คุยกับหมอพิณ รู้จักยาเม็ดคุมกำเนิด กินให้ถูก ใช้ให้เป็น

คุยกับหมอพิณ รู้จักยาเม็ดคุมกำเนิด กินให้ถูก ใช้ให้เป็น

คุยกับหมอพิณ รู้จักยาเม็ดคุมกำเนิด กินให้ถูก ใช้ให้เป็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย พญ.พิณนภางค์ ศรีพหล
ยาเม็ดคุมกำเนิด
คอลัมน์ คุยกับหมอพิณ

สัปดาห์ก่อนพูดถึงเรื่องการคุมกำเนิดวิธีธรรมชาติไปแล้ว สัปดาห์นี้จะมาพูดถึงเรื่องการคุมกำเนิดแบบไม่ธรรมชาติกันบ้าง นั่นก็คือยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดหาซื้อได้ง่าย ตามร้านขายยาทั่วไป แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่

1.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม คือมีฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจน และโปรเจสติน

2.ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด minipill คือมีแต่ฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว

ยาเม็ดคุมกำเนิดป้องกันการเกิด การตั้งครรภ์อย่างไร
กลไกหลัก ๆ ได้แก่ ป้องกันการตกไข่ : ไข่ไม่ตก ก็ผสมกับน้ำเชื้ออสุจิไม่ได้ ก็ไม่เกิดการปฏิสนธิ, ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกเหนียว ทำให้น้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกได้อย่างยากลำบาก, ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน

ประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิด
หากกินอย่างถูกต้องเป๊ะ ๆ อัตราการตั้งครรภ์ในปีแรก ประมาณ 1-3 ราย ใน 1,000 คน แต่ในทางปฏิบัติจริง หรือในโลกแห่งความจริง ที่ไม่เป๊ะ มีอัตราการตั้งครรภ์ในปีแรกสูงถึง 8 ราย ใน 100 ราย และหากใช้ยาอื่น ๆ เช่น ยาแก้อักเสบบางชนิด ยากันชัก หรือยาต้านไวรัสเอดส์บางชนิด อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดลดลงได้

เริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม เมื่อไหร่ดี
เริ่มกิน "ภายใน 5 วันแรก" หลังจากเริ่มมีประจำเดือน คืออาจจะเริ่มตอนประจำเดือนมาวันแรกเลยก็ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือไปเริ่มกินยาวันอื่นที่ไม่ใช่ 5 วันแรกของรอบประจำเดือน ก็ควรงดเพศสัมพันธ์ หรือคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใส่ถุงยางอนามัย เป็นเวลา 7 วัน ในแผงแรกที่เริ่มกิน

กินยังไง
ถ้าเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม แบบ 21 เม็ด ก็กินทุกวัน วันละ 1 เม็ด ในเวลาเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน เป็นเวลาต่อเนื่องกัน 21 วัน หยุดยา 7 วัน ซึ่งประจำเดือนจะมาในช่วงที่หยุดยานี้ หลังจากหยุดยาครบ 7 วัน ก็เริ่มทานยาแผงใหม่ได้เลย

ส่วนยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม แบบ 28 เม็ด ก็กินยาทุกวัน วันละ 1 เม็ด ต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละยี่ห้อ จะต่างกันที่ยา ใน 21 วัน หรือ 24 วันแรก จะมีฮอร์โมนรวม ส่วนเม็ดที่เหลือจะเป็น ยาบำรุงทั่วไป คือเป็นยาที่ไม่มีฮอร์โมน ซึ่งระหว่างช่วงที่กินยาเม็ดที่ไม่มีฮอร์โมนนี้ ประจำเดือนจะมาค่ะ

"ประโยชน์" ที่ได้จากยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม นอกเหนือจากการป้องกันการตั้งครรภ์ ได้แก่ทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอขึ้น ปริมาณเลือดประจำเดือนออกลดลง อาการปวดประจำเดือนลดลง

บางครั้งใช้รักษาเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือในรายที่ประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือในรายที่ปวดประจำเดือนมาก ๆ ในบางชนิดทำให้สิวลดลงได้ด้วย นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเยื่อบุมดลูกและรังไข่อีกด้วย

ส่วน "ความเสี่ยง" ของยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ได้แก่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ โรคหัวใจ โดยจะเสี่ยงมากขึ้นในสตรีอายุมากกว่า 35 ปี ที่สูบบุหรี่ และในกลุ่มที่มีไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ดังนั้นหากมีโรคประจำตัวดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้ยา

อาการข้างเคียงของการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ได้แก่ อาการคลื่นไส้ เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ เป็นฝ้า เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ โดยเฉพาะ 2-3 แผงแรก หลังเริ่มใช้ยา

ส่วนยาเม็ดคุมกำเนิดชนิด minipill ที่มีแต่ฮอร์โมนโปรเจสตินอย่างเดียว จะมีประโยชน์ในรายที่มีข้อห้ามในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม และสามารถใช้ได้ในกลุ่มสตรีหลังคลอดที่ยังให้นมบุตรอยู่ (เพราะชนิดฮอร์โมนรวมจะทำให้น้ำนมออกน้อยลง)

ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดนี้จะเป็นแบบ 28 เม็ด ทุกเม็ดจะมีฮอร์โมนอยู่ สำคัญมากสำหรับยาคุมชนิดนี้ คือต้องกินเวลาเดิมเป๊ะ ๆ ถ้าคลาดเคลื่อนเกิน 3 ชั่วโมง หรือหลังจากกินยาแล้วอาเจียนออกมา ต้องกินยาอีกเม็ดทันที และงดเพศสัมพันธ์ หรือใช้วิธีคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย เป็นเวลา 48 ชั่วโมง ดังนั้นไม่เหมาะกับคนขี้ลืมนะคะ

ทำยังไงดี ถ้าลืมกินยา
ยาเม็ดคุมกำเนิดแต่ละชนิด มีวิธีในการกินยาซ้ำแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าลืมช่วงไหนของรอบเดือน ดังนั้นควรอ่านข้อมูลการใช้ยาอย่างเคร่งครัด หรือปรึกษาแพทย์ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook