"เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน" เตรียมตัวและดูแลอย่างไร?
ก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- ศึกษาเรื่องการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้เยอะๆ และตรวจเช็คสภาพร่างกายของตัวเองให้ดี ว่าถ้าหากทำออกมาแล้วจะมีผลข้างเคียงอื่นๆ ตามมาหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด
- เลือกโรงพยาบาลหรือคลินิก ที่มีความน่าเชื่อถือในการทำศัลยกรรมหน้าอก รวมถึงอาจจะต้องเลือกแพทย์ที่จะมาผ่าตัดหน้าอกด้วย โดยในกรณีนี้อาจจะประเมิน หรือทำการเช็คประวัติของแพทย์ร่วมด้วย ว่ามีใบรับรองหรือไม่ มีประสบการณ์ในการผ่าตัดมากน้อยแค่ไหน แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เป็นต้น
- ปรึกษากับแพทย์ผู้ที่จะทำการผ่าตัดให้ ว่าจะวางแผนการศัลยกรรมหน้าอกอย่างไรบ้าง ซึ่งก่อนอื่นก็ต้องบอกถึงความต้องการของตัวเองด้วย ว่าเราเองอยากจะได้ขนาด ชนิด รูปทรง ผิวสัมผัสของซิลิโคน เป็นแบบไหน เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันระหว่างแพทย์และตัวเอง รวมถึงเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาจะได้เป็นที่พึงพอใจ ซึ่งในขั้นตอนนี้ก็จะมีการวัดรอบอก ออกแบบ และจำลองภาพก่อน-หลังผ่าตัดให้ดูด้วย
- นัดวัน-เวลา ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 1 เดือน งดทานอาหารที่ไม่สุก และงดบุหรี่ หรือยาที่มีส่งผลกระทบต่อโรคความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ
- งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ควรอาบน้ำสระผมมาให้เรียบร้อย
- งดหรือหยุดการทานวิตามินอี น้ำมันตับปลา สมุนไพร และอาหารเสริมทุกชนิด 1 สัปดาห์
ประเภทผิวสัมผัสของซิลิโคน
- ผิวเรียบ ซิลิโคนรูปแบบนี้เป็นที่นิยมมากในผู้หญิง เพราะมีราคาที่ถูกและปลอดภัย (แต่ราคาก็จะแพงขึ้นตามซีซีที่เพิ่มขึ้นด้วย) ด้านข้อเสียคือ ต้องหมั่นดูแลและนวดหน้าอกอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่เกิดผังผืด อีกทั้งซิลิโคนแบบผิวเรียบ ยังสามารถเคลื่อนที่ไปมาได้ง่าย เวลาที่สัมผัสจึงจะรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่นัก
- ผิวทราย ซิลิโคนนี้จะมีพื้นผิวที่มีความหยาบคล้ายกระดาษทราย ซึ่งซิลิโคนแบบผิวทราย จะมีราคาที่แพงกว่าซิลิโคนแบบผิวเรียบ เพราะมีสมบัติการยึดติดหน้าอกได้ดี ไม่ไหลไปไหลมา จึงทำให้เวลาที่สัมผัสจะรู้สึกว่าหน้าอกเป็นธรรมชาติมากกว่า
รูปทรงของซิลิโคน
ทรงกลม ดีกว่าทรงกลมในคนที่ทุนเดิมมีน้อย คือเนื้อนมมีน้อย กลุ่มนี้ถ้าใส่ทรงกลมจะดูไม่สวย เพราะจะเห็นชัดว่ากลมเป็นของเทียม การใส่หยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติมากกว่า ไม่ต้องนวดเลยหลังผ่าตัด สามารถใส่ได้ทั้งทางรักแร้ และใต้ราวนม
ทรงหยดน้ำ เหมาะกับคนที่มีเนื้อนมอยู่บ้าง ในปริมาณซีซีที่เท่ากัน จะดูใหญ่กว่าใส่ทรงหยดน้ำ เวลาผ่าตัดทำง่ายกว่า เสร็จเร็วกว่า ค่าผ่าตัดจึงถูกว่า หลังผ่าตัดต้องการการดูแลเช่นนวดเต้านม จัดให้เข้าทรง
แผลผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก
แผลใต้ราวนม ข้อดีคือปวดน้อยกว่า ไม่ต้องใส่สายระบายเลือด โอกาสเกิดผังผืดน้อยกว่า จัดทรงได้สวยกว่า พักฟื้นสั้นกว่าและหายไว ข้อเสียคือมีแผลบริเวณหน้าอก และจะเห็นได้ชัดเวลานอน แผลต้องดูแลมากเป็นพิเศษ เนื่องจากแผลมีโอกาสเป็นคีรอยด์ ได้มากกว่าการผ่าตัดใต้รักแร้
แผลรักแร้ ข้อดีคือไม่มีแผลบริเวณหน้าอกให้ต้องกังวล โอกาสเป็นคีรอยด์มีน้อย ข้อเสียคือมีอาการปวดหลังผ่าตัด และอาจจะต้องใส่สายระบายเลือด และจะไม่นิยมใช้วิธีนี้ ในกรณีที่เป็นการผ่าตัดแก้ ในบางรายอาจมีการเกิดผังผืด
วิธีดูแลตัวเอง หลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก
- ในวันที่ทำการศัลยกรรมหน้าอกควรมีญาติมาด้วย หรือหลังเข้ารับการผ่าตัดเสร็จควรมีญาติมารับกลับ
- เตรียม Support Bra มาในวันนัดดูแผลอีก 1-2 วันหลังวันผ่าตัด
- 3 วันแรกห้ามแกะผ้าพันหน้าอกออกเด็ดขาด
- แผลผ่าตัดห้ามโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม ดังนั้นจึงควรระมัดระวังให้ดี
- รับประทานยาแก้ปวด แก้อักเสบ และยาอื่นๆ ตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
- งดอาหารหมักดอง อาหารทะเล เหล้า บุหรี่ แอลกอฮอล์ทุกชนิด ของแสลงทุกชนิด (สามารถกินไข่ได้)
- นัดตัดไหม 14 วันหลังผ่าตัด
- ใส่เสื้อชั้นในไม่มีโครงลวดเท่านั้น เพื่อพยุงทรงเต้านมไว้ตลอด ห้ามโนบาร์ ห้ามใส่บราปีกนกโดยเด็ดขาด
- อาจมีอาการชาหรือเจ็บแปลบ บริเวณหน้าอกได้ซึ่งเป็นอาการปกติ
- ปฏิบัติตามข้อความข้างต้นอย่างเคร่งครัด หากมีข้อสงสัยใดให้สอบถามจากแพทย์
สำหรับราคาในการทำศัลยกรรมหน้าอก จะขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก แต่ละโรงพยาบาล อีกทั้งยังรวมถึงแต่ละแพทย์ที่จะทำการผ่าตัดในด้วย หากเป็นศัลยแพทย์ที่มากประสบการณ์และเชี่ยวชาญ ก็จะมีราคาที่สูง ประกอบกับประเภทซิลิโคน และวิธีการผ่าตัดที่เลือกด้วย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วการทำศัลยกรรมหน้าอก จะเริ่มต้นที่ประมาณ 50,000 บาท