บทเรียนที่ควรรู้ก่อนจัด งานแต่งงาน
ขอนำเอาข้อมูลอ้างอิง การจัดงานแต่งงาน ที่เก็บรวบรวมจากคู่บ่าว-สาว ที่ผ่านมา นำมาเล่าเรื่องราวข้อผิดพลาดจากการจัดงานแต่งงาน ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ผู้อ่านนำไปเป็นประสบการณ์ นำไปปรับใช้แก้ไข เพื่อป้องกัน หรือให้เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ให้น้อยที่สุด เพื่ออะไรเหรอ ??
ก็เพื่อในเมื่องานเสร็จสิ้น คู่บ่าว-สาว จะได้ไม่นั่งช้ำใจเมื่องานจบ อย่าลืมนะค่ะ งานผ่านไปแล้วจะมาย้อนเวลากลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว ตานี้เรามาดูกันดีกว่าจะปัญหาที่น่าจะเกิดขึ้น กับงานแต่งงาน นั้นมีอะไรบ้าง
1. เรื่องของใบสัญญาในการจองแพคเกจแต่งงาน
การเช่าตัดชุดวิวาห์ ควรอ่านสัญญาให้ครบถ้วนถึงราคาเช่าตัดนั้น ได้รวมค่าลูกไม้ หรืออื่น ๆ อีกหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจโดน บวกค่าลูกไม้ตกแต่ง หรือ คิดค่าแรงปักเลื่อม เพิ่มเติมอีก เพราะฉะนั้น ก่อนเขียนสัญญาควรอ่านให้ละเอียด และสอบถามเรื่องนี้เพิ่มเติมจะเป็นการดีที่สุด
การวางเงินประกันชุดวิวาห์ บางครั้งไม่มีการตกลงในเรื่องนี้ พอทำสัญญากันเสร็จสิ้นทางร้านจะมีการขอเงินประกันชุด ในการใส่วันงานเพิ่มอีก เรื่องนี้ ถึงแม้ว่าทางร้านจะคืนเงินประกันชุดให้ในวันคืนชุด ก็ตาม แต่บางครั้งก็เสียความรู้สึกอยู่ลึก ๆนะค่ะ
2. เรื่องของช่างแต่งหน้าวันงาน
ราคาไม่ได้เป็นตัวบอกฝีมือเสมอไป บางทีช่างที่ราคาไม่แพงอาจจะแต่งสวยก็ได้ ทั้งนี้ถ้าเป็นไปได้มีเวลา ก็ไปดูผลงาน ของช่างที่ร้าน หรือผลงานจากภาพถ่าย หลาย ๆ ท่านก่อนตัดสินใจ ช่างบางคนมีความชำนาญด้าน การแต่งหน้าเพียงอย่างเดียว แต่เกล้าผมไม่เก่ง หรือไม่ชำนาญพอ คุณควร พิจารณาสอบถาม และ ดูผลงานก่อน ส่วนเรื่องทรงผมและดอกไม้ประดับผม ต้อง confirm ให้แน่นอน ว่าเราอยากได้แบบไหน ติดดอกอะไร ถ้าแยกช่างแต่งหน้า กับช่างทำผม ควรจะตกลงกับช่างทำผมโดยตรง ด้วยตนเองจะดีกว่า พอถึงวันจริงก็ควรนัดช่างก่อนเวลา 3 - 4 ชม. ก่อนเริ่มพิธี เพราะเชื่อหรือไม่ว่า การแต่งหน้า ทำผม ค่อนข้างใช้เวลามาก ถึงจะได้ ผลงานที่ปราณีต อย่าคิดว่าช่างที่มีฝีมือดี ๆจะแต่งหน้าได้เร็วนะค่ะ นั่นเป็นเพราะเค้ารีบทำรีบจบงานให้ไว ๆ มากกว่า ส่วนฝีมือนั้นถ้าดูกันผิวเผินแล้ว คนธรรมดา ๆ อย่างเรา ๆ ที่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องการแต่งหน้าอาจจะดูไม่ออกก็ได้ การรักษาเวลาของ ช่างแต่งหน้าทำผม และตัวเจ้าสาวเองเป็นสิ่งที่สำคัญ โปรดอย่ามองข้าม เรื่องนี้ เพราะจะได้ มีเวลาแก้ไข ประดิษฐ์ประดอย อย่างสบายใจ ไม่ต้องทำแบบฉุกละหุก และทำสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาของ ช่างแต่งหน้ารับงานซ้อนเป็นเรื่องที่ควรทำความเข้าใจ กับช่างแต่งหน้าก่อน ในเรื่องของการรักษาเวลาดังนั้นคุณควรขอเบอร์ช่างผมโดยตรงไว้เลยเพื่อความแน่นอน
กรณีที่ต้องไปแต่งหน้าทำผมที่สตูดิโอ ควรเผื่อเวลาเดินทาง เผื่อเวลารถติด รวมทั้งเผื่อเวลา ที่ต้องไปนั่งรอคิวแต่งหน้าที่สตูดิโอ ให้ดี ๆ นะค่ะ ออ.! แล้ว อย่าลืมเผื่อเวลาตอนเดินทางกลับ มาที่สถานที่จัดงานด้วยถ้าบริหารเวลาผิดพลาด เกิดมาสายเกินกำหนดเวลา 1 - 2 ชั่วโมง ไม่อยากจะคิดเลยว่าจะเป็นอย่างไร
3. เรื่องของดอกไม้ประดับผมเจ้าสาว
อย่าเชื่อใจการรับปากของช่างแต่งหน้า+ทำผม เรื่องของดอกไม้ประดับผม เพราะท่านอาจโดนข้อแก้ตัวมาตราฐานเมื่อ ถึงวันจริง ว่า " หาดอกไม้ตามที่ต้องการไม่ได้ เพราะไม่มีขาย หรือว่าขาดตลาด เลยเอาดอกไม้...?..... มาแทน " ถามว่าถ้าโดนคำตอบแบบนี้ ประกอบกับเวลาที่บีบมาเรื่อย ๆ คุณจะมีเวลาที่ไหนมาหาดอกไม้ประดับได้ตามทีตัวเองชอบ ทางออกที่ดีที่สุดคือตกลง เฉพาะราคาค่าแต่งหน้าทำผม ส่วนดอกไม้ทำผมให้คิดแยกออกต่างหาก แต่ถ้าคู่บ่าวสาวไม่คิดมากกับ เรื่องนี้ หรือ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากนัก ก็คงไม่มีอะไรน่าซีเรียส
4. เรื่องของช่างภาพ ช่างถ่ายภาพวันงาน
ควรกำหนดให้ช่างภาพมาก่อนเวลา เพื่อเก็บภาพบรรยาศก่อนแขกเดินทางมาถึง และคู่บ่าวสาวได้มีเวลา ถ่ายรูปส่วนตัวก่อน เคยมีหลายคู่ที่ พลาดโอกาสได้ถ่ายรูปส่วนตัว ในสถานที่จัดงาน หรือในบรรยากาศสวย ๆ ในสวนของโรงแรม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
การทำความเข้าใจกับช่างภาพ ถึงรูปแบบรูป ที่คุณอยากให้เป็น เช่นอยากให้มีภาพบรรยากาศหน้างาน ในงานแค่ไหน เน้นภาพคู่มาก น้อยแค่ไหน บางครั้งได้ภาพ คู่บ่าวสาวมากเกินไป หรือ ได้ภาพเดียว ๆ มากกว่า มีภาพของแขกเหรื่อ มากเกิน ภาพออกมาดีมีแต่รูปเจ้าบ่าว เจ้าสาวเสียดายที่ถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ่าวน้อยไปบางภาพเจ้าบ่าวดูดีเจ้าสาวดูไม่ดีเท่าไหร่ เลยมีรูปให้เลือกน้อย ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะขยายรูปไหนดี รูปที่ดีก็ดันถ่าย กับญาติ ๆ อะไรจำพวกนี้ ตกลงกับช่างภาพให้ดี รูปที่เราอยากให้ช่างถ่ายรูปในงาน เป็นแบบใด เช่นเอารูปจับมือ เอารูปเดินมาแบบนี้นะ เอารูปเผลอ ๆ ประมาณนี้นะ เอารูปของแต่ง เช่น เทียน ดอกไม้ พาน ของชำร่วย ถ่ายเราจากฯลฯ เพราะบางที ไม่ได้ทำความเข้าใจ กับช่างภาพ ก็ถ่ายไปเรื่อย ผลพอล้างภาพออกมา ก็อาจจะได้ผลงานที่หงุดหงิดหัวใจ เจ้าภาพได้เหมือนกัน
หาโอกาสถ่ายภาพกับครอบครัวไว้ก่อน คือควรจะถ่ายรูป กับคุณพ่อคุณแม่และครอบครัว ไว้ก่อนเริ่มงาน เพราะเมื่อแขกมากันแล้ว โอกาสถ่ายไม่มีแล้วค่ะ พ่อแม่ก็ต้องดูแลรับแขกของท่าน (ซึ่งอาจจะมากกว่าแขก เราเองอีกค่ะ ) จะได้ไม่เกิดปัญหาพองานจบมานั่งดูรูป เกิดไม่มีเฉพาะที่ถ่ายในครอบครัวตัวเองเลย หรือท่ามี ก็จะ มีรูปคนอื่นมาแจมอีก มันก็จะเสียโอกาสตรงนี้ไปนะ เผื่อ ๆ ไว้หน่อย
5. เรื่องของนักดนตรี
ทำความเข้าใจเรื่องการรักษาเวลา นักดนตรีส่วนใหญ่ต้องมาถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลา 1-2 ชม. เป็นอย่างน้อย เพื่อเตรียมหาที่ในการจัดวาง อุปกรณ์ และเซทเครื่องดนตรี ให้พร้อมก่อนถึงเวลา ต้องมีการตั้งเสียงต่าง ๆ นา ๆ อีก คุณควรตกลงกับนักดนตรีถึงนี้ด้วย เพราะบางครั้งแขกเข้ามาในงานกันแล้ว นักดนตรียังมานั่ง
เซตเสียง เครื่องดนตรีกันอยู่เลย
อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ควรเตรียมแผนสองไว้เสมอ ในเรื่องของเครื่องดนตรี หากมีการผิดพลาดเกิดขึ้นเช่น สายเครื่องดนตรีขาด ระหว่างเล่นดนตรี ไฟฟ้าขัดข้อง สายเสื่อมสถาพใช้งานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ,ไมล์ใช้งานไม่ได้เนื่องจากถ่านหมด ,สัญญาณไมล์ลอยติด ๆ ดับ ๆ เหล่านี้ควรตกลงกับ นักดนตรีก่อนว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ เขาเตรียมทางแก้ไขไว้พร้อมหรือยัง คิดดูเอาเองนะค่ะ ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์นี้ขึ้นจริง ๆ ขณะนั้นตัวบ่าว-สาว ก็ยืนรับแขกอยู่ด้านหน้างาน มันอึดอัดหัวใจเพียงใด เพราะตอนนั้นบ่าวสาวคงได้แต่ยืนดูตาปริ่บ ๆ
6. เรื่องของ Presentation และปัญหาของลำโพงขยายเสียง
การทำความเข้าใจซักซ้อม ควรทำความเข้าใจกับคนเปิด Presentation ,ผู้ควบคุมในการหรี่ไฟ , ผู้ควบคุมดนตรี หรือคุมแผ่น CD เพลง ให้เข้าใจ ตรงกันให้มากที่สุด และควรซ้อมก่อนถึงเวลาจริง ๆ อย่างน้อย 1 ครั้ง เพื่อหาข้อผิดพลาดและแก้ไข
ปัญหาการเปิด File Presentation ไม่ได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับหลายงานมาแล้วเหตุเพราะ บางครั้ง เจ้าบ่าวทำ Presentation เอง หรือ ไม่ก็เพื่อน ๆ สนิท เป็นคนทำให้ ตอนทำก็ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่บ้านทำ แต่พอใช้งานจริง ก็ Write ใส่แผ่น CD มาใช้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งและไม่ได้ทำการทดลองก่อน ผลปรากฏพอถึงเวลาฉาย Presentation กลับเปิดไม่ออก ทำให้เสียโอกาส เสียความรู้สึก ต้องข้ามขั้นตอนนี้ไปเลย ถ้าเป็นกรณีนี้ ขอแนะนำ ให้นำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำ Presentationในตอนแรก ยกใส่รถเป็นเครื่องสำรองไว้ด้วย จะได้ไม่เสียเวลาขับรถ วิ่งไป วิ่งมา ให้เสียเวลายอมเหนื่อยในครั้งแรกไว้ก่อน จะดีกว่ามั้ย กันไว้ดีกว่าแก้
ปรับเสียงลำโพงให้เป็นระบบ MONO จะดีที่สุด ถ้าลำโพงเสียงเป็น เซอร์ราวน์ + สเตอริโอนั้นหมายความว่า เสียงลำโพงดนตรี กับเสียงร้อง จะถูกแยกกันโดยระบบ - ทำให้แขกที่นั่งอยู่ด้านฝั่งลำโพงเซอร์ราวน์จะ ไม่ได้ยินที่บ่าวสาว พูดบนเวทีค่ะ ทางที่ดีที่สุดควรให้นักดนตรี หรือผู้ควบคุมเครื่องเสียง ปรับลำโพงให้ MONO ตลอดงาน จะดีที่สุด
7. เรื่องจิปาถะ อื่น ๆ
กำหนดหน้าที่ให้ชัดเจน ว่าใคร จะขอให้มาช่วย ยกหรือถือ อะไร ในวันเช้าขันหมาก หรือคนนั่งหน้าโต๊ะรับแขก ในช่วงงานเย็น หรือกำหนดแม่งาน ให้แน่นอน
ระวังรอยเปื้อนชุดแต่งงาน เจ้าสาวควรระวังเรื่องคราบที่จะเปื้อนชุด เช่น คราบจากสีดอกไม้ จากพวงมาลัย คราบจากเครื่องสำอาง หรือแป้ง ซึ้งบาง ครั้งหากซักไม่ออก ทางร้านจะคิดค่าปรับ พวงมาลัยจึงควรเป็นพวงมาลัยสด มากกว่าพวงมาลัยย้อมสี (ปัจจุบันก็นิยมพวงมาลัยสดอยู่แล้ว)
สมุดประสาทพร ที่ต้องใช้ จะอยู่ระหว่าง 3 - 4 เล่ม (อย่าลืม ปากกาสี ) , กาวติดกระดาษ, กระดาษกาว , ที่หนีบ แม๊ก ลูกแม๊ก เอาไปเผื่อไว้ก่อน เพราะบางช่วงเวลาแขกอาจมาพร้อมกันหลายคน ทำให้ บางครั้งแขกต้อง ยืนรอเซ็นสมุดอวยพรหน้างาน เพราะสมุดเซ็นมีเล่มเดียวหรือสองเล่มเท่านั้น แถม ปากกาสี ก็มีไม่เพียงพอ
แผนที่โต๊ะ หรือ ป้ายชื่อโต๊ะ ( โต๊ะจีน ) ควรทำไว้เพื่อไม่ให้แขกงง และคนเชิญแขกจะได้ไม่งงและเพื่อเป็นระเบียบในการให้แขก ได้นั่งในที่ ที่เรากำหนด
น้ำดื่ม "อวยพร"หรือพวงมาลัยคล้องบ่าวสาว ควรกำหนดคน กำหนดเวลา ไว้ด้วยว่าใครจะเป็นผู้ถือส่งให้ประธานในพิธี หรือผู้กล่าวนำอวยพรบ่าวสาว
กรณีสั่งดอกไม้เพิ่ม ถ้าสั่งดอกไม้เพิ่ม - ควรคุยราคาให้ชัดเจนก่อน พราะราคาดอกไม้ในท้องตลาดจะขึ้นลงอยู่ตลอดเวลาไม่แน่นอน และเพื่อป้องกัน การ โก่งราคากันภายหลัง
เจ้าสาวงานเย็นที่ใส่ชุดยาวลากพื้น ได้โปรดมั่นใจและจำไว้ว่า ไม่ต้องถกกระโปรง เพราะตอนดูรูปว่า เจ้าสาวถกกระโปรง ตลอดทั้งงาน จะดูไม่สวย มันจะเลอะ ก็ปล่อยมันเลอะไปเลยค่ะ
เตรียมกระดาษซับมัน บางทีอากาศร้อน ทำให้เจ้าสาวมีเหงื่อออกตามผิวหน้า อาจทำให้เครื่องสำอาง เลอะได้ ควรพกกระดาษซับมันไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาใช้งานจะได้หยิบใช้ได้ทันท่วงที
กรณีจัดงาน Outdoor ในการจัดงานกลางแจ้ง เช่นในสวนสาธารณะ ริมทะเล สนามกีฬาปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยคือ "ไฟฟ้าตก" โดยเฉพาะในช่วงหัวค่ำซึ่งเป็นเวลาที่ ทุกครัวเรือนมีการใช้ไฟฟ้าพร้อมกันทำให้เกิดปัญหาเรื่องไฟฟ้าตกได้เดี๋ยวตรงโน้นดับ ตรงนี้ดับ เกิดปัญหากับช่างไฟฟ้า ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรดี ข้อแนะนำขอให้มีการเผื่อเรื่องเครื่องปั่นไฟ ไว้เป็นดีที่สุด
กรณีของชำร่วยไม่พอ ควรมีการเผื่อของชำร่วย นอกเหนือจากแขกที่เชิญไว้ ไม่น้อยว่า 100 ชิ้นจะเป็นการดี เผื่อเหลือไว้ก่อนอุ่นใจที่สุดค่ะ