วัคซีนเพื่อแม่ท้อง ตอนที่ 1

วัคซีนเพื่อแม่ท้อง ตอนที่ 1

วัคซีนเพื่อแม่ท้อง ตอนที่ 1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การรับวัคซีนในแม่ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนการตั้งครรภ์ หรือช่วงตั้งครรภ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันแม่และลูกในท้องติดเชื้อโรคที่วัคซีนนั้นป้องกันได้ หากติดเชื้อโรคแม่และลูกอาจเกิดความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงจนถึงกับเสียชีวิต ในขณะที่การรับวัคซีนนอกจากป้องกันโรคได้วัคซีนแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับแม่และลูกในท้องแม้แต่น้อย นอกจากนั้นวัคซีนยังสามารถป้องกันโรคให้ลูกในช่วงหลังคลอดได้อีกด้วยค่ะ

วัคซีนแบ่งง่ายๆเป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. ชนิดตัวตาย (Inactivated Vaccines) วัคซีนชนิดตัวตายนี้ ทำจากจุลินทรีย์ที่ถูกทำให้ตายทั้งตัวหรือบางส่วน เช่น วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ ไวรัสตับอักเสบบี โปลิโอชนิดฉีด ไอกรน ไข้สมองอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ อหิวาตกโรคไทฟอยด์ พิษสุนัขบ้า มะเร็งปากมดลูก ฯลฯ ข้อดีคือไม่น่าจะมีอันตรายใดๆ อาจใช้ในคนท้องได้ นอกจากนี้ ทอกซอยด์ (Toxoid) ซึ่งเป็นสารพิษของแบคทีเรียที่ทำให้ความเป็นพิษหมดไป แต่ยังป้องกันโรคได้ก็ถือว่าเป็นวัคซีนตัวตายชนิดหนึ่ง เช่น วัคซีนคอตีบ และบาดทะยัก

2. ชนิดตัวเป็น (Live Vaccines) ทำมาจากจุลินทรีย์ที่มีชีวิตแต่ทำให้ฤทธิ์อ่อนลงจนไม่ก่อโรคในร่างกายของเรา แต่สามารถกระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทานได้ เช่น วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม อีสุกอีใส ไข้เหลือง (Yellow Fever) บีซีจี (ป้องกันวัณโรค) โปลิโอชนิดกิน ไทฟอยด์ (มีการผลิตทั้งชนิดตัวเป็นและตัวตาย) ฝีดาษ แอนแทรกซ์ ฯลฯ วัคซีนชนิดตัวเป็นนี้เป็นข้อห้ามใช้ในคนท้อง แต่มีข้อดีคือภูมิต้านทานอาจเพิ่มขึ้นมากและเร็วกว่าชนิดตัวตาย แล้ว...แม่ท้องจำเป็นต้องรับวัคซีนทุกคนหรือไม่ คำตอบได้มาจาก สมาคมโรคติดต่อของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ออกประกาศแนวทางการรับวัคซีนในแม่ท้อง ดังนี้

• แม่ท้องควรได้รับวัคซีนบาดทะยัก ไอกรน และไข้หวัดใหญ่ทุกราย (Routine Use)
• แม่ท้องที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรค ควรได้รับวัคซีนที่เหมาะสมกับการป้องกันโรคที่เสี่ยงติดต่อ
• แม่ที่ไม่ได้รับวัคซีนในช่วงท้องเพราะมีข้อห้าม หรือได้วัคซีนไม่ครบ ควรได้รับวัคซีนต่อหลังคลอด
• ต้องตระหนักว่ามีหลายวัคซีนที่ห้ามฉีดในแม่ท้อง

และวัคซีนต่อไปนี้คือ วัคซีนที่ห้ามฉีดในแม่ท้อง แต่ควรฉีดก่อนตั้งครรภ์ เนื่องจากสามารถป้องกันโรคที่อาจเกิดขึ้นขณะท้องและป้องกันลูกหลังคลอด ซึ่งหากไม่ได้ป้องกันโรคเหล่านั้นอาจทำให้แม่และลูกเกิดอันตราย

1. วัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม (Measles, Rubella, Mumps) วัคซีนสามอย่างนี้อยู่ในเข็มเดียวกัน ควรฉีดก่อนท้องเนื่องจากเป็นวัคซีนตัวเป็น หากฉีดในคนท้องอาจเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ วัคซีนนี้ควรฉีดอย่างยิ่ง เพราะ
- โรคหัด หากเป็นตอนท้อง จะเพิ่มอัตราการแท้งและการคลอดก่อนกำหนด สำหรับข่าวลือหนาหูที่ว่า การฉีดวัคซีนหัดอาจเกี่ยวข้องกับการออติซึ่ม (Autism) ในเด็ก งานวิจัยทางระบาดวิทยาไม่พบความสัมพันธ์นี้

- โรคหัดเยอรมัน หากเป็นตอนท้อง จะเพิ่มอัตราการแท้ง คลอดก่อนกำหนด ทารกตายในครรภ์ และความพิการแต่กำเนิด (Congenital Rubella Syndrome) เช่น หูหนวก ตาบอด พิการกระดูกและข้อ หัวใจและระบบประสาทสมองผิดปกติ ซึ่งมีโอกาสเกิดถึงร้อยละ 20-85 หากติดเชื้อหัดเยอรมันก่อนตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ และหากติดเชื้อตอนตั้งครรภ์ 3 เดือนแรก ความพิการของทารกในครรภ์ยิ่งมีโอกาสเกิดสูง

- โรคคางทูม หากติดเชื้อตอนตั้งครรภ์ อาจทำให้ทารกตายในครรภ์และมีความพิการทางหัวใจ

2. วัคซีนอีสุกอีใส (Varicella) การติดเชื้ออีสุกอีใสในขณะตั้งครรภ์ก่อน 20 สัปดาห์ มีโอกาสเกิดความพิการของทารก (Congenital Varicella Syndrome) คือ สมองเล็ก แขนขาไม่งอก ผิวหนังหนาผิดปกติ หูหนวก ถึงร้อยละ 2 วัคซีนนี้ควรฉีดในคนก่อนท้อง เพราะเป็นวัคซีนตัวเป็น ในคนที่เคยรับวัคซีนอีสุกอีใสครบแล้ว หรือเป็นโรคอีสุกอีใส หรือเป็นโรคงูสวัดมาก่อน แสดงว่ามีภูมิต้านทานต่ออีสุกอีใสแล้ว อาจไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนที่กล่าวมานี้ เป็นวัคซีนที่ห้ามฉีดในคนท้องอย่างเข้มงวด ดังนั้นก่อนรับวัคซีน ต้องแน่ใจว่าคนที่รับวัคซีนไม่ท้อง และควรฉีดก่อนท้องอย่างน้อย 28 วัน

แต่อย่างไรก็ตาม หากบังเอิญคุณแม่ท้องฉีดวัคซีนชนิดใดชนิดหนึ่ง งานวิจัยทั่วโลกยืนยัน ไม่พบทารกพิการจากการรับวัคซีนดังกล่าว จึงไม่มีข้อบ่งชี้ที่จะต้องทำแท้งเอาเด็กออกค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ควรประมาทและตรวจเช็กตัวเองทุกครั้งก่อนรับวัคซีนนะคะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก photos.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook