รับมืออย่างไรเมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานไม่ปกติ
ในปัจจุบันนี้ที่สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยมลภาวะมากมาย โรคภัยต่างๆ ก็มักจะวนเวียนอยู่รอบตัวเราด้วย และโรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ก็เป็นอีกโรคที่เราควรต้องระวัง เพราถ้าหากชะล่าใจปล่อยทิ้งไว้ อาจเสี่ยงถึงขั้นหัวใจล้มเหลว หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เลยทีเดียว
หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หิวบ่อย ทานจุ น้ำหนักลดฮวบแม้ทานอาหารมากขึ้น ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง คอมีขนาดโตขึ้น ตาโปน นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้ต่อมไทรอยด์กำลังทำงานผิดปกติ ซึ่งหากตรวจพบแต่เนิ่นๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้ หลายคนคงยังไม่ค่อยรู้เกี่ยว ไทรอยด์ มานัก เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่า ไทรอยด์ เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากต่อมไทรอยด์ซึ่งเป็นต่อมที่มีลักษณะคล้ายผีเสื้ออยู่บริเวณด้านหน้าหลอดลม ใต้ลูกกระเดือก เคลื่อนที่ขึ้นลงตามการกลืน
โดยฮอร์โมนไทรอยด์นั้นจะทำหน้าที่กระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และมีผลต่อการทำงานของระบบต่างๆ ของร่างกาย ทั้งสภาพอารมณ์ จิตใจ การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติ รวมทั้งการเจริญเติบโต สติปัญญา และพัฒนาการในเด็ก หากไทรอยด์ฮอร์โมนมีการทำงานมากเกินไป จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญพลังงานเร็วมากผิดปกติซึ่งส่งผลให้เหนื่อยง่าย ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว หิวง่ายทานจุแต่น้ำหนักลดเร็ว โดยเราจะเรียกภาวะการทำงานผิดปกติชนิดนี้ว่า "โรคไทรอยด์เป็นพิษ" สาเหตุหลักของโรคนี้ก็เกิดจากร่างกายของคนเราสร้างภูมิคุ้มกันไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ทำงานมากขึ้นหรือที่เรียกว่าโรค Grave's Disease ส่วนสาเหตุอื่นๆ ก็อาจเกิดจากการอักเสบของต่อมไทรอยด์ หรือการได้รับฮอร์โมนไทรอยด์จากแหล่งอื่น เช่น รับประทานยา หรืออาหารที่มีฮอร์โมนไทรอยด์เป็นองค์ประกอบ หรือจากเนื้องอกไทรอยด์ชนิดเป็นพิษ (Toxic nodular goiter) เป็นต้น ปัจจุบันพบว่าคนไทยร้อยละ 1- 3 ผู้ป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
นอกจากนี้ยังมีภาวะการทำงานผิดปกติอีกชนิดหนึ่งของต่อมไทรอยด์ที่พบว่ามีอาการตรงกันข้ามกับโรคไทรอยด์เป็นพิษก็คือ "ไทรอยด์ทำงานต่ำเกินไป" ซึ่งเป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมาได้น้อยกว่าปกติทำให้มีการเผาผลาญในร่างกายน้อยลงผิดปกติ ส่งผลให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย อ่อนเพลีย เชื่องช้า รู้สึกง่วงนอน เฉื่อยชาไม่กระฉับกระเฉง ขี้ลืม ประจำเดือนมามากผิดปกติ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ เสียงแหบ ผิวแห้ง ใบหน้าเปลือกตา หรือมือเท้าบวม ซึมเศร้า ชีพจรเต้นช้า ถ้าเป็นมากอาจพบภาวะหัวใจวาย น้ำท่วมปอด สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากร่างกายสร้างสารขึ้นมายับยั้งการทำงานของไทรอยด์ทำให้ไทรอยด์ทำงานน้อยลง สาเหตุอื่นที่พบ ได้แก่ การขาดสารไอโอดีน การอักเสบเรื้อรังของต่อมไทรอยด์ การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ การได้รับยาต้านไทรอยด์มากเกินไป การกลืนน้ำแร่รังสีไอโอดีน และโรคขาดฮอร์โมนไทรอยด์แต่กำเนิด
วิธีการรักษาโดยทั่วไปมีทั้งการรับประทานยาเพื่อลดการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งผู้ป่วยมักต้องทานยาต่อเนื่องประมาณ 24-36 เดือน หรือจะเป็นการดิ่มน้ำแร่รังสีไอโอดีน และการผ่าตัด นายแพทย์ณัฐนนท์ มณีเสถียร อายุรแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึ่ม แนะนำว่า "สำหรับผู้ที่เป็นโรคไทรอยด์ทำงานผิดปกตินั้นควรงดสูบบุหรี่ เพราะบุหรี่จะทำให้อาการทางตารุนแรงมากขึ้น เช่น ตาโปนขึ้น ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มบำรุงกำลังหรือคาเฟอีน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะมากขึ้น ควรงดออกกำลังกายหนักในช่วงแรกของการรักษา โรคไทรอยด์เป็นพิษ เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาหรือปรับขนาดยาเอง เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากยาและทำให้รักษาหายยากขึ้น" ในกรณีที่รักษาหายขาดแล้วควรมีการติดตามระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เนื่องจากอาจมีโอกาสกลับเป็นซ้ำหรือเกิดภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำได้
อย่างไรก็ตามเราควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง หมั่นสังเกตร่างกายตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และถ้าพบว่าตัวเองมีอาการผิดปกติไปจากเดิม เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น กินจุแต่น้ำหนักลด ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจแต่เนิ่นๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณที่เตือนเราได้ว่าตอนนี้ต่อมไทรอยด์ของเรากำลังทำงานไม่ปกติ
ขอบคุณข้อมูลจาก
นายแพทย์ณัฐนนท์ มณีเสถียร
อายุรแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึ่ม โรงพยาบาลกรุงเทพ