สิวไม่มีหัว ใครว่าจัดการยาก 6 วิธีนี้ช่วยคุณได้

สิวไม่มีหัว ใครว่าจัดการยาก 6 วิธีนี้ช่วยคุณได้

สิวไม่มีหัว ใครว่าจัดการยาก 6 วิธีนี้ช่วยคุณได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณกำลังเจอกับปัญหาสิวไม่มีหัวที่จัดการได้ยากอยู่ใช่ไหม เราขอแนะนำนี่เลย 6 วิธีที่จะช่วยรักษาสิวไม่มีหัวอย่างง่ายดาย พร้อมป้องกันการเกิดสิวซ้ำได้อย่างดีเยี่ยม โดยมีวิธีอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย

1.ประคบร้อน

หากสิวไม่มีหัวมีอาการบวมแดงขึ้นมา ให้คุณใช้วิธีการประคบร้อนเพื่อลดอาการบวมแดงและลดการอักเสบของสิว โดยจะทำให้สิวหายเร็วขึ้นด้วย แต่ต้องมีความร้อนไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส เพราะอาจทำร้ายผิวได้นั่นเอง และให้ทำวันละ 3 ครั้งจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก

2.ใช้น้ำผึ้งแต้มสิว

น้ำผึ้งแท้สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นตัวการของการเกิดสิวไม่มีหัวได้ โดยให้นำน้ำผึ้งมาทาบริเวณที่เป็นสิวแล้วทิ้งไว้สักพัก ประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงล้างออก ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผลดีที่สุดควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้าจะดีกว่า

3.มาส์กหน้า

การมาส์กหน้าไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงผิวหน้าให้สวยใสเท่านั้น แต่ยังช่วยกำจัดสิวไม่มีหัวและทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึกอีกด้วย โดยให้นำขมิ้นมาผสมกับโยเกิร์ตและน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนชา จากนั้นทาให้ทั่วใบหน้าแล้วมาส์กทิ้งไว้ 15 นาที ทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รับรองว่าสิวหายแน่นอน

4.ทาครีมรักษาสิว

การรักษาสิวไม่มีหัว จะต้องใช้ครีมที่มีตัวยาปฏิชีวนะ ซึ่งจะทำให้สิวยุบและรักษาสิวได้รวดเร็วกว่ายารักษาสิวทั่วไป แถมยังป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลามของสิวไปมากกว่าเดิมอีกด้วย ดังนั้นลองหาซื้อครีมรักษาสิวประเภทนี้มาใช้กันดู

5.ประคบเย็น

นอกจากการประคบร้อนแล้ว การประคบเย็นก็ช่วยรักษาสิวไม่มีหัวได้เช่นกัน โดยจะลดอาการปวดได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีนี้ให้คุณใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็งเอาไว้ แล้วนำมาประคบบริเวณที่เป็นสิว ทำประมาณ 10 นาที โดยเมื่อทำเป็นประจำ อาการปวดจะลดน้อยลงและสิวหายในที่สุด

6.พบแพทย์เพื่อรักษา

กรณีที่สิวมีการอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งทำหลายวิธีแล้วก็ไม่หายสักที ควรไปพบแพทย์จะดีที่สุด โดยแพทย์อาจจะสั่งยากินและยาทามาให้คุณใช้ควบคู่กันไปนั่นเอง

สาวๆ คนไหนที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวไม่มีหัว ก็ลองทำตามวิธีเหล่านี้กันดู ซึ่งจะช่วยได้ดีอย่างแน่นอน แต่ถ้าทำหลายวิธีแล้วไม่หายสักทีแถมยังมีการอักเสบมากขึ้นกว่าเดิม ก็คงต้องไปพบแพทย์แล้วล่ะ เนื่องจากอาจมีการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าปกตินั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook