The Bubble War : สงครามไข่มุก

ด้วยอากาศที่ร้อนกำลังดีแบบนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการนั่งซด "ชาไข่มุก" เครื่องดื่มสุดฮิต ไม่ว่าหันไปทางไหนต้องแอบเห็นร้านชาไข่มุกปลายหางตา ยิ่งถ้าเป็นศูนย์การค้าหรือสถานีรถไฟฟ้า BTS ด้วยแล้วล่ะก็ ร้านรวงยิ่งเรียงกันเป็นตับคล้ายกับประกาศสงครามกันย่อยๆ ที่แย่ที่สุดเห็นจะเป็นเราที่ต้องหักห้ามใจไม่แวะ "ซื้อ" แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่ได้เสียที!!

ดังนั้นเพื่อ "การดื่ม" อย่างมี "คุณภาพ" ทีมงานจึงขออาสาล้วง แคะ แกะ เกาทุกแง่มุมก่อนจะเป็นชาไข่มุก รวมทั้งแนะนำร้านเด็ดที่ไม่ควรพลาด เพราะศึกครั้งนี้...ใหญ่หลวงนัก (ฮา!)

The Origin of Bubble : ไข่มุก+ชา ส่วนผสมอันลงตัว
เมื่อพูดถึง "น้ำชา" เราคงต้องบอกว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีความใกล้ชิดสนิทแนบแน่นกับคนเอเชียมาช้านาน แต่จะให้กินแค่น้ำชาใสๆ ร้อนๆ ก็คงจะเบื่อแย่ วิวัฒนาการของเครื่องดื่มจึง เกิดขึ้น โดยเริ่มต้นจากชาใส่น้ำแข็ง ก่อนที่พ่อค้าแม่ค้าหัวใสจะได้ไอเดียจากขนมเฟินหยวน (Fen Yuan) ที่ทำจากแป้งมันสำหลังปั้นเป็นรูปกลมๆ ใส่ในน้ำชา ซึ่งผลการทดลองปรากฏว่าอร่อยเข้ากันอย่างเหลือเชื่อ อันเป็นที่มาของเมนูใหม่ที่ทุกคนชื่นชอบ และอย่างที่หลายคนทราบกันเรื่องราวนี้เกิดที่ประเทศ "ไต้หวัน" ราวๆ ปี ค.ศ. 1988

สำหรับชื่อเรียกคนไทยเรียกว่า "ชาไข่มุก" ซึ่งในภาษาอังกฤษก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น Pearl Milk Tea หรือ Bubble Tea แต่ชาวไต้หวันผู้ให้กำเนิดเครื่องดื่มชนิดนี้กลับคุ้นเคยกับคำว่า "โบบาที" (Boba Tea) เนื่องจากคำนี้จะออกเสียงคล้ายกับคำว่า "โบวบา" (Buo Ba) ในภาษาจีนกลางที่มีความหมายสแลงว่า "หน้าอกใหญ่" ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ของไข่มุกที่คล้ายกับหน้าอกของผู้หญิง ประกอบกับวิธีที่จะทำให้ไข่มุกและส่วนผสมของชาเข้ากันอย่างเหมาะเหม็งก็ต้องอาศัยแรง "เชก" อย่างสุดฤทธิ์ และแน่นอนว่าถ้าเป็นแม่ค้าผู้หญิงด้วยแล้ว ส่วนนั้นก็จะ...(จุด จุด จุด)
ใช้จินตนาการล้ำลึกเลยใช่ไหมล่ะ!

(ล้อมกรอบ) - ใช้พื้นที่ข้างหน้าบนในแต่ละหน้า โดยแบ่งออกเป็น 2 หน้า หน้าละ 6 แบรนด์
G & C Choices : พูดเรื่องชาไข่มุกมาตั้งเยอะ ก็ถึงเวลาที่เราจะให้คะแนนความอร่อยของชาไข่มุกกันดูบ้าง โดยผู้ถูกเลือกของเรามีทั้งหมด 12 แบรนด์ดังต่อไปนี้

Mr. Cup T - ราคา 50/60 บาท **ติดโบ (รางวัล) ว่าเป็นที่ 1
แบรนด์ที่ G & C เทใจให้มากที่สุดในเรื่องรสชาติ ความเข้มข้น และกลิ่นหอมๆ ของชาที่ไม่เหมือนใคร ส่วนความหวานนั้นก็อยู่ในระดับพอดี เช่นเดียวกับไข่มุกที่อร่อยเคี้ยวเพลิน ไม่หนึบจนเกินไป คะแนนจึงนำโด่งแซงเพื่อนๆ

Dakasi - ราคา 40 บาท **ติดโบว์ที่ 2
แพ้ไปอย่างฉิวเฉียด เพราะความหอมของชาที่ดูน้อยกว่าแบรนด์แรกไปนิด ส่วนไข่มุกขอบอกว่าอร่อยและดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นความฟูนุ่ม หนึบหนับ จึงขอสรุปว่าใครชอบกลิ่นชาแบบนวลๆ ก็ต้องยกให้แบรนด์นี้เป็นที่หนึ่ง (ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่าสาขาในประเทศจีนรสชาติยิ่งแจ่มสุดๆ)

Pearl Lady - ราคา 45 บาท **ติดโบว์ที่ 3
ชาไข่มุกจากญี่ปุ่นมีสาขาเดียวที่ Gateway Ekamai ซึ่งพกความน่ารักสดใสของแพ็กเกจภาพเด็กนักเรียนตากลมแบ๊ว ซึ่งเราขอให้คะแนนตรงรสชาติและกลิ่นชาที่ทั้งเข้มข้นและแตกต่างจากชาไข่มุกไต้หวัน 2 แบรนด์แรก ส่วนไข่มุกก็เนื้อเนียนนุ่มและเด้ง มีให้เลือกทั้งเล็กและใหญ่

Kamu - ราคา 45/55 บาท
ชาสีสวยน่ากิน รสชาติหวานนำที่พอได้กลิ่นหอมมะลิอ่อนๆ มาพร้อมไข่มุกลูกโตเคี้ยวหนึบพอดีๆ ไม่หวานจนเกินไป ทำให้เวลากินรวมกับชาหวานๆ จึงค่อนข้างลงตัว

Cha Cha Cha - ราคา 40 บาท
ชารสหวานหอมกลิ่นมะลิ (มากๆ) แต่ความเข้มข้นของชาอาจจะดูใสไปหน่อยเมื่อเทียบกับทุกแบรนด์ จึงเหมาะกับคนที่ไม่ชอบชาเข้มข้น ส่วนไข่มุกก็อร่อยเคี้ยวหนึบพอดีๆ แต่ที่ต้องยกให้เห็นจะเป็นแพ็กเกจที่น่ารักจริงๆ

Kyoto Milk Tea - ราคา 50 บาท
ชาไข่มุกร้านใหม่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีสาขาแรกและสาขาเดียวที่ชั้น 3 เซ็นทรัลเวิลด์ เรื่องรสชาติต้องบอกว่ากลมกล่อมใช้ได้มีดีที่ตัวนม แต่กลิ่นหอมของชาอาจเจือจางไปนิด ส่วนไข่มุกก็เคี้ยวหนึบมากๆ ยิ่งตอนดูดครั้งแรกจะสัมผัสได้ถึงความอุ่นและหอมไซรัป จนแอบตกหลุมรักเลยล่ะ

Mr. Shake - ราคา 45 บาท
ชาไข่มุกแบรนด์ไทยที่ฝ่าวิกฤตช่วงชาไข่มุกตกต่ำได้อย่างสง่างาม เรื่องของรสชาติจึงเป็นที่คุ้นเคยของคนไทยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นและความเฝื่อนนิดๆ ที่ปลายลิ้น แม้ชาจะติดหวานไปหน่อย แต่ไข่มุกก็อร่อยเคี้ยวหนึบ

Ochaya Premium - ราคา 60 บาท
หนึ่งในบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคย ซึ่งตอนนี้เพิ่มความแปลกใหม่ในแบบพรีเมียมโดยใช้วัตถุดิบนอก แล้วเพิ่มราคาเกือบเท่าตัว ซึ่งรสชาติที่ได้ก็ยังคงเป็นโอชายะดั้งเดิมกับชานมหอมๆ หวานจับใจ แต่ในสูตรพรีเมียมตัวชามีความละมุนขึ้น ไข่มุกก็เหนียวนุ่มเคี้ยวหนึบเช่นเคย

Bubble Boy - ราคา 40 บาท
เป็นอีกแบรนด์ที่คนส่วนใหญ่ชื่นชอบแม้จะหอมน้อยไปนิด แต่ก็หวานอยู่ในระดับที่คนไม่กินหวานรับได้ ส่วนไข่มุกก็เคี้ยวหนึบหนับ เม็ดกำลังพอดี แต่ด้วยที่ไข่มุกออกหวาน เมื่อกินพร้อมกันอาจจะหว้านหวาน

Coco - ราคา 50 บาท
ชาแบรนด์ดังจากไต้หวันที่มีสาขามากที่สุด ทำให้เราไม่ผิดหวังกับรสชาติชาที่เข้มข้น แต่รสออกหวานไปนิดและไข่มุกที่แน่นหนึบเกินพอดี แถมด้วยรสหวานๆ ของน้ำเชื่อมดูเหมือนจะแทรกซึมสู่ไข่มุกมากเกินไป

Tea Story - ราคา 45/55 บาท
ชารสชาติเข้มข้นแอบเฝื่อนหน่อยๆ มาพร้อมกับรสหวานๆ ส่วนไข่มุกก็เม็ดเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆ ทำให้ดูดง่ายคล่องคอ (ระวังสำลัก) พอเคี้ยวได้แบบเพลินๆ

Mc Bubble - ราคา 35 บาท
เรียกว่าน่าผิดหวังเลยทีเดียว เพราะนอกจากไข่มุกจะแข็งแล้ว เครื่องดื่มที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกันกับที่กดขายในร้าน รสชาติจึงไม่เข้ากันเสียเลย ราวกับคิดเมนูมาเพื่อเกาะกระแส ผิดกับแมคโดนัลด์ทางฝั่งยุโรปที่สร้างสรรค์เมนูชาไข่มุกกันอย่างสุดฤทธิ์