เมื่อลูกชอบทำอาหาร จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเชฟ
“โตขึ้นอยากเป็นอะไร?” หลายครอบครัวคงเคยถามบุตรหลานด้วยคำถามนี้ เพื่อดูว่าเด็กกำลังสนใจอาชีพใดและอยากทำอะไร ซึ่งแน่นอนว่าอาชีฟ “เชฟ” มาแรงในช่วงระยะเวลา 3-5 ปีมานี้ จนติด Top 10 อาชีพในฝันของเด็กไทยไปเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล ร่วมกับ สมาคมเชฟสากล จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสอนทำอาหาร ภายใต้ธีม How Healthy Food Works เพื่อเฉลิมฉลอง “วันเชฟสากล” หรือ International Chefs Day 2019 ปลูกฝังเด็กไทยให้รู้จักการรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ผ่านการเรียนรู้จากเชฟมืออาชีพ พร้อมเป็นแรงผลักดันสำหรับเด็กที่มีความสนใจในอาชีพเชฟได้มุ่งไปสู่ความฝัน
นำโดย คุณเครือวัลย์ วรุณไพจิตร ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด พร้อมได้รับเกียรติจาก เชฟประชัน วงศ์อุทัยพันธ์ ตัวแทนจากสมาคมเชฟสากล (World Association of Chefs' Societies) ผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหาร และฟู้ด สไตลิสต์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์การเตรียมตัวสู่การเป็นเชฟ พร้อมด้วย พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร เจ้าของเพจดัง เลี้ยงลูกนอกบ้าน และกุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มาแนะแนวทางการสังเกตความชอบ และการเลี้ยงลูกเพื่อส่งเสริมทักษะของเด็กๆ เพื่อต่อยอดสู่อาชีพในฝัน
การเตรียมตัวสู่การเป็นเชฟที่ดีนั้นไม่ใช่แค่เพียงทำอาหารอร่อย เชฟประชัน วงศ์อุทัยพันธ์ ตัวแทนจากสมาคมเชฟสากล (World Association of Chefs' Societies) ผู้เชี่ยวชาญการปรุงอาหาร และฟู้ด สไตลิสต์ เล่าว่า “การเตรียมตัวเป็นเชฟต้องมี 4 หัวใจหลักที่สำคัญ คือ
1.ความแข็งแรงของร่างกาย เนื่องจากเชฟเป็นอาชีพที่ต้องยืนทำอาหารระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมงต่อวัน ต้องเจอทั้งสภาพอากาศร้อนและเย็น
2.ภาษา เป็นสิ่งที่สำคัญในการสื่อสาร เพราะอาจจะต้องเจอเชฟใหญ่ที่เป็นชาวต่างชาติ หรือแม้กระทั่งลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ
3.การมีวินัยและความรับผิดชอบ ทุกคนจะต้องผ่านขั้นตอนการเป็นเชฟในระดับปฏิบัติการ คือ ตัดแต่ง-ปรุง-เตรียม ซึ่งเมื่อทำงานจนมีประสบการณ์ ก็อาจจะก้าวหน้าปรับตำแหน่งเป็นเชฟในระดับบริหาร หรือ Executive Chef ซึ่งหน้าที่ความรับผิดชอบก็จะเปลี่ยนแปลงไป
4.พื้นฐานเรื่องการทำอาหารให้อร่อย ต่อยอดสู่การเป็น Food Stylist นั่นคือ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ มีการวางแผนเมนูอาหาร และการจัดวางล่วงหน้า
นอกจากนี้ เรื่องโภชนาการก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเชฟคือคนสำคัญ และคือต้นทางในการจัดเตรียมปรุงอาหารไปสู่ลูกค้า ด้วยสูตรที่เหมาะสม 2-1-1 คือ ผักผลไม้ 2 ส่วน - คาร์โบไฮเดรต หรือ แป้ง 1 ส่วน - โปรตีน หรือ เนื้อสัตว์ 1 ส่วน เชฟที่ดีจึงควรเรียนรู้เรื่องโภชนาการที่ครบถ้วน และเด็กๆ ควรได้รับการปลูกฝังเรื่องการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ สารอาหารครบถ้วน เพื่อที่จะเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพดี และเป็นเชฟที่ดีในอนาคต เพราะเรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่มักถูกมองข้าม
พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร เจ้าของเพจดังเลี้ยงลูกนอกบ้าน และกุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี แนะนำเด็กๆ และฝากถึงผู้ปกครองถึงแนวทางการสังเกตทักษะ ความชอบเพื่อเดินตามอาชีพในฝันด้วยหลัก Ikigai หรือ ปรัชญาชีวิตแบบญี่ปุ่นว่า “เราต้องหาความสมดุลระหว่าง 4 สิ่ง ได้แก่ 1.สิ่งที่เรารักมีความสุขขณะทำ (what you Love) 2.สิ่งที่ถนัดและทำได้ดี (what you are good at) 3.สิ่งที่มีประโยชน์ต่อโลกและผู้อื่น หรือสิ่งที่โลกต้องการ (what the world needs) 4.สิ่งที่สร้างรายได้ในการดำเนินชีวิต (what you can be paid for) โดยให้พยายามหาความสมดุลและหาตนเองให้พบ”
พญ.จิราภรณ์ ยังฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังประคับประคองลูกให้เดินตามความฝันว่า “พ่อแม่มีส่วนช่วยลูกในการพัฒนาตนไปให้ถึงยังเป้าหมายของตัวเอง การมี Mind Set ที่ดีกับการเป็นพ่อแม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ คือ เรากำลังเลี้ยงคนๆ หนึ่งให้เขาไปมีชีวิตของตัวเองไม่ได้มาเป็นอะไรของเรา เพราะฉะนั้นหน้าที่ของพ่อแม่จึงไม่ได้มีหน้าที่ไปตั้งเป้าหมายวาดความฝันให้ลูก หรือแม้กระทั่งบงการว่าอะไรควรไม่ควร พ่อแม่ต้องแยกแยะให้ออกว่า นี่คือความฝันของพ่อแม่ หรือคือความฝันของลูก พ่อแม่ควรเป็นเหมือนเครื่องยนต์ ในการช่วยที่จะขับเคลื่อนให้ลูกไปยังฝัน ให้เด็กได้มีโอกาสทดลองทำหลายๆ สิ่ง เพราะความสำเร็จเกิดจากการทดลอง ลงมือ และการมีประสบการณ์ การที่เด็กได้รู้ว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่ได้เรียนรู้สิ่งที่ไม่ชอบในชีวิต และเมื่อเด็กได้มีโอกาสทำในสิ่งที่รักและมีทักษะ ก็จะทำให้เค้ามีความสุขกับสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งนั้นได้ดีอย่างไม่ต้องฝืนพยายาม”
สำหรับกิจกรรมวันเชฟสากล หรือ International Chefs Day 2019 จัดขึ้นที่ Inspiration Studio บริษัท เนสท์เล่ ประเทศไทย เปิดโอกาสให้ตัวแทนเด็กนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาที่คัดเลือกมาจาก 6 โรงเรียน และมีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องการทำอาหาร ได้มีโอกาสเข้าร่วมเวิร์คช็อปกับเชฟมืออาชีพ บรรยากาศเวิร์คช็อปเต็มไปด้วยความน่ารักสดใสของเด็กๆ ที่ถูกแปลงโฉมให้กลายเป็นเชฟตัวน้อย พร้อมที่จะสร้างสรรค์เมนูสุดพิเศษ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ถึงโภชนาการสำคัญในมื้ออาหาร
น้องชีต้าร์ ด.ญ.ต้องรัก ทองสกุล เล่าว่า “วันนี้ได้มีโอกาสมาเรียนทำอาหารกับเนสท์เล่ค่ะ หนูทำเมนูอกไก่พันเบคอน พี่เชฟให้หนูกับเพื่อนๆ ได้เลือกผักเพื่อนำมาทำเมนูนี้ด้วยตัวเอง สนุกกันมากเลยค่ะ ได้เรียนรู้ว่าเราควรที่จะรู้จักประโยชน์ของสารอาหารแต่ละชนิด เพราะถ้าวันหนึ่งหนูได้เป็นเชฟ และทำอาหารให้คนอื่นรับประทาน ก็จะได้ทำอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้กับคนนั้นค่ะ ปกติอยู่บ้านก็ชอบทำอาหารอยู่แล้ว แต่จะเป็นเมนูง่ายๆ ที่คุณแม่สอน พอมีโอกาสได้มาวันนี้ ก็ดีใจมากเลย เป็นเมนูที่ไม่เคยทำมาก่อนแต่ก็ทำออกมาได้ ต้องขอขอบคุณพี่เชฟ และพี่ๆ เนสท์เล่ที่ให้โอกาส และให้ความรู้กับหนูค่ะ”
น้องทอฝัน ด.ญ.ฐิติวรดา พรลภัสโอฬาร เล่าว่า “เวิร์คช็อปทำอาหารวันนี้สนุกมากค่ะ หนูอยากเป็นเชฟอยู่แล้ว วันนี้ได้ทำเมนูพอร์คช็อป ได้เรียนรู้เรื่องโภชนาการอาหารที่ดี แล้วก็ได้ความรู้เรื่องการออกแบบตกแต่งจานอาหารให้สวยงามกับเชฟประชันด้วยค่ะ ขอขอบคุณ เนสท์เล่ โพรเฟชชันนัล มากๆ ที่จัดกิจกรรมดีๆ แบบนี้ขึ้นมา หนูตั้งใจว่าจะกลับไปทำเมนูนี้ที่บ้านให้ครอบครัวได้ลองชิมกันด้วย แล้วก็จะหมั่นฝึกฝนทำอาหารค่ะ ”
ติดตามกิจกรรมดีๆ พร้อมรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อส่งเสริมเด็กไทยให้มีสุขภาพที่ดี และแข็งแรงอย่างยั่งยืนได้ที่ www.facebook.com/N4HKThailand
อัลบั้มภาพ 20 ภาพ