รองเท้า กับปัญหาสุขภาพ ที่แก้ไขได้
รู้หรือไม่ว่า เท้าของเราประกอบไปด้วยกระดูกชิ้นเล็ก ๆ 26 ชิ้น รวมเป็น 52 ชิ้น ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ของกระดูกทั้งหมดในร่างกาย มีข้อต่อทั้งหมด 38 ข้อ กล้ามเนื้อ 31 มัด และเส้นเอ็นทั้งหมด 107 เส้น ด้วยส่วนประกอบที่มากมายขนาดนี้ เป็นเหตุให้สามารถรับน้ำหนักในร่างกายเราได้ทั้งหมด รับแรงขณะเดินได้ถึง 120 % ของน้ำหนักตัว และ 275 % ขณะวิ่ง และประมาณได้คร่าว ๆ ว่าชั่วชีวิตคนเรานั้นใช้เท้าเดินเป็นระยะทางเฉลี่ยถึง 120,000 -160,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง รองเท้าจึงถูกผลิตขึ้นมาเพื่อช่วยรองรับน้ำหนัก คอยปกป้องเท้าเราจากอันตราย สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รวมไปถึงยังเป็นเครื่องประดับช่วยปรับบุคลิกของเราได้อีกด้วย
รองเท้าส้นสูง เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นของสาวยุคใหม่ ที่นอกจากช่วยเสริมความสูงให้กับสาวตัวเล็กกันแล้ว ยังทำให้บุคลิกดีขึ้นอีกด้วย แต่การใส่รองเท้าที่สูงเกินไป หรือเลือกขนาดไม่พอดีกับเท้าเรา อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเท้าเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ เช่น
นิ้วเท้าเก เกิดจากการใส่รองเท้าที่คับเกินไปหรือรองเท้าส้นสูงหัวแหลมที่แคบกว่าขนาดเท้าจริง เมื่อน้ำหนักเทไปด้านหน้ายิ่งทำให้เกิดการบีบรัด จนนิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วก้อยผิดรูปไป ส่งผลให้นิ้วเท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ตามปกติ ฝ่าเท้าบริเวณนิ้วชี้ถึงนิ้วก้อยจึงต้องทำหน้าที่แทน ทำให้เจ็บบริเวณฝ่าเท้า และหากเกิดการบีบรัดเป็นเวลานาน จะทำให้เส้นประสาทถูกกดจนเกิดอาการชาและมีอาการปวดร่วมด้วย
เท้าด้าน เกิดจากการกดทับมาก ๆ และการเสียดสี หนังด้านบริเวณด้านข้างของนิ้วหัวแม่เท้าและนิ้วก้อยมักเกิดจากการใส่รองเท้าหน้าแคบ ส่วนด้านบริเวณฝ่าเท้ามักเกิดจากการใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้ฝ่าเท้าต้องรับน้ำหนักมากผิดปกติ มักพบร่วมกับการปวดฝ่าเท้าด้านหน้า หากเป็นมากอาจเกิดตาปลาตามมาได้
ปวดหลัง การใส่รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่บีบรัดจนเดินไม่ถนัดจะส่งผลให้กล้ามเนื้อหดเกร็ง รวมถึงบริเวณสะโพก และหลังจนอาจมีอาการปวดเรื้องรังซึ่งกระทบต่อเส้นประสาทได้ในระยะยาว
แก้ปัญหา รองเท้าดี สุขภาพเท้าก็ดีด้วย
เคล็ดลับในการเลือกซื้อรองเท้าง่าย ๆ ที่จะได้รองเท้าที่ช่วยให้สุขภาพเท้าดี และเหมาะกับตัวเอง
1.ลดขนาดส้น รองเท้าส้นสูง ที่ไม่สูงเกินไป เต็มที่ควรอยู่ที่ 4.5 เซนติเมตรจากพื้นสำหรับผู้หญิง และ 3.5 เซนติเมตรสำหรับชาย ถ้ามากกว่านี้อาจเป็นอันตรายต่อเท้าของเรา การลดขนาดส้นมาใส่ส้นเตี้ยที่มีพื้นนิ่มแทนจะดีกว่า แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ไม่ควรใส่เกิน 2-3 ชั่วโมง และพักเท้าเป็นระยะในท่าสบาย ๆ ให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อและหญิงมีครรภ์ งดใส่อย่างเดียว
2.ลองทุกครั้งก่อนซื้อ ก่อนตัดสินใจซื้อควรลองก่อนทุกครั้ง เดินไปมารอบร้านเพื่อดูว่าใส่สบายหรือไม่ ควรเลือกขนาดให้ส้นเท้าของเราชิดกับส้นรองเท้าพอดี หลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีตะเข็บแข็งเพราะจะกัดเท้าได้ง่าย และทำให้เราต้องเดินเกร็งน้ำหนักผิดส่วน
3.เลือกรองเท้าช่วงบ่าย เพราะเป็นช่วงที่ขนาดเท้าของเราขยายเต็มที่จากการเดิน หรือนั่งห้อยขา ของเหลวต่าง ๆ ในร่างกายจะไหลลงเท้ามากขึ้นทำให้เกิดการคั่งและบวม รวมถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้เท้าเราขยายตัวเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อรองเท้าในช่วงนี้จะช่วยทำให้ได้รองเท้าในขนาดที่พอดีกับเท้าเรามากขึ้น
4.หลวมนิดก็ดี หากต้องการที่เผื่อไว้สำหรับอุปกรณ์เสริมอย่างแผ่นรองเท้า แผ่นกันรองเท้ากัด ฯลฯ ควรเลือกรองเท้าที่หลวมกว่าขนาดเท้าจริงซักนิด เมื่อเสริมอุปกรณ์เสริมเข้าไปแล้วจะได้ใส่ลงตัวพอดิบพอดี
เท้าเป็นอวัยวะที่สำคัญกับร่างกายเรามาก เพราะฉะนั้นการดูแลและถนอมเท้าคุณได้ง่าย ๆ แค่เอาใจใส่เท่านั้นเอง
ที่มา Never-age