอกได้เลยว่า ทั้ง 6 ประการที่ผ่านมาไม่สามารถทำให้คุณพอใจกับรูปร่างของคุณได้อย่างแน่นอน

การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการที่ไปวิ่งครั้งละ 30-40 นาที หรือไปฟิตเนสครั้งละ 2-3 ชั่วโมง ถ้าคุณมีเวลาดูละครได้ คุณก็มีเวลาออกกำลังกายได้ ไม่ต้องมาก ให้ได้ต่อเนื่อง 15 นาทีต่อวัน ทุกวัน ทำเป็นนิสัยเหมือนอาบน้ำแปรงฟัน

ก่อนออกกำลังกาย ถ้าจัดการได้ให้กินโปรตีนเบา ๆ จะเป็นเนื้อปลา หรือปลาทูน่ากระป๋อง หรือว่าพวกโปรตีนในรูปอาหารเสริมที่ควรปราศจากน้ำตาล เพราะร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ทันที และไปสร้างเป็นกล้ามเนื้อในการเผาผลาญได้ดีมากขึ้น

การออกกำลังกายช่วงไหนก็ดีทั้งนั้น ถ้าคุณสามารถจัดเวลาได้ แต่ถ้าเลือกได้ ให้เลือกเป็นช่วงเช้า เพราะจะทำให้การเผาผลาญในร่างกายถูกกระตุ้นและทำงานต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน ไม่เชื่อลองสังเกตดูว่าถ้าคุณได้เสียเหงื่อในตอนเช้า แม้จะกินมื้อเช้ามาเพียงพอ แต่คุณจะหิวเร็วกว่าปกติ ซึ่งก็ดีที่คุณจะมีมื้อเช้าและกลางวันที่หนัก ก่อนที่จะไปลดระดับลงในมื้อเย็น

บทบัญญัติทั้ง 7 ประการถือว่าเป็นแนวทางเบื้องต้นให้คุณได้ไปลองปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง ถ้าทำได้อย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เพิ่มความเข้มข้นขึ้นตามแรงปรารถนาของคุณ รับรองได้ว่า คุณต้องมีสุขภาพดีแน่นอน แม้ไม่ผอมอย่างที่อยากได้ แต่หุ่นสวยแตกต่างจากคนรอบข้างที่ไม่เอาจริงเอาจัง หรือยังใช้ทฤษฏีเดิม ๆ ในการลดน้ำหนัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook