วิ่งไปให้ไกลขึ้นกับรองเท้าวิ่งไนกี้ซูมรุ่นใหม่ สีสันสุดจี๊ด

ความเร็วคือหัวใจที่สำคัญของการพัฒนารองเท้าตระกูลซูม รองเท้าวิ่งตระกูลสำคัญของไนกี้ที่พัฒนาให้สอดรับกับ ความต้องการของนักวิ่งทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ที่วิ่งเพื่อความสนุกในวันหยุดจนถึงนักวิ่งมาราธอนระดับโลก

รองเท้าวิ่งตระกูล ซูมของไนกี้แต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติต่างกันจากการเลือกใช้พื้นรองเท้า 2 แบบซึ่งก็คือเทคโนโลยีไนกี้ซูมแอร์หรือโฟมไนกี้ซูมเอกซ์ที่จะมอบประสบการณ์ขณะสวมใส่ที่แตกต่างกัน ซึ่งในครั้งนี้ รองเท้าตระกูลซูมปี 2019 ได้ออกสีใหม่เพื่อต้อนรับช่วงฤดูกาลมาราธอนที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยยังคงเน้นการใช้สีโทนชมพูนีออน (รองเท้าตระกูลซูมโดยไนกี้ได้ทำการเปิดตัวไปด้วยสีเขียวนีออน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสีชมพูในวงล้อสี) 

รองเท้าสำหรับการฝึกซ้อมและการวิ่งระดับสมัครเล่น

ไนกี้แอร์ซูมเปกาซัส 36 (Nike Air Zoom Pegasus 36)

รองเท้าแอร์ซูมเปกาซัสเป็นรองเท้ารุ่นที่ขายดีที่สุดของไนกี้ ซึ่งการกลับมาครั้งใหม่นี้มาพร้อมกับหน้าผ้ารองเท้าที่ได้รับการยกระดับใหม่ โดยหน้าผ้ารองเท้าที่ผลิตจากผ้าตาข่ายนั้นมีการเพิ่มจำนวนรูระบายอากาศในบริเวณที่มีเหงื่อหรือความร้อนสะสมสูง เช่นหน้าเท้าและอุ้งเท้า นอกจากนี้ยังมีเส้นเคเบิ้ลฟลายไวร์ (Flywire Cables) ที่ส่วนกลางเท้าเพื่อช่วยให้เท้าอยู่นิ่งขณะที่กำลังทำความเร็ว ไนกี้ยังพัฒนาให้คอลล่าร์ที่ส้นเท้าและลิ้นรองเท้ามีขนาดที่บางลง จึงกระชับกับเท้าและสวมใส่ได้สบายมากยิ่งขึ้น รองเท้าวิ่งไนกี้แอร์ซูมเปกาซัส 36 ยังคงใช้ชิ้นส่วนซูมแอร์ตลอดความยาวรองเท้าแบบเดียวกับที่ไนกี้นำเสนอเป็นครั้งแรกในรองเท้ารุ่นก่อนหน้า เสริมด้วยโฟมคุชลอนที่ส่วนกลางของพื้นรองเท้าเพื่อความรู้สึกสบาย รองรับแรงกระแทก และการตอบสนองที่ดีแม้จะใช้วิ่งอย่างยาวนาน

ไนกี้ซูมเปกาซัสเทอร์โบ 2 (Nike Zoom Pegasus Turbo 2)

รองเท้าออกกำลังกายเปกาซัสเทอร์โบรุ่นที่ 2 เป็นรองเท้าที่พัฒนาขึ้นจากรากฐานของรองเท้าไนกี้ซูมเวเปอร์ฟลาย 4% (Nike Zoom Vaporfly 4%) แต่ปรับปรุงหน้าผ้ารองเท้าให้บางกว่าเดิม ซึ่งเป็นผลจากการ ใช้วัสดุโปร่งแสงและผ้าตาข่ายลอฟต์ นอกจากนี้ยังมีโครงสร้างสำหรับล็อคส่วนกลางเท้าให้อยู่นิ่งที่สุดเมื่อวิ่งด้วยความเร็วอีกด้วย

รองเท้าสำหรับนักวิ่งมืออาชีพ

ไนกี้ซูมฟลาย 3 (Nike Zoom Fly 3)

เป็นครั้งแรกที่ไนกี้ ซูมฟลาย 3 สำหรับผู้หญิง ใช้แผ่นรองด้านในรองเท้าที่นุ่มกว่าเดิมเล็กน้อยและมีความโค้งเข้ากับเท้ามากขึ้น รองเท้าไนกี้ ซูมฟลายรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นนั้นใช้วัสดุผลิตหน้าผ้ารองเท้าที่โปร่งแสงและมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้า รวมทั้งการออกแบบให้เชือกผูกรองเท้าผสานร่วมกับโครงสร้าง arch-band ที่เสริมความกระชับกับเท้าได้ดีขึ้นด้วย การใช้โฟมไนกี้ รีแอคที่นุ่มและมีการสปริงตัวที่ดีตรงกลางพื้นรองเท้าทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกนุ่มและเสริมแรงขณะก้าวเท้า นอกเหนือจากความนุ่มสบายแล้ว โฟมรีแอคยังเป็นฐานของแผ่นพื้นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ยาวตลอดตัวรองเท้า ช่วยให้ทุกก้าวเปี่ยมไปด้วยพลัง ระยะความต่างของความสูงรองเท้าจากหน้าเท้าถึงส้นเท้าที่ไนกี้เลือกใช้ในรองเท้าวิ่งรุ่นนี้นั้นเป็นระยะที่สามารถช่วยลดการเจ็บเอ็นร้อยหวายและอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการวิ่งระยะไกลได้ด้วย ผลลัพธ์จากการผสานนวัตกรรมของไนกี้ที่ผ่านการทดสอบในห้องวิจัยทางการกีฬาของไนกี้อย่างถี่ถ้วนนั้นส่งผลให้รองเท้ารุ่นใหม่นี้เป็นรองเท้าที่ช่วยให้นักวิ่งวิ่งได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุดนับตั้งแต่ไนกี้เริ่มผลิตรองเท้าวิ่งมา

ไนกี้ซูมเอกซ์เวเปอร์ฟลาย เนกซ์% (Nike ZoomX Vaporfly Next%)

ข้อคิดเห็นจากนักกรีฑามีส่วนสำคัญยิ่งต่อการพัฒนานวัตกรรมรองเท้าวิ่งตระกูลที่ได้รับเสียงชื่นชมจากนักกรีฑาระดับอาชีพ ไนกี้ยังเลือกใช้วัสดุชนิดใหม่คือเส้นใยเวเปอร์วีฟ (Vaporweave) ที่หน้าผ้ารองเท้า โดยเส้นใยเวเปอร์วีฟนั้นมีน้ำหนักเบากว่าเส้นใยฟลายนิต ระบายอากาศได้ดีกว่า และดูดซึมความชื้นจากเหงื่อหรือน้ำฝนในอัตราที่น้อยกว่าเส้นใยฟลายนิต จึงช่วยให้รองเท้าแห้งและระบายอากาศได้ดีกว่า เหมาะกับการวิ่งมาราธอน นักออกแบบของไนกี้ยังเลือกใช้โฟม ไนกี้ซูมเอกซ์ในกระบวนการผลิตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับรองเท้าไนกี้ซูมเวเปอร์ฟลาย 4% (Nike Zoom Vaporfly 4%) ช่วยให้นักวิ่งได้รับพลังงานคืนกลับมามากถึงร้อยละ 85 ของแรงที่ใช้ในแต่ละก้าว แต่นักออกแบบของไนกี้ยังสามารถรักษาน้ำหนักของรองเท้าไว้ได้เท่าเดิม อีกทั้งยังลดความต่างของความสูงเฉลี่ยที่ส้นเท้ากับหน้าเท้าลงได้จาก 11 มม. เป็น 8 มม. ช่วยให้นักวิ่งรู้สึกมั่นคงมากขึ้นขณะวิ่ง และลดแรงที่ใช้ขณะยกเท้าขึ้นจากพื้นลงได้ (ไนกี้ยังคงฝังแผ่นคาร์บอน ทรงโค้งไว้ในชั้นโฟม ช่วยให้นักวิ่งรู้สึกมั่นคงขึ้นและช่วยให้แต่ละก้าวเปี่ยมไปด้วยพลังมากขึ้น) นอกจากนี้ ไนกี้ยังปรับลวดลายที่พื้นรองเท้าใหม่ ช่วยเสริมการยึดเกาะบริเวณปลายเท้า ช่วยให้การควบคุมขณะวิ่งในเวลาฝนตกได้ดีมากยิ่งขึ้น พื้นนอกรองเท้าแบบโค้งและรอยบากที่พื้นรองเท้าที่ลึกขึ้นนั้นช่วยให้การเปลี่ยนทิศทางขณะวิ่งเป็นไปอย่างนิ่มนวลขึ้น