อุบัติเหตุ จุดเปลี่ยนช่วย ชมพู่ Miss Wheelchair เข้มแข็งขึ้น
Yesterday
เรื่อง : ศรัญญา โรจน์พิทักษ์ชีพ / ภาพ : กฤตภาส สุทธิกิตติบุตร
Story of Yesterday
ปิดอดีต เปิดปัจจุบัน เปลี่ยนฉัน เปลี่ยนอนาคต
"เราเองเป็นเด็กขอนแก่น วันนั้นไปดูผลสอบที่โรงเรียนและเรากำลังจะกลับบ้าน ก็ตั้งใจว่าจะซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนกลับด้วยกัน แต่เผอิญว่ามีเพื่อนอีกคนเขารอคุณพ่อมารับกลับบ้านนานแล้ว ด้วยความหวังดีก็เลยชวนกลับบ้านด้วยกัน ทำให้เราต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ซ้อน 3 โดยเรานั่งท้ายสุด และเราก็ขับมากันเรื่อยๆ บนถนนเส้นเล็กๆ และแล้วรถ 10 ล้อที่ขับตามเรามาก็มาชนท้าย ตัวเราก็ลอยออกจากมอเตอร์ไซค์กระเด็นออกไปไกลเหมือนกัน ท้ายสุดเราก็เดินไม่ได้อีกต่อไป" นี่คือ เรื่องราวจุดเปลี่ยนสำคัญของเด็กสาวหน้าตาน่ารัก ซึ่งปัจจุบันเธอเรียนอยู่คณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 และได้ครองตำแหน่ง Miss Wheelchair Thailand 2012 "น้องชมพู่ ภัทราวรรณ พานิชชา"
"หลังจากที่เราใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นมา 6 เดือน เราก็ชินกับมัน แต่ตอนนั้นมันมีความหวังว่า เราจะกลับมาเดินได้ เพราะร่างกายของเราดีขึ้นเรื่อยๆ แต่แล้ว คุณหมอก็ยืนยันว่า เราเดินไม่ได้ ตอนนั้นเราเสียใจมาก อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ ว่ามันแย่แค่ไหน เราเอาแต่ร้องไห้ แล้วถามตัวเองว่า ทำไมต้องเป็นเรา ทำไมเราถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำไมเราถึงเป็นคนที่โชคร้ายที่สุดในโลก แต่สุดท้ายเราก็ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะมาลบล้างสิ่งที่เกิดขึ้น"
"แต่ในระหว่างที่เรารักษาตัว เราไม่ได้คิดถึงอนาคตอะไรไกล เราคิดแค่ว่า อยากกลับมาเรียนเหมือนเดิม เพราะเราหยุดเรียนไป 1 ปี ซึ่งที่บ้านคิดว่าจะให้เราเรียน กศน. แต่เราก็ปฏิเสธ เพราะเราอยากไปใช้ชีวิตแบบนักเรียนเหมือนเดิม อยากเจอเพื่อน อยากเจอผู้คน เรามีความตั้งใจเหมือนเดิมที่จะเอนฯ ติด แพลนชีวิตของเด็ก ม.ปลายของเราก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน หากจะเปลี่ยนก็คงเป็นความฝันตั้งแต่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุ จากที่ตั้งใจจะเรียนด้านเทคนิคการแพทย์ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เราก็ต้องเปลี่ยนความฝัน แต่ขอบอกว่าความตั้งใจของเราก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะมันเปลี่ยนแค่ร่างกายภายนอก ไม่ได้เปลี่ยนแนวคิด สายตาของเรายังมองเห็น สมองเรายังทำงานได้ดีเหมือนเดิม เราแค่เปลี่ยนความฝันบางอย่าง เพื่อไปสานความฝันอีกอย่างให้เหมาะสมกับกายภาพของตัวเอง"
"เราจึงเริ่มค้นหาข้อมูลคณะที่เราคิดว่าเราเรียนได้ และเหมาะกับเรา เราไปเจอข้อมูลคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ก็คิดว่านี่แหละคณะที่เราจะเรียน อย่างน้อยเมื่อจบออกไปก็จะได้ช่วยเหลือผู้คนอื่นๆ อีกมากมายได้ และแล้วเราก็สอบติดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเราเลือกไว้อันดับหนึ่งจริงๆ และเรามีความตั้งใจว่า จบแล้วจะเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่อยู่ในโรงพยาบาล เพราะแพทย์ก็จะดูแลเรื่องมิติทางด้านกายภาพ ส่วนเราคงจะดูแลในเรื่องของจิตใจ มิติทางด้านสังคม สภาพแวดล้อมต่างๆ ของผู้ป่วยค่ะ"
แน่นอนว่า อุบัติเหตุคือ จุดเปลี่ยนในชีวิตของน้องชมพู่ เพราะจากที่ทำอะไรรวดเร็ว ก็ต้องรู้จักการรอคอย และที่สำคัญจากที่เคยทำอะไรด้วยตัวเอง ก็ต้องพึ่งพาคนอื่น โดยเฉพาะครอบครัว ซึ่งจุดนี้นี่เองที่ทำให้น้องชมพู่ได้พบเจออะไรบางอย่างที่ชัดเจนมากขึ้นจากจุดเปลี่ยนครั้งนั้น
"จากที่ครอบครัวและญาติที่ไม่ได้สนิทกันมาช่วยดูแล มาเยี่ยมบ่อยๆ และคอยให้กำลังใจ ทำให้เรารู้ว่า จริงๆ แล้วพวกเขาก็รักเรามาก จากที่เมื่อก่อนไม่เคยคิดอะไรแบบนี้ เรารู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวจริงๆ ค่ะ"
"นอกจากนี้ ยังทำให้เรามองเห็นว่า ในขณะที่คนอื่นๆ อาจจะไม่ได้มีครอบครัวเหมือนเรา อาจจะประสบความยากลำบากทั้งด้านกายภาพ จิตใจ รวมทั้งความยากจน พวกเขายังก้าวข้ามผ่านความโหดร้ายที่เขาคิดมาได้เลย เขายังเข้มแข็งได้ด้วยตัวเองเลย แล้วเราล่ะมีพร้อม แล้วเราจะยอมแพ้ทำไม จริงไหมคะ (ยิ้ม)"
"หากคิดอะไรไม่ออกจริงๆ ในยามที่หมดหวัง หรือโทษตัวเอง ก็ขอให้คิดถึงคนที่รักเราและเรารัก นั่นก็คือ ครอบครัว แล้วเราจะมีพลังก้าวเดินต่อไป"
จากอุบัติเหตุในครั้งนั้น จุดเปลี่ยนที่เปลี่ยนแค่ร่างกายของเธอ เปลี่ยนแค่ความฝันของเธอ แต่ไม่ได้เปลี่ยนจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจของเธอ ซ้ำยังให้เธอได้เจอกับมุมมองที่ดีของการใช้ชีวิตหลังจากนี้ในวันข้างหน้า ที่เธอย้ำเสมอว่า อย่ายึดติดกับอดีต อยู่กับปัจจุบัน และทำอนาคตให้ดีที่สุด แล้วเราจะรู้ว่าคุณค่าของชีวิตของตัวเรา อยู่ที่ความเข้มแข็งของตัวเราเอง