ล้วงชีวิต "บิ๊นท์ สิรีธร" จากสาวออฟฟิศสู่ม้ามืดคว้ามงฯ คบหนุ่ม 1 ปี ยืนหลบหลังเสาให้กำลังใจ

ล้วงชีวิต "บิ๊นท์ สิรีธร" จากสาวออฟฟิศสู่ม้ามืดคว้ามงฯ คบหนุ่ม 1 ปี ยืนหลบหลังเสาให้กำลังใจ

ล้วงชีวิต "บิ๊นท์ สิรีธร" จากสาวออฟฟิศสู่ม้ามืดคว้ามงฯ คบหนุ่ม 1 ปี ยืนหลบหลังเสาให้กำลังใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.55  - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (28 พ.ย.) พิธีกรสาว ดร.บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ได้เปิดใจสัมภาษณ์  บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทย 2562 ที่ไปคว้ามงกุฎบนเวที Miss International 2019 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นมาได้สำเร็จ ในรอบ 59 ปี


เราไม่เห็นภาพมีขบวนแห่นางงามมานานแล้ว หนูเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้อยู่บนขบวนแห่ รู้สึกยังไง?
"โหย ต้องบอกว่าดีใจที่สุดในชีวิต ตอนเด็กๆ แม่เปิดรูปให้ดูบ้าง มีพี่ปุ๊ก พี่ปุ๋ยได้นั่งแบบนี้ เราก็ไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะได้นั่ง จนวันนี้ที่เราทำสำเร็จแล้ว มันเหมือนเป็นความภูมิใจของเรา ภูมิใจที่สุดเพราะเราได้ทำให้ประเทศ คนไทยเห็นและมาร่วมต้อนรับเรา มันพูดออกมาไม่ถูกเลย"

คนไปดูทะเบียนรถ?
"ใช่ค่ะ เห็นคนไปคอมเมนต์ว่าทะเบียนรถอะไรน้า"


ทะเบียนรถตรงกับคุณปุ๊ก อภัสรา คว้ามงกุฎให้ประเทศไทย นั่งรถทะเบียนเดียวกัน?
"ใช่ค่ะ คิดว่าน่าจะเป็นงวดสำคัญ ทุกคนรอลุ้น(หัวเราะ)"


เป็นคนที่มีกระแสด่าเยอะมาก โดยเฉพาะวันที่รองอันดับ 1 ลาออกจากตำแหน่ง ย้อนความรู้สึกในช่วงนั้นเป็นยังไง บางคนด่าแล้วแท็กชื่อว่าไม่เห็นสวย?
"วันแรกที่ได้มงกุฎ เราคิดว่าต้องมีแต่คนดีใจกับเราแน่เลย ไปเปิดคอมเมนต์ดูมีแต่คนด่า วันแรกร้องไห้เลยค่ะ แต่วันที่สองได้นอนปุ๊บ ตื่นมาปุ๊บ ก็คิดว่าเขาด่าเราทำไม เราเป็นคนชอบวิเคราะห์ ถ้าด่าเพราะเราไม่สวย บิ๊นท์มองว่ามันพัฒนากันได้ เราก็พัฒนาสิ ให้เขาเห็น เขาตำหนิเพราะอะไร เขาตำหนิเพราะอยากได้ตัวแทนประเทศที่ดีที่สุด โอเค งั้นเราไม่จำเป็นต้องคิดมาก เราลุยต่อ เราพัฒนาต่อ บิ๊นท์เชื่อว่าถ้าเราทำดีขึ้นเรื่อยๆ คนไทยต้องเห็น บิ๊นท์ก็ปรับปรุงทุกอย่าง"

มีเวลาแค่ 27 วันเท่านั้น ซึ่งบิ๊นท์ต้องสู้เยอะมาก เพราะมีเวลาเตรียมตัวเองน้อยมาก แต่ต้องพัฒนาตัวเอง?
"จังหวะนั้นทำอะไรก็ได้ ให้เราเป็นตัวแทนที่ดีที่สุด ถึงแม้เรารู้สึกว่าเรายังไม่ที่สุดหรอก แต่ต้องดีที่สุดของเรา"


ทำอะไรบ้าง?
"เจอหมอ หน้าเราต้องดูแลผิว ดูแลหน้าให้เข้ารูปที่สุด เดี๋ยวหน้าบานออก เวลาเข้ากล้อง ก็นิดนึงให้เข้ารูป"


เดี๋ยวนี้โบท็อกซ์เป็นเรื่องปกติ?
"ปกติ แล้วเรื่องรูปร่าง ก็ขอบคุณพี่บุ๋ม เพราะพี่บุ๋มใจมาก บอกว่าไปเข้ายิมพี่บุ๋มเลย ฟรี และมีเทรนเนอร์ให้ด้วย"


จับเข้าคอร์สโหด ไม่งั้นไม่ทัน เพราะที่ผ่านมาเป็นพนักงานออฟฟิศ?
"ใช่ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย และกินเยอะ เราไม่เคยเดิน ยิ่งส้นสูงไม่เคยแตะ ไม่เคยประกวด ไม่เคยแตะส้นสูงเพราะเป็นคนสูง เอาสบายๆ ตามสไตล์เด็กเรียน พอมาใส่ส้นสูงความเจ็บปวดก็เยอะมาก เดินไม่เป็น เจ็บอีก แต่เจ็บแล้วก็หยุดไม่ได้ต้องสู้ต่อ ก็ค่อนข้างหินสำหรับร่างกายเรา ตอนนั้นใจเราก็สู้ เพราะทีมงานเราเต็มที่ รวมถึงสปีด จิตวิทยา ต้องคุยกัน บิ๊นท์ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้หรือเปล่า แต่การมีจิตวิทยาในกองประกวด ทำให้เรายังคงที่ ว่าเราเป็นแบบนี้ดีแล้ว ไม่ต้องไปกดดัน พูดอย่างนี้ แสดงความคิดเห็นแบบนี้ไปเลย"


รู้สึกยังไง เขาว่าเป็นม้ามืดปล้นมงฯ ไม่ใช่ตัวเก็ง?

"จริงๆ ชอบนะคะ (หัวเราะ) มันเป็นข้อดีกับการที่เราไม่ใช่ตัวเก็ง เราไม่กดดันอะไรเลย เราเป็นตัวเอง ถ้าจะได้ก็ได้เพราะความเป็นเรา พอเราได้มงฯ มาทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์ดี ทุกคนหันมามองว่าอะไรที่ทำให้บิ๊นท์ได้ บิ๊นท์ก็อยากสเปซออกไปว่า การเป็นตัวเองดีที่สุด บิ๊นท์คิดว่าถ้าเป็นนางงามยุคใหม่ การเป็นตัวเองมันมีเสน่ห์มาก ไม่ต้องโพสต์เยอะ เราเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น"


อาจเป็นจริตเวทีนี้ที่ชอบความเป็นธรรมชาติ?
"ใช่ค่ะ จริตอาจไปตรงด้วย"


อะไรทำให้ชนะ?
"ความเป็นธรรมชาติเลย อย่างที่บอก เวทีนี้มีหน้าบ้านกับหลังบ้าน ซึ่งเขามีการเก็บคะแนนตลอด เขาให้ความสำคัญกับหลังบ้านด้วย ความนิสัยญี่ปุ่นเนอะ เขามีความปราณีต เขาไม่ได้ดูแค่หน้างานคุณเป็นยังไง แต่เขาดูหลังงานคุณเป็นยังไง นิสัยเป็นยังไง ไม่ใช่สวยอย่างเดียวนะ แต่เขามีเสน่ห์ด้วยหลังเวที มีนิสัยดีนะ ตรงต่อเวลานะ เรื่องนี้สำคัญมาก เขาตรงเวลามากๆ"


เห็นเดินเทียบกับมิสเวเนซุเอล่า คุณนอยด์ อยากเดินทิ้งสะโพกแบบเขาบ้าง?
"ใช่ (หัวเราะ) อยากเดินแบบนั้นบ้าง ซึ่งยากมาก"


รูมเมทที่อยู่ด้วยกัน ใครบ้าง?
"มีคนเดียวเลย คือสาวมาเลเซีย เป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกสบายใจ โผงผางเหมือนกัน คุยกันได้ทุกเรื่อง สามารถโป๊ต่อหน้ากันได้ ชิลๆ เหมือนกัน ที่ต้องโป๊ เพราะเวลาน้อยมาก 5 นาทีก็มี"


ไม่ได้มองเขาเป็นคู่แข่งเลยเหรอ?
"ไม่ได้มอง และบิ๊นท์คิดว่าเขาก็ไม่ได้มอง"


ประเทศอื่นชอบมาหาบิ๊นท์ ชนะใจเพื่อนๆ นางงามเพราะยาดม?
"จริงค่ะ (หัวเราะ) ตอนหนูไปใหม่ๆ หนูพกยาดมไป 2 แผง หนูติดยาดม หนูก็อยากให้เพื่อนๆ รับรู้ความดีงามของมัน หนูก็แจกเพื่อนสนิทก่อน ปรากฎว่ารูมเมทขอใหม่ 4-5 แท่ง ด้วยความรีบ บางทีโยนทิ้งไปกับชุด เขาบอกว่าติดมันมาก ชอบมาก รู้สึกสดชื่นจังเลย เราก็เลยรู้สึกกระแสดี อยากให้คนรู้จักของดีของประเทศไทย เลยบอกพี่ๆ ว่าเดี๋ยวถ้ามาเอามาโหลนึงเลย เอามาให้ครบทุกคน ผู้เข้าประกวด 83 คน ก็ให้ทุกคน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร คิดแค่อยากให้ มันเก๋ เป็นของไทย เขาจะได้อยากมาประเทศไทยด้วย เลยกลายเป็นมิสยาดม (หัวเราะ)"


จากน้องบิ๊นท์ม้ามืด กลายเป็นควีนบิ๊นท์ของทุกคน?
"โอ้โห หนูรู้สึกว่ามันสูงส่ง หนูยังเขินๆ กับคำนี้อยู่ค่ะ ตกใจที่เรียกแบบนี้"


นอกเหนือจากเรื่องยาดม สิ่งมัดใจเพื่อนๆ นางงาม ปาร์ตี้มาม่าคืออะไร?
"หนูรู้สึกของเรามีดี หนูชอบอวดความดีงามของประเทศไทย เราพกไปเต็มมาก หนึ่งในนั้นมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เราก็ชวนเขาว่ามามั้ย เขาก็มากัน 4-5 ประเทศ เราก็ไลฟ์คุยกับแฟนๆ มีประเทศจีนเขาชอบมาก เขาซดดังมาก หมดทุกถ้วยค่ะ เขาตามเก็บน้ำซุป 4 ถ้วย ชอบมาก เราเอารสชาติต้มยำกุ้งไปอย่างเดียวเลย"


เห็นว่าบางทีรูมเมทย่องมาดูลุคบุ๊กเรา คืออะไร?
"ตอนนั้นเปิดดูลุคบุ๊ก เพราะต้องเตรียมแผนไปว่าต้องใส่อะไรไปเจอผู้ใหญ่ มันก็เป็นความลับนิดนึงว่าเราจะใส่เสื้อผ้าอะไรในแต่ละวัน ทีนี้พอเราเปิดดู เขาก็เดินมาทางด้านหลัง เราก็ถามว่าดูอะไร เขาบอกไม่เคยรู้เลยว่ามีลุคบุ๊กด้วย ขอดูหน่อยสิ (หัวเราะ) เราก็กลัวไง ว่าเป็นความลับมั้ย เราใหม่กับเวทีนี้ เขาขอดูก็ไม่มีอะไร เขาชมว่าสวย"


บางครั้งต้องไปแอบคุยในห้องน้ำ เพราะอะไร?
"มันเป็นสปีดค่ะ เราคิดว่าเป็นอีกหัวข้อนึง ด้วยความที่เวทีนี้เขาจะมีบอกหัวข้อมาก่อน เพื่อให้เราเตรียมพับบลิกสปีด 3-4 วันเขาเปลี่ยนพับพลิกสปีด หนูก็พูดกับครูว่าหนูอยากเปลี่ยนมาพูดแบบนี้ ลองพูดให้ครูฟัง ซึ่งมันความลับอ่ะเนอะ โมเมนต์ 8 คนสุดท้าย ถ้าเราเข้ากันทั้งคู่ มันก็ต้องเป็นความลับจริงๆ เราก็ปรึกษาครูว่าพูดแบบนี้ดีมั้ย"


คุณเอาตัวรอดจากการแย่งซีนยังไง?
"เขาแย่งกันอยู่กลางใช่มั้ยคะ หนูก็อยู่ริมเลยค่ะ หนูไม่ซีเรียสเรื่องถ่ายรูป บางทีถ่ายรูปรวมหน้ามันเล็กๆ หมดเลย หนูรู้สึกแค่ว่าอยากเอ็นจอยกับเพื่อนๆ ตรงไหนก็ได้ แต่ก็แอบทำการบ้านว่าอย่าหายไปเลย เราก็เดินไปอยู่ริม หรือคนไม่อยากนั่ง เรานั่งก็ได้ แต่ให้เห็นหน้าเราหน่อย แต่สำหรับหนูไม่ได้สำคัญ หนูเหนื่อยจะไปแย่งซีนกับใคร"


สปีดที่พูดหลายคนบอกว่าเหมือนมาจากใจ เป็นธรรมชาติ เตรียมมาอยู่แล้ว หรือคิดอะไรไม่ออก แล้วพูดเลย?
"เตรียมมาก่อนค่ะ เตรียมมา 3 วัน เขาให้หัวข้อมาก่อน จุดประสงค์คือให้เชียร์ผู้หญิง ญี่ปุ่นเขาอยากให้ผู้หญิงมีบทบาทมากขึ้น เพราะผู้หญิงจะอยู่หลังบ้าน หนูก็ยกตัวเองขึ้นมา เราเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ถ้าฉันได้โอกาสมายืนบนเวทีนี้ ถ้าฉันทำได้ คุณก็ทำได้ เพราะเรามาจากความธรรมดาเหมือนกันเลย"


พอพูดสปีดของตัวเอง คิดว่าจะชนะมั้ย?
"ไม่ได้คิดว่าจะชนะ แต่คิดว่าสปีดเราแตกต่าง เพราะเรายกตัวอย่างตัวเอง คิดนะว่าเข้าถึงง่ายดี แต่สปีดคนอื่นก็ดี สวยงาม มีพลัง"


ตอนยืนสี่คนสุดท้าย แล้วกลายเป็นท็อปเอเชีย รู้สึกยังไง?
"เราไม่ได้กลัวอะไร เพราะเราแตกต่างมานานแล้ว เราไม่ติดโพลเหมือน 3 คนนี้ ไม่เป็นไร เราก็เต็มที่ เราพูดสปีดไปแล้ว เราโล่งแล้ว"


พอประกาศตู้มทำไมดูงง?
"งงจริงค่ะ ตอนนั้นบิ๊นท์ชอบหลอกตัวเองก่อน คาดหวังให้ต่ำเลย ไม่ได้หรอก เราแค่ต้องการสื่อสารแบบนี้ ไม่คาดหวังว่าต้องชนะ เราก็คิดว่าไม่ได้หรอก พอเราได้จริงๆ เราก็เฮ้ย ได้ยังไง ได้ยินว่าไทยแลนด์ แต่เหมือนสมองหมุนติ้วไปเลย ว่าเราได้ที่หนึ่งเหรอ พอเพื่อนกอดปุ๊บมันก็ท่วมท้น เออ เราได้"


พยายามบังคับตัวเองไม่ให้ร้องไห้?
"ใช่ แต่ก็ร้อง เพื่อนก็ร้องหมดเลย แล้วจังหวะกอด เพื่อนก็ปาดเอาคิ้วไปด้วย (หัวเราะ) ในรูปจะเห็นคิ้วข้างนึงสูง ข้างนึงต่ำ เพราะเขาปาดไปหมดเลย (หัวเราะ) แต่อาจเป็นไปได้ว่าเขียนไม่เท่ากัน เพราะเขียนเอง เวลาจำกัด ไม่ได้แก้อะไรเลย"


มงกุฎใส่ยากขนาดไหน?
"น่าจะยากค่ะ เพราะมิสอินเตอร์ฯ ปีที่แล้ว ใส่ผิดด้านค่ะ (หัวเราะ) เขาก็อุ้ย ผิดด้าน ปีหน้าทำให้ดีกว่าฉันนะ ต้องซ้อม (หัวเราะ) เราไม่เคยจับมงกุฎ เราจะโดนสวมอย่างเดียว"


มงกุฎมูลค่าสูงมาก หนูไม่มีสิทธิ์แตะ?
"มงกุฎ 17 ล้าน สูงมาก"


ต้องเป็นบุคคลในกองประกวดระดับสูงเท่านั้นที่จับได้?
"ใช่ค่ะ ซึ่งพิเศษมาก เขาไม่เคยให้เอาออกนอกประเทศเขาเลย ครั้งนี้ภูมิใจมาก ทีมไทยก็ให้เขามาด้วยเลย เขามาคุ้มกัน เอาเซฟมา เอามงกุฏออกมาสวมให้ มงกุฏเปื้อนเครื่องสำอางเป็นแถบเลยค่ะ (หัวเราะ) ใส่เองไม่ได้ แต่เราก็มีจับๆ บ้าง เพราะมันไหล แต่พยายามไม่โดนไข่มุกของเขา"


งานในประเทศไทย?
"จริงๆ องค์กรเขาไม่ได้มีภารกิจเยอะมาก เป็นครั้งๆ ไป อย่างประเทศนี้อยากให้ไปมอบมงฯ เราก็ไปครั้งนึง แล้วก็กลับมาที่ไทยอยู่ดี เขาสบายๆ เขาเต็มใจจะให้ แค่อยากให้เราเป็นตัวแทนผู้หญิง ที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนในโลกมีพลัง"


คนไปต้อนรับที่สนามบินเยอะมาก?
"หนูตกใจ ตอนแรกคิดว่าจะมีคนมาเหรอ เพราะมันเป็นวันธรรมดา แล้วที่ทำงานก็คงไม่ใกล้สุวรรณภูมิ เราก็กำหนดความคาดหวังไว้ มาน้อยๆ ก็โอเค มีความสุข แต่พอออกมา เยอะกว่าที่คิดอีกแล้ว ก็เซนซิทีฟ น้ำตาไหล มาเยอะจังเลย"


วางแผนอนาคตตัวเองอย่างไร?
"ตอนนี้คิดว่าเภสัชกรอาจต้องหยุดไปก่อน เพราะภารกิจค่อนข้างแน่นเลยค่ะ งานเภสัชกรดร็อปไปแล้ว แต่คิดว่าวันหนึ่งต้องได้กลับไปอยู่แล้ว เพราะเป็นงานที่เรารักอยู่แล้ว อีกหน่อยอยู่ตัว หรือทำงานฝั่งนี้จนอิ่มแล้ว เราก็มีความฝันอยากเปิดร้านขายยา ทำงานกับชุมชน"


งานในวงการบันเทิง?
"เปิดรับเต็มที่เลยค่ะ มันเป็นอีกหนึ่งความฝัน เราก็ตื่นเต้นกับมัน เรายังไม่รู้ความถนัดเลยค่ะ ด้วยความที่เราก็ใหม่กับทุกอย่าง อาจต้องเรียนหรือลองทำดูก่อน เราถึงจะรู้ แต่ลึกๆ ชอบแฟชั่น ปกติจะแต่งตัวแนวเท่ๆ หน่อย"


ทำไมอยากเล่นละครเป็นนางร้าย?
"ชอบพี่กิ๊กเฉยๆ ค่ะ (หัวเราะ) เวลาดูนางร้ายแล้วสนุกจังเลย แต่อยากลองทุกอย่าง อาจเริ่มนางเอกก่อนก็ได้เนอะ จะได้เข้ากับลุคนางงาม (หัวเราะ)"


สวยขนาดนี้ มีคนคุยด้วยหรือยัง?
"มีแล้วค่ะ คุยกันประมาณปีครึ่ง ช่วงแรกๆ ที่เราได้ตำแหน่งเขาก็ช็อก มองเราเปลี่ยนไปว่านี่ใคร เขาตกใจ ณ วันที่เข้าประกวดนางสาวไทยเขาก็ไม่ได้คิดอะไร เขาไม่คาดหวังว่าเราจะได้ เพราะไม่มีอะไรมาก่อนเลย เป็นเด็กธรรมดา ทำงานออฟฟิศ ใส่แว่น เป็นใครก็ไม่คิด ตัวหนูก็ไม่คิดค่ะตอนนั้น"


อะไรที่ทำให้ประทับใจ?
"เราคุยกันเข้าใจ รู้เรื่อง เป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุมากกว่า 1 ปีค่ะ"


มารับที่สนามบินแต่แอบอยู่หลังเสา?
"ใช่ค่ะ เขามาดู มาชื่นชม หลังไมค์ก็บอกว่าดีใจด้วยนะ ไม่คิดว่าคนจะมาเยอะจริงๆ ดีใจกับเธอด้วย"


จะทำให้ห่างเหินกันมั้ย?
"บิ๊นท์ว่าเราโตแล้ว ความเข้าใจสำคัญ อนาคตบิ๊นท์ไม่รู้ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจบิ๊นท์ บิ๊นท์เข้าใจเขา"


ถ้าวันหนึ่งเขาถอย จะเสียใจมั้ย?
"ถ้าเขาจะถอยก็ให้เป็นเรื่องอนาคตดีกว่านะ ตอนนี้หนูไม่ได้นึกถึง หนูขอโฟกัสที่ปัจจุบันดีกว่า หนูมีความสุข หนูโอเคแล้ว อนาคตจะเป็นยังไงก็ให้มาถึงแล้วค่อยคิด ช่วงนี้โอกาสมาแล้ว เป็นสิ่งที่เราอยากทำอย่างหนึ่งในชีวิตเลย เราก็ลุย เขาเข้าใจและอยู่ข้างๆ ก็โอเค"


อยากพูดอะไรคนที่เคยบูลลี่ เคยด่าสารพัด?
"หนูไม่มีความรู้สึกว่าซีเรียสกับคำพูดพวกนั้น ตั้งแต่วันที่สองที่ได้รับมงกุฎแล้วค่ะ หนูโดนด่าแรงมากแต่ไม่เป็นไร หนูมองว่าทำให้หนูพัฒนามาก ตอนหลังๆ ก็หัวเราะกับทีมว่าดูสิ เขาก็สรรหาคำด่าเนอะ มันขำๆ เพราะมันคือการบูลลี่ภายนอก หนูคิดว่าถ้าภายนอกไม่ได้ซีเรียสกับหน้าตามากมายอยู่แล้ว หนูมองเรื่องการพัฒนาตัวเอง พิสูจน์ให้คนเห็น หนูมองว่าคำติเหล่านั้น สามารถพัฒนาให้เขาเห็นได้ สุดท้ายเขาก็มาเชียร์เรา ถ้าจะบอกก็ต้องขอบคุณ เพราะทำให้บิ๊นท์พัฒนามาถึงจุดนี้"

อัลบั้มภาพ 54 ภาพ

อัลบั้มภาพ 54 ภาพ ของ ล้วงชีวิต "บิ๊นท์ สิรีธร" จากสาวออฟฟิศสู่ม้ามืดคว้ามงฯ คบหนุ่ม 1 ปี ยืนหลบหลังเสาให้กำลังใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook