หลักในการเลือกซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพ
เท้าเป็นอวัยวะที่ทำงานหนัก การเดินแต่ละก้าวนั้นต้องรับน้ำหนักมหาศาล โดยทั่วไปแล้วคนเราจะเดินอยู่ที่ 4 ชั่วโมง หรือประมาณ 8,000-10,000 ก้าวต่อวัน แรงดันและน้ำหนักที่เท้าของเราต้องรองรับนั้นโดยรวมอยู่ที่หลักร้อยตันต่อวันเลยทีเดียว ไม่น่าแปลกใจหลายๆ คน พออายุเริ่มมากขึ้นก็จะเริ่มรู้สึกปวดหลัง ปวดเข่า ปวดเท้า ยิ่งใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะส่งผลเรื้อรังต่อไปอีก
รองเท้าเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันมีอยู่หลายยี่ห้อทั้งที่ผลิตในไทยและต่างประเทศ ราคาก็แตกต่างกันไป คนส่วนใหญ่เวลาใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพมักจะบอกว่าใส่แล้วเดินสบาย ไม่เมื่อยเท้า แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง จะเลือกซื้ออย่างไรถึงจะเรียกว่าสมเหตุสมผล วันนี้มีหลักในการพิจารณารองเท้าเพื่อสุขภาพมาฝากกันค่ะ
1. รองรับรูปเท้า สัมผัสนุ่มสบาย
เนื่องจากเท้าเป็นอวัยวะที่ต้องรองรับน้ำหนักและแรงกดจากหัวเข่า สะโพก หลัง และขา รองเท้าที่ดีควรรองรับความโค้งงอของเท้า ทำให้รู้สึกสบายขณะเดิน สัมผัสที่นุ่มสบายนั้นจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของ ขา หลัง และ ส้นเท้าได้ ผู้ที่มีปัญหาปวดเท้าควรเลือกรองเท้าส้นเตี้ย หรือรองเท้าแตะที่มีพื้นนิ่ม มีหน้ารองเท้ากว้าง เพื่อลดการเบียดเสียดของเท้า
2. ปุ่มนวดกดจุด รองเท้าเพื่อสุขภาพบางยี่ห้อจะมีปุ่มนวดกดจุด หรือปุ่มนูนที่พื้นรองเท้า ช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
3. วัสดุทนทาน รองเท้าที่ดีควรทำจากวัสดุที่มีการรับประกันคุณภาพ มีความทนทาน และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ช่วยระงับกลิ่นเท้าและระบายอากาศได้ดี ในขณะเดียวกันก็ต้องมีความนิ่มสบาย ยืดหยุ่น มีคุณสมบัติกันลื่น เพื่อให้ผู้สวมใส่ก้าวเดินได้มั่นคง ไม่ล้มง่าย
4. รักษ์โลก รองเท้าที่ดี นอกจากจะดีสำหรับผู้สวมใส่แล้ว ควรเป็นรองเท้าที่ดีสำหรับโลกของเราด้วย ปัจจุบันมีรองเท้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล และสามารถนำเข้ากระบวนการผลิตและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ไม่มีเศษทิ้งในการผลิต และยังเป็นเพื่อนและมิตรที่ดีกับต้นไม้
การเลือกรองเท้านอกจากจะต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพแล้ว แฟชั่นและความสวยงามก็มีความสำคัญ รองเท้าที่มีสีสัน รูปแบบที่ทันสมัย กะทัดรัด จะช่วยให้เสริมบุคลิกให้กับผู้สวมใส่ได้เช่นกัน
เท่อย่างมีสไตล์กับ Okabashi รองเท้านำเข้าจากUSA ใส่นุ่ม เบา สบายเท้า โดดเด่นด้วยดีไซน์และสีสันโดนๆ เพียง ฿1,300 พร้อมส่งฟรี! (ปกติ ฿1,800)